การสัมผัสกับธรรมชาติและโลกรอบข้าง แล้วได้เดินทางเข้าสู่ภายในตนเอง เห็นความสงบ มีความศานติ นิ่ง มีกำลังสติปัญญา ลึกซึ้งและได้ความละเอียดอ่อนต่อการคิด พูด ทำ เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยทั้งปัจจัยภายในตัวเราเอง และความมีสภาพแวดล้อมที่สามารถเป็นกัลยาณมิตรต่อกระบวนการทางปัญญาอันแยบคายลึกซึ้ง ศิลปะการจัดดอกไม้ในบ้านและที่อยู่อาศัย เป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถทำให้บ้านและที่อาศัย เป็นเรือนใจ
เป็นอีกวิธีหนึ่งของการจัดวางองค์ประกอบความมีสุขภาวะที่พึ่งปัจจัยภายในของมนุษย์ที่เราจะสามารถสั่งสมการศึกษาค้นคว้าวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมกับกาลเทศะของตน สามารถให้ประสบการณ์ต่อการเข้าถึงคุณค่าและความหมายภายใต้ความเป็นวัตถุระดับที่ปัจเจกต้องเข้าถึงด้วยประสบการณ์ตรงของตนเอง ได้ความชัดแจ้งต่อความมีอิสรภาพจากโลกทางวัตถุ ผมได้ทดลองทำ ศึกษาหาประสบการณ์ไปด้วย เลยขอนำมาแบ่งปันกันชมเป็นคลังความคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้กันนะครับ
ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและมีอยู่ในบ้าน เห็นภาษาและภาพสะท้อนของการบันทึกบอกเล่าสิ่งที่อยู่รายรอบที่เป็นผลงานของธรรมชาติ การหมั่นอยู่กับตนเอง และการสั่งสมความซาบซึ้งต่อธรรมชาติที่ปรากฏอยู่บนทุกเส้นทางผ่านของชีวิตการงาน จะทำให้เราสามารถเกิดบทสรุปต่อสรรพสิ่งอย่างหลากหลาย และทำให้สามารถเห็นแบบแผนดังกล่าวสะท้อนอยู่ในสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ เห็นธรรมชาติอยู่ในตัวเรา และเห็นตัวเราสะท้อนอยู่ในธรรมชาติ สามารถนำมาจัดวางและเกิดความลงตัว ราวกับจำเพาะว่าจะต้องเกิดจากเรา เป็นลายมือ เป็นภาพสะท้อนชีวิตจิตใจของเรา ที่บันทึกและบอกเล่าผ่านองค์ประกอบศิลปะในธรรมชาติ
โลกรอบข้างมีประตูหน้าต่างมากมายให้เดินก้าวไป รวมทั้งเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไร้ความหมาย หากขาดความพิถีพิถันในการเข้าถึงความมีประสบการณ์ ก็อาจจะเห็นตึกและบ้านเพียงเป็นคอนกรีตและสิ่งปลูกสร้าง เห็นต้นไม้เพียงเป็นสภาพแวดล้อมทั่วไปอย่างหนึ่ง แต่หากรู้คิดสร้างสรรค์ นำมาจัดวางอย่างง่ายๆ เหมือนทำเวทีให้ธรรมชาติเดินออกมาแสดงตนเอง ก็ทำให้ได้เปิดประตูหน้าต่างแห่งโอกาส เพื่อเดินไปสู่สุนทรียภาพและความงามที่อยู่ในใจและในประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ ผ่านการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้างด้วยจิตใจที่ละเอียดอ่อน นอบน้อม เชื่อมโยงมนุษย์ให้ใกล้ชิดกับความเป็นธรรมชาติในทุกอริยาบทมากขึ้น
การจัดวางฟอร์ม พื้นที่ การปล่อย และจังหวะ เมื่อบวกกับการดำเนินไปของปรากฏการณ์ธรรมชาติ ก็เกิดจังหวะที่พอดีของการผสมผสานกันของแสง เงา บอกเล่าความมีชีวิต เคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง สร้างแบบแผนความไม่ยุดนิ่งลง และเชื่อมโยงให้สภาพแวดล้อมบนสถานที่เดียวกัน เป็นองค์ประกอบทางศิลปะ มีพลังต่อการน้อมนำให้การอยู่อาศัย มุ่งไปสู่โลกทัศน์แห่งความงามและการเข้าถึงคุณค่าทางจิตใจ
โอกาสที่ปัจเจกจะมีความสุขอันประนีตในตนเองและเข้าถึงความลึกซึ้งแยบคายในตนเอง จะสามารถเกิดขึ้นได้มากขึ้นจากสิ่งรอบๆตัวและในชีวิตประจำวันในบ้านและแหล่งการอยู่อาศัยที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้วนั่นเอง ลองใช้ศิลปะให้เป็นสภาพแวดล้อม และเป็นวิธีจัดการให้เกิดกระบวนการทางปัญญาภายในที่มีอยู่แล้วในตัวเราเองทุกคน ให้เกิดจังหวะปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมต่างๆอย่างเหมาะสม สิ่งที่มีอยู่แล้วแต่จิตใจไม่ลึกซึ้งพอที่จะได้เห็น ก็จะปรากฏขึ้นให้เราได้สัมผัส
การแสดงให้เห็นถึงความงามของความง่าย ความลึกซึ้งสูงส่งของสิ่งเล็กน้อย และการกระทำที่น้อยที่สุดต่อความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดที่จะทำได้ดีไปกว่าการจัดเวทีให้ธรรมชาติได้บอกเล่าและแสดงให้ปรากฏ
งานศิลปะจัดวางประสบการณ์อย่างนี้ มีพลังต่อการเปิดประตูใจ ที่เราจะสามารถผสมผสานไปกับการจัดสภาพแวดล้อมการงานและการดำเนินชีวิต ทำปัจจัยแวดล้อมเพื่อเกื้อหนุนให้ครูในตนเองของทุกคน ได้ตื่นขึ้นมาและนำตนเองเดินออกไปเห็นความงามของโลกรอบข้าง เห็นความงามของชีวิตและสรรพสิ่ง ที่กำลังเป็นองค์ประกอบศิลปะ สร้างสรรค์ชีวิตและความเป็นจริงของสรรพสิ่งอันงดงาม ให้ก่อเกิดและดำเนินไปอย่างไม่หยุดนิ่ง รวมทั้งตัวเราเอง
ว้าว ท่านอาจารย์ค่ะ แจกันใส่ไม้ประดับ ก็ระยับด้วยก้าน ใบ เรียว ริ้ว พริ้ว เน้อเจ้า
นึกถึงเพลงเด็กน้อยชอบร้อง กิ่ง ก้าน ใบ ชะ ... ชะ ใบ ก้าน กิ่ง .. ฝนตกลงมาจริงๆ ๆ :)
สวยงาม เสริมบรรยากาศ สุขสันต์วันจันทร์นะคะ
สวัสดีครับคุณ Poo
สวัสดีค่ะ
เรียบง่าย ดูดี มีเสน่ห์มากเลยค่ะ
ชอบแจกันกิ่งไผ่ และจั๋งค่ะ
จะลองทำบ้าง...
ขอขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
สวัสดีครับคุณครูลำดวนครับ
กิ่งไผ่ที่นำมาจัดแจกันอย่างในรูปนี้ เป็นกิ่งไผ่สีทองแน่ะครับ
เป็นกิ่งที่ตัดออกจากกิ่งที่รกๆจากกอไผ่สีทอง
เห็นมีกิ่งหนึ่งลีลาของมันสวยดี
ก็เลยเอามาเสียบใส่ลงไปในแจกัน ๑ กิ่งแบบดิบๆ
ไม่ต้องตบแต่งอะไรเลย
เสร็จแล้วก็เอายอดของกิ่งอ่อนอีก ๒ กิ่ง
ที่ดูแล้วเหมือนหน่อไม่หน่อเล็กๆ
มาเสียบที่โคน
เลยได้อารมณ์บอกเล่าความเป็นกอไผ่ได้ด้วยเส้นไม่กี่เส้น
ทำๆแล้วก็สนุกดีเหมือนกันครับ