PAR จบแล้ว จบเลยไหม


กระบวนการต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดการความรู้และการทำแบบมีส่วนร่วม ซึ่งรวมกันเป็น "การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วม" ไม่มีวันจบสิ้นไป, เพราะถ้าเราทำ PAR หรือทำงานแบบมีส่วนร่วมแบบ Positive Participatory Action Research กระบวนการต่าง ๆ ของเราที่ได้ทำร่วมกันนั้น จะไม่มีวันจากไปไหนจากชุมชน และมีแต่วันที่จะยิ่งงอกงามและเพิ่มพูนต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น เพราะกระบวนการนั้น "ติดอยู่ในใจ"

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากที่ผมเองได้ลงเรื่องเกี่ยวกับ "การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วม" เกี่ยวกับสหกรณ์อุตรดิตถ์ มาจำนวนทั้งหมด 7 บันทึก

โดยเริ่มตั้งแต่

สหกรณ์อุตรดิตถ์ไดอารี่

ตามด้วย

ครั้งแรกของสายตาและภาษาใจ

สหกรณ์อุตรดิตถ์ KM : ที่มาแห่งปัญญา

อะไรหรือคือ "สหกรณ์"

การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วม : Mind Mapping

การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วม : Mind Mapping (เข็มขัดสั้น)

และล่าสุดเรื่อง คือ

ถ้าถาม ณ ปัจจุบัน ว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง "จบไปหรือยัง"

ก็ขอตอบได้เลยครับว่า "กระบวนการอย่าเป็นการทาง" จบไปแล้วครับ

แต่กระบวนการต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดการความรู้และการทำแบบมีส่วนร่วม ซึ่งรวมกันเป็น "การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วม" ไม่มีวันจบสิ้นไป

เพราะถ้าเราทำ PAR หรือทำงานแบบมีส่วนร่วมแบบ Positive Participatory Action Research กระบวนการต่าง ๆ ของเราที่ได้ทำร่วมกันนั้น จะไม่มีวันจากไปไหนจากชุมชน และมีแต่วันที่จะยิ่งงอกงามและเพิ่มพูนต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น

เพราะกระบวนการนั้น "ติดอยู่ในใจ"

 

ติดอยู่ข้างในรอวันที่จะผลิบานออกมาเพื่อชูยอดและผลิดอกออกผลเพื่อให้ตนเองและผู้อื่นร่วมกันชื่นชม เกี่ยวเก็บ และนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันอีกในอนาคต

การจบหรือไม่จบ วัดได้อย่างไร

วัดได้ง่าย ๆ ครับว่า

ความสัมพันธ์ของเรานั้นยังมีอยู่ไหม?


ความสัมพันธ์ดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้แก่กัน


ความรู้สึกดี ๆ อันนั้นจะนำไปสู่การหวนระลึกนึกถึงอดีตครั้งที่เราเคยมีความสุขร่วมกัน


เมื่อเราสุขเราคิดถึง เมื่อยามทุกข์เราคิดถึง


คนที่เคยร่วมทุกข์และร่วมสุขกับเรา


มีอะไรเราพึ่งพากัน ร่วมกันเก็บเกี่ยวและร่วมกันรับผลประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่ พวกเราร่วมกันรับสิ่งที่ดีงามที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะจาก “ใจ” เสมอ

กระบวนการต่าง ๆ อย่างเป็นทางการจบสิ้นลงเมื่อครั้นที่ผมเดินต้องตัดสินใจเดินทางมาอยู่ที่อุบลราชธานี ถ้านับกลับไปก็ราว ๆ สองเดือนได้ครับ


ครั้งนั้นพวกพี่ ๆ และท่านสหกรณ์จังหวัดในขณะนั้น คุณจารุวรรณ นันทพงศ์ ได้พาผมไปเลี้ยงส่งที่ร้านหมูกระทะขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดอุตรดิตถ์ “อินเตอร์หมูกระทะ”


หมูกระทะบุฟเฟ่ขึ้นราคาหัวละ 89 บาท (คิดแล้วหิวครับ)


ครั้งนั้นมีสมาชิกเดินทางไปร่วมประมาณ 10 ท่านครับ เนื่องจากเป็นวันศุกร์ครับ หลาย ๆ ท่านเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดเสาร์อาทิตย์


