เช้าวันที่ 30 สิงหาคม 2549 ฟังรายการอุษาพาชื่น ได้โทรไปหา นพ.ชาตรี เจริญศิริ ปรากฏว่าคุณหมอเชิญชวนไปร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยน เพื่อแสวงหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรฯ ผู้ประสบอุทกภัยที่ ศูนย์ประสานงานประชาคม จ.น่าน ช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ตั้งแต่ 13.30-17.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม 2549 ได้ไปรับรู้การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ชาวนาชาวน่าน ผู้ประสบอุทกภัย ในการปรึกษาหารือ มี นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร ที่ปรึกษาศูนย์ฯ นพ.คณิต ตันติศิริวิทย์ หัวหน้าศูนย์ฯ ( ผอ.รพ.น่าน )นพ.ชาตรี เจริญศิริ หัวหน้าสำนักกิจการพิเศษ รพ.น่าน คุณสุภาพ สิริบรรณสพ คุณเบิ้ม ุวุฒิัชัย โลหะโชติ อาจารย์ราเชนทร์ กาบคำ ผช.ผอ.วิทยาลัยสารพัดช่างน่าน ผศ.มงคล พุทธวงศ์ นักวิชาการ นักพัฒนาพันธุ์พืช คณะเกษตรฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีล้านนา วิทยาเขตน่าน และภาคีศูนย์ฯ ประสานงานนี้ คือ นายสำรวย ผัดผล ประธานมูลนิธิฮักเมืองน่าน และทีมชมรมอนุรักษ์พรรณพืชพื้นบ้าน จ.น่าน มีคุณแป้ง พร้อมคณะ ฯลฯ ได้ร่วมปรึกษาหารือ พวกเราปรึกษาหารือ หาทางช่วยชาวนาชาวน่านร่วมกัน
โจทย์ที่ได้มาเสนอเพื่อพิจารณา คือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2549 ต่อเนื่องเป็นต้นมา ชาวนาชาวน่านประสบปัญหาอุทกภัย ๆ ใหญ่หลวง ครั้งนี้มีปริมาณน้ำมาก น้ำท่วมถึงยุ้งข้าวชาวนา ปกติจะเก็บข้าวเชื้อ หรือพันธุ์ข้าวไว้เพาะปลูกในฤดูหน้า ครั้งนี้ขณะที่ข้าวในนาเสียหาย ข้าวเชื้อ (พันธุ์ข้าว) ได้เสียหายไปอีก เห็นว่า จะมัวแต่รอทางราชการอย่างเดียว คุณไหล่ฯ ที่ร่วมหารือครอบครัวเธอเสียหาย ร่วมให้ข้อมูล ทำให้เราเข้าใจและเห็นภาพ เห็นปัญหา เข้าใจปัญหายิ่งขึ้น และ หากรอ ๆ ๆ ๆ เห็นทีว่าจะไม่ทันการณ์ ( ไม่ทันที่ชาวนาจะมีข้าวตนเองไว้กิน ) ระหว่างปรึกษาหารือ ได้ฟังคุณไหล่ฯ (น้อง ๆ พยาบาล)โทร.สนทนากับคุณพ่อของเขาที่เป็นชาวนา อยู่ที่ อ.ท่าวังผา จ.น่านเป็นระยะ ๆ ๆ ๆ ทำให้เราเข้าใจถึงความทุกข์อก ทุกข์ใจ ที่นาข้าวล่มเสียหาย มีชาวนาอีกจำนวนมากในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่านขาดขวัญ ขาดกำลังใจ
ทราบว่าทีมชมรมฯ โดยนายสำรวยฯ พร้อมคณะในเบื้องต้นได้ประสานไป จ.อุบล จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ เพื่อขอรับพันธุ์ข้าว เราหารือว่าจะใช้พันธุ์ข้าวไหน เพราะเหตุใด ตกลงเป็น กข.10 เพราะระยะเวลาสั้นในการปลูก หากใช้พันธุ์สันปาตอง ต้องใช้ระยะเวลานานและต้องมีการชลประทานดี มีการระดมทุนกันเองเบื้องต้น ร่วม 1.2 แสน ในจำนวนเงินเบื้องต้นนี้ มีครอบครัว นพ.บุญยงค์ฯ มอบให้ จำนวน 2 หมื่นบาท แนะนำว่าไม่ใช้ประชานิยม ควรลงไปหาชาวนา บอกถึงความห่วงใย รับรู้ปัญหา ให้ความรู้ หากชาวนาต้องการจึงมอบพันธุ์ข้าวให้ และหนุนเสริมต่อเนื่อง เรียกขวัญคืนและให้กำลังใจ
สำหรับชื่อของกองทุนนั้น นายสฤษฎ์ สุฤทธิ์ หรือหมอเบิ้ม สถานีอนามัย ต.น้ำเกี้ยน ฝากผ่านมาบอกว่า ในการทำกิจกรรมตั้งในนามกองทุน เขาขอมีส่วนเสนอชื่อว่า กองทุนขวัญข้าว พวกเราในที่ประชุมบ่ายวันนั้นเห็นดี เห็นงามด้วยแต่ได้เติ่มชื่อว่า "น่าน" ให้อีก เพื่อความชัดเจน ตกลงชื่อว่า กองทุนขวัญข้าวน่าน ครับ ทราบมาว่า หมอเบิ้มและน้อง ๆ แยกสายเดินทางไปกับรถ 10 ล้อ 6 ล้อ ไปเพื่อขนพันธุ์ข้าวมาช่วยพี่น้องชาวนานน่านที่จะต้องทำการเพาะปลูกกล้าและข้าว ก่อนวันที่ 20 กันยายน 2549 ให้ได้@
ยินดีกับพี่ธนูเป็นอย่างยิ่งที่มีแหล่งให้ข้อมูล ความรู้ จะคอยติดตามอยู่เรื่อย ๆ นะครับ (นานแล้วที่ไม่ได้เจอ วันหลังจะไปรบกวนขอคำแนะนำดี ๆ )
ด้วยความยินดีครับ คุณ FoxDev