ใครจะไปกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้เท่ากับที่เราจะกำหนด ขนาดบอกว่าฟ้าลิขิตมาให้เป็นอย่างไรก็ยังมีคนบ้าฝ่าฝืนลิขิตฟ้า แต่ผมว่านะไม่มีใครกำหนดอนาคตตัวเราเองได้ดีเท่ากับตัวเราเองอีกแล้ว (เชื่อไหมละ)
เอาละเพื่อไม่ให้เสียเวลาเริ่มเลยละกัน ก่อนหน้าที่เราจะมาเรียนทางสายกฎหมายนี้นั้นเราเคยไปเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมทหารมาแล้วเป็นเวลาสามปี เป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ(ก็เป็นคนชอบน้ำกะทะเลนิครับ) คนอื่นเขาเรียนกันสองปี มีไม่กี่คนหรอกที่จะใช้สิทธิให้คุ้มเรียนไปสามปีไปเลยเป็นไงเป็นกันจิงๆแล้วเกรดเราตอนนั้นเหลืออีก ๐.๐๘ ด้วยซ้ำที่จะสามารถขึ้นเหล่าได้ ก็เลยอดเลยในช่วงน้นเกิดการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนเตรียมทหารที่จะมีการย้ายจากพระรามสี่ไปยังบ้านนา จังหวัดนครนายก เราก็เลยต้องไปเป็นรุ่นสุดท้ายและรุ่นแรกในเวลาเดียวกัน การเรียนสามปีในโรงเรียนเตรียมทหารมันทำให้เราเจออะไรหลายๆๆอย่างไม่ใช่ว่าไม่ชอบทหารนะแต่คิดว่าเรียนไปก็คงไม่ไหวเพราะไม่เก่งคำนวนเอาเสียเลย(เรียนหกเทอมติด F คำนวนทุกเทอม)
ในที่สุดก็ขอพ่อแม่ว่าจะกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่นี้ พ่อก็บอกว่าทำไมไม่ขึ้นเหล่าละฟ้าลิขิตให้เราขึ้นได้แล้วนะเดินไปซิทางนี้ ไม่หรอกพ่อฟ้าลิขิตแต่เราจะทำลายลิขิตฟ้า ก็เลยหันเหกลับมาเรียนนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยพายัพ เอาซะดื้อๆพ่อเองก็งง (ทำได้ไงเนี้ยลูกเรา)
ตอนแรกนึกว่าเรียนง่ายเข้าง่ายออกง่ายที่ไหนได้โหดซะน่าดูชม
แต่พอมาที่นี่ มหาวิยาลัยพายัพได้เจอได้เล่าเรียนศึกษากับอาจารย์หลากหลายท่านที่ทั้งมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งมาจากผู้พิพากษาอัยการ ไหนจะอาจารย์ประจำต้องบอกว่าทุกท่านที่นี่นั้นทั้งสอนทั้งขัดเกลาเกลาแล้วเกลาอีกจนกระทั้งพวกเราจบกันอย่างแทบเอาตัวไม่รอด(เขาบอกว่าอย่าเป็นคนที่มีเหลี่ยมมันไม่ดี ต้องเป็นคนที่กลม แถมไปชุบน้ำมันด้วยนะ)
ที่นี่ไม่ได้สอนแต่ความรู้เท่านั้นอาจารย์เกือบทุกท่านก็จะมีการสอนสอดแทรกการใช้ชีวิตของวิชาชีพเรานี้พร้อมทั้งสอนให้รู้จักกับการ ให้มากกว่าการรับ ต้องขอบคุณอาจารย์มานะที่นี้ด้วยนะครับ
การกลับมาที่นี่อีกครั้งแต่ไม่ใช่ในฐานะเด็กปริญญาตรีแล้ว เนี่ยเรากลับมาในฐานะนักศึกษาปริญญาโทแล้วหรือเนี้ย กลับมาเจอบรรยากาศเก่าๆอาจารย์ทั้งประจำและอาจารย์พิเศษทั้งที่เคยเรียนกับท่านหรือไม่เคยเรียน แต่ไม่เคยมีการที่เราจะเบื่อเลยในการเรียนที่นี่ ตั้งใจที่จะเรียนและเรียนให้คุ้มค่า และที่สุดแล้วก็คือจะนำความรู้ที่มีนี้ไปช่วยเหลือคนที่เขาเดือดร้อน การกลับมาครั้งนี้คงมีอะไรที่น่าตื่นเต้นรอเราอยู่แน่นอน
ขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านที่ได้สั่งสอน และให้ความเป็นคนของประชาชน ขอบพระคุณมากครับ
ปล.ขอบพระคุณอาจารย์แหววที่ช่วยนำทางและสั่งสอนความให้ผมรู้จักตัวเองขอขอบพระคุณอาจารย์เอ๋อาจารย์เพชรที่ช่วยชี้นำทางและการเสียสละทุ่มเทเพื่อสิ่งที่หลายๆคนอาจจะมองไม่เห็นคุณค่าพร้อมทั้งความละเอียดรอบครอบของการทำงาน และขอบพระคุณอาจารย์สุชาดาด้วยถึงแม้จะเป็นยังไงอาจารย์ก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาได้ตลอด สุดท้ายขอบพระคุณพ่อแม่และน้องชายสุดที่รักที่ช่วยเป็นกำลังใจให้แม้เวลาที่ผมล้มและท้อแท้ และเข้าใจผมเสมอแม้บางอย่างอาจจะบ้าไปซะหน่อยก็ตาม ขอบพระคุณครับ
ก๊อด เราจะตามอ่านงานของเธอนะ / เพื่อน