คำสอนของพ่อเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”


เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ทันสมัยอยู่เสมอ และสอดคล้องเหมาะควรกับประเทศไทยและคนไทยทุกยุคทุกสมัย

     ทุกครั้งที่บ้านเมืองประสบภาวะวิกฤต ทุกคนจะคิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระองค์ได้ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรมาโดยตลอด ยามนี้กระแสสังคมมีการพูดถึง พระราชดำรัสเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่พระองค์ได้เคยพระราชทานแก่รัฐบาลชุดต่างๆ และคณะบุคคลที่ได้เข้าเฝ้าฯ

     ต่อไปนี้คือบางส่วนของพระราชดำรัสที่พระองค์ได้พระราชทานแก่รัฐบาลและคณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าถวายพระพรเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 โดยได้สรุปย่อไว้เพื่อเป็นแนวทาง (จำง่าย ๆ) สำหรับ "เครือข่ายไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน" จะได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดเวทีเสวนากับภาคประชาชนในโอกาสต่าง ๆ และอยากแนะนำให้อัญเชิญขึ้นเพื่อเปิดการเสวนาทุกครั้ง


ภาพต้นฉบับบางภาพที่นำตกแต่นำมาจาก http://www.sarakadee.com/photocontest/
เป็นภาพของของคุณชนะศักดิ์ ชุมนุมวรรณ และคุณพัชรินทร์ แสนยัน

     วิกฤต...อะไรที่ควรทำ อะไรที่ควรเว้น
     "ดังนี้ ทำให้ได้คิดว่า ทำไมวิกฤตการณ์เกิดขึ้นได้ เราเป็นเมืองอุดมสมบูรณ์ และเราได้ชื่อว่ากำลังก้าวหน้าไปสู่เมืองที่เป็นมหาอำนาจทางการค้า ทำไมเกิดวิกฤตการณ์"

     ทำอย่างเหมาะสมกับอัตภาพ 
     "อย่างนี้แสดงให้เห็นว่า ทำโครงการอะไรต้องให้นึกถึงขนาดที่เหมาะสมกับที่เรียกว่า อัตภาพหรือกับสิ่งแวดล้อม"

     รอบคอบและอย่าตาโต 
     "ข้อสำคัญอยากจะพูดถึงว่า ถ้าหากว่าเราทำโครงการที่เหมาะสม ขนาดที่เหมาะสม อาจจะไม่ดูหรูหรา แต่ว่าจะไม่ล้ม หรือถ้าล้มถ้ามีอันตรายไปก็ไม่เสียมาก "

     เศรษฐกิจแบบพอเพียง 
     "การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินหมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ให้มีพอเพียงกับตัวเอง"

     ต้องถอยหลัง เพื่อก้าวหน้า 
     "ผู้ที่ชอบเศรษฐกิจแบบสมัยใหม่อาจจะไม่ค่อยพอใจ มันต้องถอยหลังเข้าคลอง มันจะต้องอยู่อย่างระมัดระวัง และต้องกลับไปทำกิจการที่อาจจะไม่ค่อยซับซ้อนนัก คือใช้เครื่องมือที่ไม่หรูหรา อย่างไรก็ตามมีความจำเป็นที่จะต้องถอยหลังเพื่อที่จะก้าวหน้าต่อไป และถ้าไม่ทำอย่างที่ว่าก็จะแก้วิกฤตการณ์นี้ยาก"

     ใช้สติปัญญา ทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม 
     "ยังไม่ได้พูดถึงคำที่ทุกครั้งเคยพูดว่าต้องสามัคคีกัน ต้องอย่าปัดขากันมากเกินไป แต่ว่าไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีการทำแบบที่บางคนนึกจะทำ คือจะต้องให้ทุกคนมีโอกาสทำงานตามหน้าที่ และเมื่อทำงานตามหน้าที่แล้วก็หวังดีต่อผู้อื่น อันนี้เป็นหลักที่สำคัญ คือทำงานด้วยการเห็นอกเห็นใจกัน และทำด้วยความขยันหมั่นเพียร"
     "วันนี้ได้พูดเรื่องราวที่อาจจะน่าคิดและท่านเองเป็นผู้ที่มีความรู้ก็ต้องใช้ความรู้ความฉลาดที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ ในการนี้ขอให้ทุกท่านซึ่งมีหน้าที่แต่ละท่านพยายามใช้สติปัญญาและกำลังให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งนี้ ประเทศชาติจะก้าวหน้าและมีความปลอดภัยต่อไป"

     ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ อ้างถึงจาก สุดิพันธ์ดอทเน็ต --> คลิ้กอ่านเอกสารฉบับเต็ม

อนุชา  หนูนุ่น  1 ต.ค. 2548

หมายเลขบันทึก: 4818เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2005 19:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อ่า เป็น .. เป็น เป็น บล็อก เค้าเรียกว่าบล็อกใช่ไหมคะ นู๋เรียกมะถูกค่า ถ้าผิดต้องขออภัยด้วยค่า ก็ดีมากเลยค่า และก็ไม่รู้จะพูดไงต่อดี แบบว่าพูดไม่เก่ง อ่า ........

     ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ

     ปีนี้พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสถึงอีกครั้งนะครับ

กลุ่มเด็กว้าก(รองพระเจ้าว้ากเขียน)
ดีเหมือนกันจะได้นำมาเป็นข้อมูล

ดิฉันชอบเศรษกิจพอเพียงมากค่ะ เเละจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท