สวัสดีครับชาว Blog
หลังจากร่วมกิจกรรม Knowledge Camping ครั้งที่ 13 ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ (ยศเส) ที่กรุงเทพฯ แล้ว กิจกรรมต่อเนื่องก็คือการนำนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ทั้ง 10 แห่ง เดินทางมาทัศนศึกษาและเข้าค่ายกันที่โรงเรียนเทพศินทร์ 9 (อ่างขาง) อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งการจัดสัมมนาทางวิชาการให้แก่ผู้บริหาร และครูอาจารย์ของโรงเรียนเทพศิรินทร์ทั้ง 10 แห่ง เป็นการสร้างวิสัยทัศน์และรวมใจกันเพื่อการพัฒนา "เทพฯ เป็นหนึ่ง"
ผมเดินทางไปถึงดอยอ่างขางอย่างมีความสุข แม้ว่าจะไม่ค่อยสบายนักเพราะว่าเสียงหาย (เนื่องจากทำงานหนักไปหน่อยและพักผ่อนน้อย) แต่การได้มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และธรรมชาติที่สวยงามของที่นี่ก็ทำให้ผมหายเร็วขึ้น
ภารกิจของผมเมื่อวานนี้ (4กุมภาฯ 55) คือ การบรรยาย เรื่อง หลักการบริหารโรงเรียน..ก้าวสู่ความเป็นสากลให้แก่ผู้บริหารและครูอาจารย์ของโรงเรียนเทพศิรินทร์ทั้ง 10 แห่งกว่า 100 คน บรรยากาศเมื่อวานนี้แม้จะมีเวลาไม่มากนักแต่ทุกคนสนใจ ผมพยายามจุดประกายให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจที่จะร่วมกันพัฒนาโรงเรียนของเราให้ก้าวไกลสู่สากล
สำหรับสาระและภาพบรรยากาศจะนำมาแบ่งปันกับทุก ๆ ท่านที่นี่เช่นเคยครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
ภาพบรรยากาศ
หลักการบริหารโรงเรียน..ก้าวสู่ความเป็นสากล
'Schools should be a mirror of a future society.' Anonymous
'If we do not change our direction, we are likely to end up where we are headed.' Chinese Proverb
วัตถุประสงค์
สร้างความเข้าใจภาพใหญ่ของการพัฒนาระบบการศึกษาไทย..รากฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของสังคมไทย
เรียนรู้ปัจจัยท้าทายที่สำคัญของ “โรงเรียน” ในอนาคต
ให้ทุกท่านได้สำรวจตัวเองและองค์กรเพิ่มหาช่องว่าง (Gap) และหาทางเติมเต็ม
จุดประกายให้ “ท่าน” เกิดพลังในการทำงาน และพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศ และทำงานด้วยทุนแห่งความสุข
สร้างวัฒนธรรมในการเรียนรู้ และสร้างความตระหนักเรื่องการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
สร้างการพัฒนาที่ต่อเนื่องและยั่งยืน
ผมคิดว่าปัจจัยที่ท้าทายของการเป็นบริหารในวันนี้ประกอบด้วย 3 เรื่องใหญ่ คือ
ความท้าทายเรื่องการพัฒนาตนเองให้มีวิสัยทัศน์ มีทักษะ ความรู้ และทัศนคติที่พร้อมต่อการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลง และโรงเรียนคือความหวังของสังคมไทย
ความท้าทายเรื่องการพัฒนาวิธีการเรียนการสอนให้เด็กไทยคิดเป็น..วิเคราะห์เป็น คิดเป็นวิทยาศาสตร์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความคิดเชิงนวัตกรรม มีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตสาธารณะ
ความท้าทายเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจ และทุนแห่งความสุขเพื่อการทำงานที่ทรงประสิทธิภาพท่ามกลางอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว
โลกและการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคต่าง ๆ ถึงปัจจุบัน
จากยุคที่ 1 ยุคเกษตรกรรม สู่ยุคอุตสาหกรรม สู่ยุค Information Technology ปัจจุบันเรากำลังก้าวสู่ยุคที่ 4 หรือ Forth Wave ซึ่งในอนาคตเราจะต้องเน้น
sustainability+
wisdom+
creativity+
Innovation+
intellectual capital
การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๖๑) รัฐบาลจะมุ่งเน้นให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายหลัก ๓ ประการ คือ
พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเรียนรู้ของคนไทย
เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและเรียนรู้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมในการบริหารและจัดการศึกษา
กรอบแนวทางการปฏิรูปการศึกษามี ๔ ประการ คือ
พัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่
พัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่
พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่
พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่
Social Capital & Networking Capital
วิธีการสร้างทุนทางสังคมและเครือข่ายจากประสบการณ์ของผม
ต้องเป็นคนที่ชอบคบหาสมาคมกับคนหลายๆ กลุ่ม
มีโลกทัศน์ที่พร้อมจะเรียนรู้และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
มีโลกทัศน์ที่กว้าง
มีบุคลิกที่เข้ากับคนได้ง่าย
เตรียมตัวศึกษาบุคคลที่เราอยากจะรู้จัก เช่น ศึกษาจุดอ่อน จุดแข็ง
วิถีชีวิตของเขา
มีการติดตาม (Follow up) การสร้างเครือข่ายให้ได้ผลสูงสุด
ทำงานเป็นทีม และชอบทำกิจกรรม และเล่นกีฬา
อย่าเก็บตัวอยู่คนเดียวหรือใช้ชีวิตสันโดษมากไปจนไม่มีความมั่นใจ
ที่จะเข้าสังคม
มีทัศนคติที่เป็นบวก (Positive Thinking)
ชอบความหลากหลายในความคิด และวิถีชีวิตต่างๆ
Creativity Capital
การพัฒนาทุนทางความคิดสร้างสรรค์..เริ่มจากวันนี้ ลองถามตัวเองตัวเองดูว่าเรามี ideas ใหม่ ๆ แล้วหรือไม่ และเราจะมีไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอได้อย่างไร? สำหรับตัวผม..ไอเดียใหม่ ๆ ของผม ได้จาก..
การอ่านหนังสือดี ๆ
ใช้ Internet
การพูดคุยกับคนเก่ง
ปะทะกับคนเก่ง
ฯลฯ
จุดอ่อนของเรา ก็คือ..
(1) เรายังไม่ได้สร้างบรรยากาศในการ Share ความรู้ร่วมกันในองค์กรหรือในโรงเรียน
(2) การบริหารส่วนใหญ่ยังเป็นแบบ Top down อยู่ ซึ่งจะเน้น Command and Controlหรือเป็นการทำงานแบบแนวดิ่ง Vertical
**Power มีไว้สำหรับ Participate ในทุกระดับ
(3) ส่วนใหญ่ทำงานเยอะ Working แต่ Think Strategies (คิดเป็นยุทธศาสตร์ไม่มาก)
(4) การทำงานเป็นทีมมีแต่ในระดับ Function ได้ดีแต่ไม่ Cross Function
Innovation Capital - ทุนทางนวัตกรรม
การพัฒนาทุนทางนวัตกรรม
ในความเห็นของผม มี 3
เรื่อง
มี Ideas ใหม่ หรือ Creativity และบวกกับความรู้
Turn ideas to action
ทำให้สำเร็จ
กรณีศึกษาที่น่าสนใจ คือ อาจารย์ปรารถนากับการผลักดันเพื่อให้เกิดการพัฒนาเป็น..นวัตกรรมทางการศึกษาของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าสมุทรปราการ
อ.ปรารถนาเป็นลูกศิษย์ปริญญาเอกของผมได้เชิญผมไปเยี่ยมโรงเรียนบางหัวเสือบุญแจ่มเนียมนิล ( ขณะนั้น )ในครั้งแรก
เกิดโครงการแรกตามมาคือ การพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนในจังหวัดสมุทรปราการหลักสูตรพัฒนาผู้บริหารระดับสูง 48 ชั่วโมง
โครงการต่อเนื่องที่ตามมา คือ ไปทัศนศึกษาที่ประเทศเวียดนามด้วยงบประมาณของตัวเอง
หลังจากนั้นโรงเรียนก็ให้ผมนำไปทัศนศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์
สร้างหลักสูตรใหม่ขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับท้องถิ่น
ได้รับการประเมินให้ผ่านเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝัน
เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าสมุทรปราการ
ผลงานที่ผ่านมาทำให้มีนักเรียนเข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนมากขึ้นจากจำนวนประมาณไม่ถึงพันคนเพิ่มเป็น 2 พันกว่าคน
เข้าร่วมโครงการ เป็นที่มาของ Sister School กับโรงเรียน Wadong Middle school ประเทศเกาหลีใต้
ได้รับเป็นโรงเรียนพระราชทาน เป็นโรงเรียนดีเด่นขนาดกลาง จากโครงการเด่นๆ ที่เป็นนวัตกรรมของโรงเรียน
นอกจากการพัฒนาศักยภาพของตนเองและนักเรียน เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือ วิธีการเรียนการสอน (Learning Methodologies) - สิ่งที่ดีอยู่แล้ว..เก็บไว้ เช่น การเรียนแบบท่องจำ บางส่วนดีก็เก็บไว้ เพราะอาจจะช่วยเรื่องระบบความคิดที่ดี และอาจจะเสริมด้วยแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
แนวคิดและทฤษฎีเพื่อการเรียนรู้และการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ของ ดร.จีระ
แนวคิดของ Peter Senge
ทฤษฎี Mind Mapping ของ Tony Buzan
สรุป
ผู้บริหาร นายกสมาคมผู้ปกครอง/ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ประสานเครือข่าย โรงเรียนเทพศิรินทร์กับความท้าทายต่าง ๆ ของการทำงานให้สำเร็จในวันนี้
How = 20%
Why = 30%
the greatest challenge is execution (50%)
Make it happen!!