ของฝากหรือของขวัญที่ผมได้รับจากพี่ ๆ ในวันนั้น มีหลายอย่างมากครับ


นับตั้งแต่เสื้อสีเหลือง
เสื้อเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ทรงครองราชย์ครบ 60 ปีครับ
ตอนที่ผมออกไปทำงานกับพวกพี่เขา ลงพื้นที่กันบ่อย ๆ


พี่อิ๋วเคยถามว่าอาจารย์ทำไมไม่ใส่เสื้อเหลืองมาล่ะ  ช่วงนี้เขาใส่เสื้อเหลืองกันทุกวัน


ผมก็ตอบไปตรง ๆ เลยครับว่า “ผมไม่มีครับ” เพราะตอนนั้นเศรษฐกิจฝืดเคืองมาก ๆ


ไม่น่าเชื่อครับพี่อิ๋วจำได้ พี่อิ๋วเตรียมซื้อเสื้อเหลืองไว้ให้ผม แต่วันนั้นที่ให้ก็ไม่เซอร์ไพร์สเท่าไหร่หรอกครับ


เพราะก่อนหน้านั้น พี่อิ๋วโทรมาถามผมว่า “อาจารย์ใส่เสื้อ size อะไร พี่จะซื้อเสื้อเป็นของฝาก” ก็เลยได้รู้ล่วงหน้าครับว่าจะได้เสื้อเหลืองมาใส่เป็นตัวแรกของชีวิตครับ แต่ก็ดีใจมาก ๆ เลยครับ


ของฝากในวันนั้นอีกอย่างหนึ่งก็คือ กระปุกออมสินรูปกระต่าย หูเดียว (พอดีหูพับลงไปข้างนึงนะครับ พี่ ๆ ก็เลยแซวว่าเป็นกระต่ายหูเดียว) เป็นสินค้าในโครงการออมเงินวันละบาทของสหกรณ์ครับ พี่อิ๋วพยายามขายผมมาหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จครับ เพราะตอนนั้นยุคเศรษฐกิจพอเพียงครับ ต้องคิดมาก ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อครับ แต่ถึงกระนั้นก็ได้มาจนได้ครับ


และของฝากอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ผมรอดตายในวันนั้นก็คือ “ยาตำราหลวง” พี่อิ๋วและท่านสหกรณ์ได้มอบยาตำราหลวงไว้ให้ผม 1 กล่องครับ


คงจำได้นะครับ วันที่ผมเกิดอาการอาหารเป็นพิษช่วงใกล้ ๆ วันแม่น่ะครับ ตอนนั้นถ้าไม่ได้ยาตำราหลวงของพี่อิ๋วล่ะก็ คงแย่ไปแล้วครับ


เพราะในกล่องยาตำราหลวงนั้น มีผงเกลือแร่อยู่หนึ่งซองครับ คืนนั้นเสียน้ำไปมาก ได้ผงเกลือแร่ ORS ช่วยชีวิตไว้ครับ ถ้าไม่มีผงเกลือแร่ในคืนนั้นก็ไม่รู้จะมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้หรือเปล่าครับ

หลังจากนั้นไม่นาน มีอยู่คืนหนึ่ง ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่อิ๋ว


ผมก็ตกใจครับ เพราะพี่อิ๋วไม่เคยโทรมากลางคืนครับ


ตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่มได้ พี่อิ๋วโทรมาบอกว่า “อาจารย์ ตอนนี้ทายซิว่าพี่อยู่ไหน”


อ้อ ไม่ทราบครับ


ตอนนี้พี่อยู่ร้าน อินเตอร์หมูกะทะ คิดถึงอาจารย์วันที่เลี้ยงส่งก็เลยโทรมา.....


วันนั้นดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่ทุก ๆ คนโดยเฉพาะพี่อิ๋วยังนึกถึงผมอยู่ครับ


“กระบวนการยังอยู่ ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมครับ”

ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ในช่วงก่อนผมได้โทรไปหาพี่สมศักดิ์ พี่อิ๋ว บอกว่าตอนนี้ผมจะเอาเรื่องสหกรณ์อุตรดิตถ์ลงบล็อกแล้วนะ แต่ตอนนี้ยังขาดรูปที่พวกเราทำงานกันอยู่


โดยเฉพาะรูปที่เราจัด KM แบบประชิดตัว หรือแบบหกคะเมนตีลังกา


“ท่านอยู่ไหน เราจะเข้าไปหาท่าน”


กำลังจะลงเรื่องการหกคะเมนตีลังกาของเราอยู่ แต่รูปหาไม่เจอครับ
พี่อิ๋วช่วยส่งมาให้หน่อยได้ไหมครับ


“ได้ค่ะ เดี๋ยวต้องไปค้นตรงพี่ดำก่อน (พี่อำพร ท่านที่ได้การบ้านจากผมเยอะ ๆ ครับ ท่านเป็นมือถ่ายรูปมือหนึ่งของสหกรณ์จังหวัดอุตดริตถ์ครับ)”


แล้วอีกไม่กี่วันต่อมา


“อาจารย์ ขอที่อยู่หน่อย ผมจะส่งรูปไปให้ทางไปรษณีย์”


เสียงจากพี่สมศักดิ์ โทรมาขอที่อยู่ที่อุบลราชธานีครับ


ตอนนั้นเกรงใจพวกพี่ ๆ มากเลยครับ เพราะจะต้องลำบากเสียเงินเสียทองส่งไปรษณีย์มาให้ผมครับ


อ้อลืมบอกไปครับ ตอนแรกที่ขอรูป จะให้คุณน้องส่งทางอีเมลล์มาให้ครับ


แต่พอดีไฟล์ค่อนข้างใหญ่และมีเยอะด้วยครับ


โดยเฉพาะงานของพี่ปราโมทย์ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเราเลยครับ


เป็นงานที่ผมอึ้ง และทึ่งมาก ๆ เลยครับ ไม่เคยคิดคาดฝันไว้ว่าจะมีใครทำได้ดีขนาดนี้ครับ เป็นงานเกี่ยวกับเรื่อง “ผังชุมชน” ครับ จะขอนำเสนอในบันทึกครับไปครับ

แล้วไม่กี่วันต่อมาซองจดหมายสีขาวซองใหญ่ ๆ ก็เดินทางมาวางอยู่ที่โต๊ะทำงานของผมที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีครับ

 


เป็นซองจดหมายที่ใหญ่มากครับ ตอนแรกตกใจนึกว่าพี่ ๆ แอบส่งซองผ้าป่ามาให้ด้วยครับ


แต่พอเปิดดูก็ทั้งดีใจและแปลกใจครับ
ซึ่งถ้าผมเดาไม่ผิดน่าจะเป็นพี่อิ๋วครับที่น่าจะเป็นคนจัดการห่อซองพัสดุอันนี้ครับ


เพราะพี่อิ๋วเป็นคนที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าประหยัดนั่นแหละครับ

 

ตอนแรกผมเห็นก็นึกว่ามีโปสเตอร์โฆษณาน้ำตกแม่พูลส่งมาให้ดูด้วยครับ


แต่ก็ไม่น่าใช่ครับ เพราะน้ำตกโดนโคลนถล่มไปหมดแล้ว


แล้วนั่นเป็นกระดาษอะไรหว่า?

พอแกะออกมาก็ถึงบางอ้อครับ
เป็นกระดาษไว้ห่อซองใส่ซีดีอีกทีครับ

ที่ผมแปลกใจมาก ๆ ก็คือ ปกติผมเคยส่ง CD กลับไปที่ผ่านผมก็ใส่ซองพลาสติกแล้วก็ยัดใส่ซองจดหมายเลยครับ


แต่ครั้งนี้พี่อิ๋วพิถีพิถันในการห่อมากครับ


เป็นการห่อด้วยใจจริง ๆ ครับ


ตอนนั้นผมซึ้งมาก ๆ จนบอกความรู้สึกไม่ถูก

ยิ่งพอเปิดห่อออกมาแล้วได้เห็นสิ่งที่เขียนไว้บน CD แล้ว แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ครับ

 


ทุก ๆ ท่าน ได้ร่วมกันส่งสิ่งต่าง ๆ ที่เราเคยทำร่วมกันร้อยเรียงผ่านสื่อดิจิตอล ไรท์ลงแผ่นซีดี ส่งจากอุตรดิตถ์ถึงอุบลราชธานี

ในซองนั้นมิได้มีแค่กระดาษกับ CD แต่ยังมีดวงใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกรุณาต่อผมส่งมาด้วยอย่างเต็มเปี่ยมเลยครับ


ต้องขอบพระคุณทุก ๆ ท่านอย่างมากจริง ๆ ครับ

นี่แหละครับ กระบวนการรับผลประโยชน์ร่วมกัน


เมื่อก่อนผมทำงานด้วยใจ และขอเพียงแค่พี่ ๆ มีใจกับผม


เมื่อพี่ ๆ ต้องการผม ผมพร้อมที่จะไปหาพี่ทุกเมื่อ


วันนี้เมื่อผมต้องการพวกพี่ ๆ พี่ ๆ ก็พร้อมมอบสิ่งต่าง ๆ ให้ผมอยู่เสมอเหมือนกัน


ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ ท่านสหกรณ์ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว


พระเดช ก็ไม่มีอีกแล้ว ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์อีกแล้ว


ทำไมพวกพี่เขายังทำให้ผมอีกล่ะครับ


ทำไมพวกพี่เขายังทำให้ผมขนาดนี้


บันทึกอันแสนยาวที่ดูเหมือนไร้สาระ ซึ่งก็ไร้สาระจริง ๆ ครับ

เพราะถ้าจะเอา ระเบียบวิธีวิจัยต่าง ๆ มาวัดว่า ขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในกระบวนการไหนของการวิจัย โดยเฉพาะวิธีวิจัยแบบ PAR


ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนไหนหรอกครับ


เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่ผมเล่ามานี้


อยู่ในขั้นตอนการ “วิใจ” ครับ


การค้นหาความจริง ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


ค้นหาความรู้สึกที่ดี ๆ ในการทำงานร่วมกัน


ใช้ใจร่วมคิด ใช้ใจร่วมวางแผน ใช้ใจร่วมติดตาม ใช้ใจร่วมประเมินผล และใช้ใจร่วมรับผลประโยชน์


ทุกวันนี้ “ใจ” ของพวกเรายังอยู่ด้วยกันเสมอ


ทุกวันนี้ “ใจ” ของพวกเรายังหมุนวนไปด้วยกระบวนการของการจัดการความรู้


ทุกวันนี้ “ใจ” ของพวกเรายังมุ่งมั่นที่จะทำงานแบบมีส่วนร่วมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ให้สวยงาม


ทุกวันนี้ “ใจ” ของพวกเรายังศรัทธาที่จะทำงานเพื่อตอบแทนของเรา


ทุกวันนี้ “ใจ” ของพวกเรายังอยู่ด้วยกัน.............


ทุก ๆ วันเหล่านั้นไม่ว่าจะนานสักแค่ไหน กระบวนการแห่งใจนี้จะยังคงอยู่ตลอดไป Participatory Action on My Mind.

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 47900เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2006 01:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ผมเป็นคนส่งซีดี มให้อาจารย์เอง  ที่ส่งมาให้เพราะว่ายังมีความศรัทธาในความดีต่อกันอยู่  พวกผมเองมีปัญหาเรื่องงาน งานการทำ IS  ก็ยังเคยปรึกษาอาจารย์ปภังกร  ยังไงก็ไม่เคยลืมครับผม  และขอเป็นกำลังใจให้เรียนจบปริญญาเอกตามที่ได้มุ่งหวัง

  • ขอบพระคุณมาก ๆ เลยครับพี่สมศักดิ์ ยังจำวันที่พี่สมศักดิ์โทรมาขอที่อยู่ได้เลย
  • ผมก็ยังศรัทธาในความเพียรและความรักในชุมชนของพี่ ๆ อยู่เสมอครับ
  • ถ้ามีสิ่งใดให้ผมช่วยเหลือบอกได้เสมอเลยนะครับ ผมก็ยังเป็นผมเหมือนเดิมครับ
  • ขอบพระคุณอีกครั้งครับสำหรับคำอวยพร
  • ขอพลังแห่งความรู้และปัญญาสถิตกับทุก ๆ คนตลอดไปครับ

ป.ล. ผมยังรอดูบล็อกมีสมศักดิ์อยู่นะครับ เพราะพวกพี่ ๆ มีประสบการณ์กันเยอะ โดยเฉพาะมีสมศักดิ์เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์และ Internet มาก ๆ ถ้าอย่างไรก็นำความรู้และประสบการณ์มาแบ่งปันให้ทุก ๆ คนใน G2K บ้างนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท