มะนาวกับปัญหา


การทำให้แต่ละคนเข้าใจแต่ละสิ่งได้เท่ากันนั้นยากเย็นนัก

คำเตือน

ถ้าท่านเครียดอยู่ห้ามอ่านตอนบนเด็ดขาด!!

ให้ไปอ่านข้างล่างเลย


ประกาศ

คุณกำลังเข้าเขตอันตราย
ไม่ควรอ่านเกินวันละ 2 รอบ
เพราะอาจเป็นอันตรายต่อหัวใจและสมองได้
ถ้าคุณอ่านแล้วเกิดอันตรายใดๆ ผู้เขียนจะไม่รับผิดชอบเพราะกำลังอารมณ์ไม่ดี
 

ปัญหา....

คำตอบ....

สาเหตุของปัญหาคืออะไร...

คน...

ระบบ...

คนตัวตนของคนแต่ละคนคืออะไร
คนเรามองสิ่งเดียวกันด้วยความคิดต่างกัน
ความคิดเห็นต่อระบบการทำงานเกิดจากอะไร
เกิดจากการเปรียบเทียบความต่าง
จากสิ่งที่เคยพบเห็นในอดีต
ประสบการณ์จากที่ต่างๆ
ซึ่งแต่ละคนมีต่างกัน 
บางสิ่งอาจมีคนมองว่าง่ายเหลือเกิน
บางคนอาจมองว่ามันยากเย็นนัก  

การทำให้แต่ละคนเข้าใจแต่ละสิ่งได้เท่ากันนั้นยากเย็นนัก

ปัญหากับการสานต่อ

อาจบางทีผมมองทุกสิ่งในแง่ร้ายมากเกินไปปัญหาบางอย่างอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
อย่างเรื่องเครื่องพิมพ์โอเวอร์โหลดในห้อง OPD จนกระดาษติดพันเครื่องพิมพ์บ่อยมาก
หลายคนว่าเป็นเพราะซื้อเครื่องถูกก็งี้ละ,
บางคนว่าเป็นเพราะเปิดเครื่องเกือบ 24 ชม.,
บางคนว่ากระดาษก็ใช้ของไม่ดี,
บ้างก็ว่าหมึกพิมพ์คุณภาพไม่ดีเกาะตัวง่าย...
ผมว่าน่าจะใช่หมดเลยนะ
กระดาษที่หมดอย่างมากในสายตาผมและหลายคนแน่นอนว่ารวมถึงหมึกพิมพ์ด้วย
การแก้ไขที่ยุ่งยากกับการคีย์ที่ง่าย
(ถ้าถูกหมด ซึ่งคนคีย์คงไม่มีการคีย์ผิดมากอย่างที่บริษัทบอกก็ได้ ผมวิตกจริตไปเอง)
คอมพิวเตอร์หยุดทำงานหรือเสีย
(คงเป็นช่วงนี้แหละหน้าฝนนี่ ถ้าฝนซาคงหาย)
ตึกแต่ละแห่งคงไม่ทำใบคำขอหายหรอก ผมก็จะได้รวมคำขอได้ซะที
(
ถ้าหายก็....ไม่รู้ละ ผมยังหาทางแก้ไม่ได้)
......................

อาจบางทีเราลองทำดูอาจมีทางแก้ไปเอง
โดยผมไม่ต้องคิดมาก
 

การพูดถึงปัญหาเหล่านี้ถึงผู้ใหญ่ข้างบน
ท่านตอบกลับมาว่าให้เราเก็บหลักฐานมาให้ดูซิ
แน่นอนว่าเท่านั้นไม่พอต้องระบุมาด้วยว่า
จำนวนครั้งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่
ความถี่เท่าไหร่
แสดงความร้ายแรงของปัญหามาให้ดู

ซึ่งผมยอมรับว่าฟังแล้วท้อใจมากในตอนแรก
เพราะวันๆ ต้องมานั่งแก้ปัญหาแล้วต้องมาจดด้วยว่า
เกิดยังไงเมื่อไหร่กี่ครั้ง
รวมข้อมูลวิเคราะห์ให้ข้างบนรับทราบอีก
กลายเป็นเพิ่มงานให้ตัวเองโดยไม่จำเป็น
แต่จะยกเลิกก็ไม่ได้ดันเสนอตัวไปแล้ว
ยกตัวอย่างนะครับ เช่น 
กระดาษที่สิ้นเปลือง
ซึ่งผมพยายามคอมเมนต์ไปแล้วก็ไม่ค่อยมีคนสนใจนักในตอนแรก จนผมต้องนับกระดาษเป็นสถิติให้ดู....
(โดนคนแซวว่าว่างมากเหรอมานั่งนับกระดาษ)
เขามองดูตัวเลขแล้วเฉยๆ...
ซึ่งฟังดูง่ายมากเลยครับ

 ¦           แค่นั่งนับกระดาษหลังเลิกงานวันละ 100-200 ใบทุกวัน
¦           จดบันทึกไว้ครบสัปดาห์ มานั่งกดเลขหาค่าเฉลี่ย/ผลรวมต่ออาทิตย์, ต่อวัน
¦           และกลัวอีกฝ่ายไม่เข้าใจต้องมานั่งหารคิดหน่วยเป็นรีม
¦           ผมคิดจะทำต่อเป็นกราฟแต่หยุดไว้ก่อน...
¦           ถ้าเขายังไม่เข้าถึงคงต้องหาและทำตัวเลขเป็นรายเดือนหรือปีว่ามันมหาศาลแค่ไหน
¦           ถ้าเพียงพวกท่านเข้ามาที่ทำงาน
จะเห็นกองกระดาษที่เริ่มท่วมโต้ะทำงานสองกองหลังผ่านการทำไปได้ 2 อาทิตย์ ผมก็ไม่จำเป็นต้องมานับตัวเลขให้มันยุ่งยากหยั่งงี้เลย
ส่วนหมึกพิมพ์แต่ผมไม่กล้านับว่าพิมพ์ได้กี่แผ่นนะ
ผมจดได้แค่จำนวนวัน/1 ตลับพิมพ์ก็จะแย่แล้ว
ปล.ผมมาเจอทีหลังว่าที่บริษัทเขามีบอกแล้วว่ามันพิมพ์ได้กี่แผ่น/หมึกพิมพ์....เซ็ง เผลอทำงานแบบโง่ๆ อีกครับท่าน

งานเขียนเป็นทางการ ผมไม่ถนัดเลย
ดังนั้นงานแรกที่เขียนผมเดาผลลัพธ์ได้ว่า
ต้องโดนโยนทิ้งใส่ตะกร้าเล็กๆ ข้างโต้ะแน่
ท่านอาจไม่รู้ว่างานเขียนทางการ
ผมใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ เขียนมันขึ้นมา
ลบแล้วลบอีก แก้แล้วแก้อีก...
ผลจากการทุ่มสมองให้งานเขียนที่ไม่ถนัดทำให้ผมท้อใจอย่างมากในช่วงแรก
จึงตัดสินใจไม่พึ่งข้างบน มาแก้ปัญหากันเอาเองดีกว่า
เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ไหมที่ต้องมาแก้ปัญหาซ้ำๆ

เหนื่อยครับแต่สิ่งที่เหนื่อยได้ผลลัพธ์ออกมา ยังชื่นใจครับ

ไม่ท้อใจเท่าตอนที่สิ่งที่เราพยายามทำถูกโยนทิ้ง
…………..……..…. 


คำเตือน  

อ้ะๆ อย่าเพิ่งอ่านข้างบนนะ
อ่านข้างล่างนี้พอ
คำเตือนหวังดีแด่เหล่าสว.ที่มีโรคความดันสูงและโรคหัวใจ

จากการไปพบผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน
จึงรู้ว่าท่านไม่เข้าใจเรา จริงจริ๊ง...แม่..
(ทำเสียงเสียงอาตุ๊ในบางรักซอยเก้าจะได้อารมณ์มากครับ)
สิ่งที่เราพยายามจะอธิบายนั้นท่านไม่สามารถเข้าใจได้ชัดเจน
เมื่อไม่ชัดเจนท่านจึงไม่สามารถอนุมัติการช่วยเหลือใดๆ ให้เราได้ 

เช่นเดียวกับเราบอกกับคนต่างด้าวที่ไม่เคยกินมะนาวมาก่อนว่า

 มะนาวนี้เปรี้ยว

คนไม่เคยกินอย่างเขาก็จะถามเราว่าเปรี้ยวๆ ยังไง
เราพยายามเทียบกับรสเปรี้ยวอื่นๆ ที่บ้านเรามี
เช่น มะขาม มะยม ส้ม
แล้วสมมติว่า เขาไม่เคยกินพวกที่ว่ามาทั้งหมดละ...
เขียนถึงตรงนี้
เหล่าสมาชิกวัยรุ่นใจร้อนก็ตะโกนบอกทันที

 เอามะนาวยัดปากมันก็หมดเรื่องแล้ว 

โถ..ถ้าเอาใส่ปากได้ก็เอาให้เขาชิมแล้วครับ
แต่บังเอิญ เขาอยู่เมืองนอกเมืองนาที่หาพวกนี้กินยากไงครับ
จะมีวิธียังไงน้าที่จะทำให้เขารู้
ลองคุยกับเขาดูว่ารู้จักอะไรที่มันเปรี้ยวๆ มั่งไหม
เขาก็ตอบเราว่า เขามีซันควิสต์
เอาละ อย่างน้อยยังมีอะไรที่เทียบแล้ว
ทีนี้เราจะบอกเขาได้ยังไงว่า
รสเปรี้ยวมะนาวบ้านเราเทียบกับซันควิสต์ของเขาต่างกันยังไง
 

ใช่แล้วครับ!!
เราเอามาเปรียบเทียบเป็นตัวเลขครับ
อย่าเพิ่งประหลาดใจครับความเปรี้ยวนี้
ถ้าท่านเคยเรียนวิทยาศาสตร์มาก่อนจะรู้ว่า
กรดมีรสเปรี้ยวและยิ่งกรดรุนแรงก็จะยิ่งเปรี้ยว
(ถ้าไม่ทะลุทะลวงลิ้นเราก่อนนะ)

เราจะวัดความเปรี้ยวจากกรดของมะนาวออกมาเป็นค่า PH
แล้ววัดผลของผลไม้อื่นๆ เทียบดูว่าเป็นยังไง
สุดท้ายก็ไปเทียบกับซันควิสต์
ถ้าบ้านเราไม่มีซันควิสต์ก็ให้เขาทำการวัดของเขาเอง
เท่านี้เราก็จะเข้าใจตรงกันแล้วครับว่ามะนาวเปรี้ยวแค่ไหน
ซึ่งตรงนี้อาจมีการทำต่อยอดไปอีก
เพราะมะนาวไม่ได้มีเพียงรสเปรี้ยวอย่างเดียว
ยังมีรสอื่นๆ รวมทั้งมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์อีก

ในที่สุดอานิสงค์จากการคุยครั้งนี้
ทางฝั่งโน้นก็เกิดบริษัทจดลิขสิทธิ์ผลิตรสมะนาวเทียม
ซึ่งกระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
เกิดสินค้าเป็น
ลูกอมรสมะนาว อาหารรสมะนาว กลิ่นแชมพูมะนาว น้ำยารีดผ้ากลิ่นมะนาว กระทั้งชุดชั้นในกลิ่นมะนาวอื่นๆ สุดที่ท่านจะจินตนาการ
 

ไปไกลแล้วครับผมอยากบอกว่า
ทางฝ่ายบริหารก็เปรียบเหมือนคนต่างด้าวเหล่านี้ละครับ
ท่านไม่อาจรู้เรื่องราวอะไรที่มันลึกถึงผู้ปฎิบัติหรือหน่วยงานทุกหน่วยงาน
เอ้า ใครมันจะไปรู้หมดทุกเรื่องละครับ
ดังนั้นเราต้องทำงานกึ่งๆ วิจัยขึ้นมาไงครับ
จะเรียกว่าอะไรก็สุดแต่วิธีการแต่ละท่านครับ
จะ
CQI KM PDCA
บอกหลายๆ ท่านนะครับ

วิธีให้ผู้บริหารมาชิมมะนาวแต่ละที่มันไม่น่าจะพิสมัยนะครับ

สุดท้าย หวังว่าทุกท่านจะนำมะนาวของแต่ละหน่วยของท่านไปขายได้จนร่ำรวยครับ 
ผมเองก็พยายามขายมะนาวอยู่เหมือนกันครับ
อ้ะๆ อย่ามาแย่งผมขายนา 

บันทึกนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการเขียนๆ ลบๆ
และอีก ครึ่งชั่วโมงในการแต่งให้จ๋วยดังใจผม

วันนี้ว่างมีเวลาปล่อยอารมณ์เขียนสะใจ
หลังจากอยู่เวร+ทำงานติดกันหลายวัน

ปล. งานค้างกองไว้ค้างหลังตรึมเลยงะ  

ระวังฝน...นะทุกท่าน

สุขสันต์วันหยุดคร้าบ...

หมายเลขบันทึก: 47823เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2006 16:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณๆ Bright Lily ครับ ถ้าแวะมาอีกทีจะเห็นอะไรแปลกใหม่ครับ อิอิ

อัพเดต

  • แก้ลิงค์เชื่อมข้อมความเสีย เลยเอาออก
  • เพิ่มรูปภาพเล็กน้อย
  • แก้ไขข้อความที่ย่อหน้าเสียใหม่
  • ช่างอุปมาอุปมัยจริง...จริ๊ง...มะนาวกับปัญหา
  • เมื่อเกิดปัญหา แต่ละคนก็มีวิธีคิดแตกต่างกันตามความเชื่อ ทัศนคติ ประสบการณ์ของตัวเอง  
  • เพราะฉะนั้นการรับรู้ต่อปัญหาของแต่ละคนจึงต่างกันไป บางคนก็อาจจะดูดายเพราะคิดว่านี่ไม่ใช่ปัญหา ประมาณธุระไม่ใช่ ในขณะที่บางคนกลับมองว่าเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องมาช่วยกันแก้ไขโดยเร่งด่วน
  • การที่จะทำให้แต่ละคนมองปัญหาให้เหมือนกันคงเป็นเรื่องยาก เฉกเช่นเดียวกันกับการที่จะอธิบายให้คนต่างด้าวเข้าใจว่า มะนาวมีรสเปรี้ยวต่างจากซันควิสต์อย่างไร
  • แต่ถ้าหากว่า แต่ละคนถอยหลังแล้วหันกลับมามองปัญหาด้วยกัน เรียนรู้ไปด้วยกัน ปัญหานั้นก็อาจจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม
  • ขอพลังต่อสู้กับปัญหาจงสถิตอยู่กับท่านตลอดไป

คุณmoomiกะป้าบวม

สรุปเนื้อหาได้กระชับมากเลยครับ
แสดงว่าผมอธิบายรู้เรื่องหรือไม่ก็
คุณmoomiกะป้าบวมอ่านจับใจความได้เก่งมาก
(ผมว่าน่าจะเป็นอันหลังมากกว่า)

กำลังหาทางให้ทุกคนมองเห็นปัญหาเป็นทางเดียวกันเหมือนกันครับ
อาจต้องใช้วิธีจำลองสถานการณ์+ทดลองทำดู
จากนั้นสรุปกับทุกคนว่า ตกลงเราแก้ปัญหาได้ไหม
ถ้าไม่ได้ก็ลองหาวิธีใหม่ไปเรื่อยๆ
จากนั้นส่งเรื่องไปข้างบนว่าเราเจอปัญหาอย่างนี้ๆๆ
ลองแก้ยังงี้ๆๆ แล้วไม่สำเร็จ
สรุปเป็นตัวเลข
แล้วเรียนให้ทราบและอาจขอความร่วมมือในการแก้ปัญหาครับ

เพิ่มเติมครับ สำหรับคนอ่านแล้วงงเช่น ผม

มะนาว-ปัญหาของหน่วยงานเรา

ความเปรี้ยว-ระดับความยุ่งยาก/ร้ายแรง (รูปธรรมแต่ต้องมาทำดูเองจึงทราบ)

PH-ค่าที่วัดระดับความยุ่งยากเป็นตัวเลข (นามธรรมที่แปรจากรูปธรรมให้คนอื่นดูเข้าใจ)

ซันควิสต์-ปัญหาของหน่วยงานเขา

คุณจันทร์เมามาย  อย่าเพิ่งท้อใจนะ   ยังมีพี่อีกคนที่พบปัญหาคล้ายๆ กัน  จนบางครั้งก็รู้สึกท้อแท้เหมือนกัน เหมือนไฟจะหมด  แต่ก็ต้องสู้เพื่อองค์กรของเรา

ปัญหาต่างๆ ที่พบ พวกพี่และน้องๆ ทีมงาน ก็กำลังพยายามแก้ไขอยู่ คือ ข้อมูล HOMC  ไม่ได้ตำหนิใครน่ะค่ะ  ทุกคนทำดีแล้ว  เพียงแต่ว่ายังพบปัญหาอยู่ จึงต้องการแก้ไขปรับปรุงไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒนางานให้มีคุณภาพ เชื่อถือได้

เพราะบางครั้งได้รับคำชมว่า  ข้อมูลเชื่อถือไม่ได้  ไม่มีคุณภาพ   จึงต้องเอาคำชมมาพิจารณาแก้ไข ไม่เช่นนั้น   มันเหมือนเราทำงานสูญเปล่า   ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย  จึงต้องพยายามแก้ไขปัญหานั้นๆ อยู่ตลอดเวลา  ปัญหาที่ยังพบอยู่เป็นประจำ คือ

เรื่อง การ In  put  ข้อมูลผู้ป่วยนอกในระบบบริการประจำวัน ของแผนกต่างๆ ลงในโปรแกรม HOMC ข้อมูลยังไม่เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ครบถ้วน เช่น

- ส่งตรวจผิดแผนก  ไม่ทำรับเข้าตรวจ   ไม่ลง Refer 

- ลงรหัสโรคผิด   อ่านลายมือแพทย์ไม่ออก  แพทย์ไม่ Dx.โรค 

- ลง DF ของแพทย์ไม่ครบ  ไม่มีชื่อแพทย์ผู้ตรวจรักษา

- ผู้ป่วยมีการจ่ายเงินซื้อยา  แต่ในแฟ้มไม่มีการบันทึกว่าผู้ป่วยมาตรวจในวันนั้นๆ

- ลงข้อมูล เพื่อบอกสถานของผู้ป่วยติดเชื้อไม่ครบ

-  การออกรายงาน บางส่วนยังไม่ได้ตามต้องการ

เห็นหรือยังว่าปัญหาไม่น้อยไปกว่ากันเลย  เพียงแต่พี่ต้องใช้หลักธรรมะ มาช่วย ไม่อย่างนั้น ก็เครียดตายเลย 

1. ใช้หลักอุเบกขา  ปล่อยวาง  บางอย่างนอกเหนือความสามารถที่เราจะทำได้  เราก็ต้องปล่อย กลับไปตั้งหลักใหม่  และสร้างพลังใจให้ตัวเอง ว่าเราต้องทำได้ ปลอบใจตัวเอง 

ทางด้านจิตวิทยา บอกว่าเราต้องสั่งจิตใต้สำนึกบ่อยๆเพื่อให้เกิดพลังที่ต่อสู้ต่อไป  มีวิทยายุทธอะไร  พี่ก็งัดออกมาใช้  เพื่อช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมี  ความสุข และไม่เครียด เพราะเครียดมากๆ  กลัวแก่ก่อนวัย  และโรคถามหา

2. ใช้ขันติ คือ ความอดทน  ทนให้คนอื่นว่า  หรือใช้อารมณ์ใส่เรา ยอมรับฟังคำตำหนิ เมื่องานผิดพลาด  มันก็ดีเหมือนกันน่ะ เราได้ฝึกลดอัตราตัวตนของเราด้วย เคยฟังแม่ชีสอนว่า ให้คนเราอดทนให้ถึงที่สุด จะได้ดีทุกคน  ถ้าอดทนแล้วยังไม่ได้ดี ถือว่ายังทนไม่ถึงที่สุด  ลองเอาไปใช้ดูก็ได้ น่าจะได้ผล

 

  • ขอบคุณ "คุณจันทร์เมามาย" นะคะ ผู้มองเห็นปัญหาเช่นท่านนี่แหละค่ะ ที่จะนำไปสู่การพัฒนางานในที่สุด อย่าพึ่งท้อใจนะคะ 
  • และขอบคุณ "P..OOM" ที่ให้สติค่ะ ทุกคนต่างก็เจอปัญหาแน่นอน
  • การทำอย่างไรให้ผ่านพ้นปัญหาได้ นี่คือสิ่งสำคัญ

ฟังปัญหาพี่ P..OOM (อ่านว่าปุ้มหรือเปล่าครับ)

แล้วค่อยๆ ถอนใจครับ

ในส่วน  - ผู้ป่วยมีการจ่ายเงินซื้อยา  แต่ในแฟ้มไม่มีการบันทึกว่าผู้ป่วยมาตรวจในวันนั้นๆ

ตรงนี้ผมพอรู้บางส่วนครับ คือ กรณีที่คนไข้มีเงินไม่พอแล้วมาขอซื้อเพิ่มวันหลังครับ ซึ่งคุณหมออาจแบ่งเป็นรายเดือน/รายอาทิตย์ไปให้คนไข้แล้วแต่กรณีครับ

วันหลังที่มาซื้อจึงกลายเป็นการเบิกซื้อโดยไม่มีการตรวจครับ

มีคนแอนตี้ไม่อยากใช้เหมือนกันครับ แต่ผมต้องพยายามอธิบายให้เขาใช้....

ใจจริงอยากให้ทุกอย่างมันราบรื่นกว่านี้ก่อนแต่ต้องเดินหน้าตามแผนต่อไปครับ

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ เรื่องอุเบกขากับขันติ ผมจะพยายามอด+ทนให้มากขึ้น 

เรื่องความเครียดผมกำลังออกกำลังกายคลายเครียดอยู่ครับ เพิ่งได้หนังสือโยคะเล่มใหม่มา ทำยากจริงๆ ครับแต่จะค่อยๆ ฝึกไป

พี่ต้องขอโทษด้วย  ที่ทำให้เข้าใจผิด จริงๆ แล้วพี่ไม่ว่าใครน่ะ  เพียงแต่พบปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ต้องนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแก้ไข   ซึ่งพี่ก็ไม่ทราบว่าเกิดการผิดพลาดตรงไหน  ได้แต่เดาเอาว่าน่าจะเกิดจากตรงนั้นตรงนี้ เพื่อที่จะแก้ปัญหา   แต่พอได้ข้อมูลจากน้องแล้ว  คิดว่าน่าจะแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น   ต้องขอขอบคุณ  ที่ช่วยให้ข้อมูลต่างๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท