ทำไมต้องเรียนบัญชี เรียนไปทำไม ...?
ไม่เรียนแล้วจะเป็นอย่างไร จะตายไหม เรียนหรือไม่ได้เรียนจะแตกกันอย่างไร...?
นั่นน่ะสิ ทำไมต้องเรียนบัญชี
คำถามสำคัญสำหรับ "การจัดการความรู้" ว่า "ทำไมต้องเรียนบัญชี"
ทำไมต้องถามทุกคนในเวที
ทำไมไม่บอกเขาไปเลยล่ะ
"เราจะเลือกถามเพื่อจัดการความรู้ หรือบอกเพื่อสอนหรือป้อนเขาล่ะ"
ทำไมต้องเรียนบัญชีครับ ทำไมต้องเรียนบัญชีค่ะ.........
ถามเพื่อจัดการความรู้ ระดมสมอง
ต้องย้อนถามกลับมาว่า ถามไปเพื่อให้ใครรู้ "เขาหรือเรา"
เราจัดการความรู้เพื่อเขา
เพื่อให้เขารู้
ให้เขารู้โดยการสอนเขา หรือจะให้เขารู้โดยเขาบอกตัวเขาเอง
วิธีการใดจะเกิด "ฉันทะ"
วิธีการใดจะเกิด "ปัญญา"
และวิธีการใดที่จะเกิดความ "ตระหนัก"
ในการที่จะนำสิ่งที่ได้รู้ สิ่งที่ได้ร่วมเรียนรู้ สิ่งที่ได้ร่วมกันจัดการความรู้
ว่าทำไม ทำไม และทำไม...
ทำไมฉัน ทำไมเธอ ทำไมพวกเรา และทำไมพวกเขา ถึงต้องทำหรือทำไมถึงต้องไม่ทำ
นั่นน่ะสิครับ "ทำไมต้องเรียนบัญชี........."
กิจกรรมถัดมา "ทำไมต้องเรียนบัญชี"
กิจกรรมนี้เอาจริงเอาจังครับ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความ "ตระหนัก" ที่เกิดจากใจของทุก ๆ คนร่วมกันสร้างขึ้นมา ร่วมกันจัดการความรู้ให้เกิดขึ้นมา
"เรียนไปทำไม เรียนแล้วได้อะไร"
ที่สำคัญ
"เรียนแล้วชีวิตฉันจะดีขึ้นไหม"
ให้เขาให้คำตอบกับตัวของเขาเอง
การอบรม สัมมนา ไม่ว่าจะอบรมที่ใด ไกลสักเพียงไหน ห้องประชุมเลิศหรูขนาดใด อาหารจะเลิศรสถึงขั้น APEC
แต่ถ้าไปแล้ว อบรมแล้ว สัมมนาแล้ว
"ว๊า ไม่เห็นมีอะไรดีเลย กลับบ้านนอนดีกว่า"
แค่นี้ก็จบ
วิทยากรจะเก่งสักแค่ไหน สุดยอดคุณเอื้อ อภิมหาคุณอำนวย และสุดยอดฝีมือผู้ช่วยสักสิบคุณลิขิต
ก็ต้องย้อนกลับมาทบทวนกับประโยคที่ว่า
"อบรมแล้วเรียนแล้ว ฉันได้อะไร ผมได้อะไร หนูได้อะไร คุ้มค่ากับการที่จะนำสิ่งที่อบรมไปใช้ไหม"
คำตอบนี้นักวางแผนออกแบบกิจกรรมทุก ๆ กิจกรรม ควรคิดให้รอบคอบ
เพราะถ้าคุ้ม "จัดที่ไหน ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอาหาร ไม่มีเบี้ยเลี้ยง ไม่มีค่าเดินทาง" แต่คุ้มค่าสำหรับชีวิตเขา เขาก็จะมา
มาแบบเต็มใจ และนำกลับไปใช้อย่างมี "ฉันทะ" อย่างแน่นอน.....