ช่วงปี พ.ศ. 2520 – ต้นปี พ.ศ. 2535 เป็นช่วงที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ ฯ เมืองหลวงของประเทศไทย...และวัดราชนัดดาราม...หลังโรงหนังเฉลิมไทยในอดีตคือที่พักอาศัย...
ผมเริ่มเรียนทางโลกอีกครั้ง...โดยการไปซื้อหนังสือสอบเทียบ ป. 7 มาอ่านเองครับ...มีขายที่แผงข้าง ๆ สนามหลวง...ซึ่งบัดนี้ย้ายไปขายที่สวนจตุจักรแล้ว...พอสอบผ่านก็เรียนต่อมัธยมต้น...
มัธยมปลายครับ...ช่วงเรียน ม. ศ. 4 พอสอบได้รุ่นหลังผมต้องเรียน ม. 4 ครับ
ช่วงเรียน ม.ศ. 5 มีการเลือกประธานนักเรียน...หาเสียงเหมือนสมัคร ส.ส. เลยครับ...มีผู้ลงสมัคร 6 คน วันลงคะแนนมาถึง จำนวนผู้ลงคะแนน 1000 กว่าคน ได้เบอร์ 4 ตามหมาย
เลขห้องเรียน คือม.ศ. 5 มี 6 ห้องเรียนครับ ฮา ๆ เอิก ๆ และเบอร์ 4 คือผมเองครับ...งานกิจกรรมเยอะมาก ๆ เวลาสอบจึงดึงเกรดลงแต่ก็ผ่านไปได้ครับ...
ช่วงผมอยู่กรุงเทพฯ...สังเกตุเห็นคนไทยอีสานไปอยู่ที่นี้เยอะมาก...และมีทุกสาขาอาชีพ...เป็นคนใช้ในบ้าน...คนขับรถตุ๊ก ๆ คนขับรถแท๊กซี่...กรรมกรสร้างตึก...ฯลฯถ้าผมไม่เรียนหนังสือ...ผมคงเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นครับ...ผมเป็นคนฝืนดวง...หมอดูที่ทาย
แม่น ๆ ฮา ๆ เอิก ๆ...ทายยังไม่ตรงกับสิ่งที่ผมเป็นอยู่...คุณเชื่อหมอดูมั๊ยครับ...
เวลาว่าง ๆก็ไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน...พี่ชายผมเขาชอบงานศิลปะสมัครสอบวุฒิครู พ.ม.ช. ( พิเศษมัธยมการช่าง )ได้ ผมก็ สมัครตามคือ พ.ป.ช. ( ครูพิเศษประถมการช่าง ) เข้าไปวาดภาพที่โรงเรียนเพาะช่าง...ข้าง ๆวัดเรียบ ใกล้สะพานพุทธยอดฟ้า ฯ ครับ เพราะเลือกเอกจิตรกรรม...
งานสอบมีทั้งปั้นดินกับน้ำให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นแจกันบ้าง...ที่เขี่ยบุหรี่บ้าง...หน้ากากบ้าง...แล้วครูมาตรวจให้คะแนน...
ส่วนการวาดภาพ...มีสีน้ำ...วาดหญิงสาวใส่เสื้อสีฟ้าบาง ๆ...เธอเป็นแบบนั่งอยู่ในกลางห้องมีผู้เข้าสอบล้อมวง...และวาดภาพ...พอหมดเวลาสอบ...ครูก็มาตรวจให้คะแนนครับ...ตรงหลังคาวัดเรียบนั้น...ใช้สอบพวกลวดลายไทยมีช่อฟ้า...ใบระกา...หางหงส์ครับ...
ผมสอบผมผ่านครับ...เลยใช้วุฒินี้สมัครสอบครู พ.ม. และสอบได้ครับ...อย่างน้อยเมื่อกลับบ้านคงไปเป็นครูบ้านนอก...ที่ผมคิดไว้ในสมัยนั้น...และเกิดแนวคิดในใจว่า...ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้ว่าตนเองโง่...ฮา ๆ เอิก ๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...umi
ไม่มีความเห็น