และเราทราบแต่เพียงว่าผู้ไทอย่างพวกมากเราก่อนหน้านั้นเคยอยู่ที่ดินแดนประเทศเวียดนามปัจจบันที่เมืองนาน้อยอ้อยหนู(ใกล้ๆเมืองแถน) และก่อนหน้านั้นเคยอยู่แถวมณฑลกวางสีประเทศจีนปัจจุบัน แล้วมีผู้ไทแบบเรายังคงเหลืออยู่ที่มณฑลกวางสี หรือไม่
ผมจึงคาดหวังลึกๆว่าในการสัมมนาผู้ไทนานาชาติที่เขาวง กาฬสินธุ์ครั้งนี้จะทำให้ข้อมูลประวัติศาสตร์ิผู้ไทได้พลิกโฉมใหม่่ให้ไปไกลกว่าเรื่องราวของผู้ไทในสยามกับลาว ด้วยเพดานความรู้เรื่องผู้ไทในบ้านเราทุกวันนี้ ยังจำกัดอยู่แค่เรื่องของผู้ไทในสยามกับลาวเท่านั้น
ภาพกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยังคงเรียกตัวเองว่าผู้ไทหรือบู๋ไต๋ ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน
น่าสนใจมากครับ เดี๋ยวนี้ทิศทางของการเรียนประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา ชาติพรรณวิทยา หรือภาษาศาสตร์ ได้โคจรมาใกล้กันมากขึ้น ศาสตร์ทุกศาสตร์ต้องใช้ข้อมูลของศาสตร์อื่นมากขึ้นในการวิเคราะห์วิจัย ยิ่งมีข้อมูลเยอะ ยิ่งจะทำความเข้าใจเรื่องนั้น ๆ มากขึ้น ผมชอบไปนั่งฟังตามงามสมันาต่าง ๆ ครับ มันเหมือนกับการสรุปหนังสือที่เราอ่านมา มันเปิดโลกทัศน์กว่างขึ้น ได้รู้ความคิดต่างมากขึ้น
แต่ที่น่าเสียดาย เอกสารงานสัมนาในแต่ละง่ายไม่ค่อยแพร่กระจายมากนัก อย่างน้อย ๆ เอกสารต่าง ๆ งานสัมนาเอาลงไว้ในอินเตอร์เนทก็ยังดี ผู้คนที่สนใจจะได้ค้นข้อมูลง่ายแะลรู้ว่าร ทิศทางขงเรื่องนั้น ปัจจุบันมีแนวคิดอย่างไร
ขอบคุณครับ อ.วาทิน ศานติ์ สันติ
ยินดีได้รู้จักคนผู้ไทผู้งามจากหนองสูง มุกดาหารครับ สุภัทรา - เจติโคตร
สวัสดีครับ
ใกล้ตัวแท้ๆ เชียวครับ
เมื่อปีใหม่ผมก็ไปขลุกอยู่ที่เขาวง
ก่อนหน้านี้เคยไปศึกษาหาข้อมูลจากอาจารย์ถนอมที่เขาย้อย เพชรบุรี
พอคุ้นๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมผู้ไทบ้าง
ผมขออนุญาตติดตามอาจารย์ใน fb ด้วยครับ
ยินดีได้รู้จักคุณ ธ.วั ช ชั ย
ตระกูลภาษาไทย (TaiKadai) คำศัพท์พูดเหมือนกันหมด ร้อยละ 90 กว่าขึ้นไป แต่สำเนียงต่างกัน
เป็นเรื่องน่าสนับสนุนคะ
โครงการนี้น่าจะช่วยส่งเสริม cultural intelligent เพื่อเตรียมเข้าเป็นส่วนของสมาคมอาเซียนด้วยคะ
ยินดีครับคุณ Phachern Thammasarangkoon
อาจารย์ ป. ครับ
สวัสดีครับ
การเีขียนบทความในวิกิพีเดียภาษาไทยนั้นทำได้สะดวกครับ
ยินดีอย่างยิ่งครับ
สมัครสมาชิกหรือไม่สมัครก็เขียนได้เลย
จะเขียนบทความใหม่ หรือเพิ่มเนื้อหาบทความเดิมก็ทำได้เช่นกัน
หากมีปัญหาหรือติดขัดอย่างไร สอบถามได้นะครับ
ยินดีครับคุณ ธ.วั ช ชั ย
คงได้รบกวนในโอกาสที่เหมาะสมครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ อาจารย์สุเทพ รู้สึกดีใจที่ได้พบกับอาจารย์ที่รักถิ่นบ้านเกิดเช่นเดียวกับผม ผมติดตามบันทึกอาจารย์มานาน
วันนี้เลยลองเขียนมั่ง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติผู้ไทกัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีครับคุณ วิระศักดิ์ อารมณ์สวะ
. ผมได้มีโอกาสสนทนากับไทดำ ไทพวน ไทเวียง ด้วยทั้งสามชาติพันธุ์นั้นทำงานที่เดียวกันกับผม เลยได้ส่งภาษากันบ่อยๆ ภาษาพูดของชาวพวนบ้านดอนคา อ.อู่ทอง นั้นฟังดูนุ่มนวลไม่ตวัดหางเสียงเหมือนภาษาพูดไทอีสานทั่วไป ยิ่งไทเวียง(เรียกตัวเองว่าลาวเวียง) พูดรื่นหู ออกไปทางอ่อนโยน แต่ไทดำเวลาพูดจะพูดเร็ว ฟังได้แต่ยากกว่าพวน และเวียง
. มีคำที่ชาวไทเวียงพูดเหมือนผู้ไทเรามากคือคำว่า ญำ-ญ้าง ซึ่งถามพี่น้องพวน เขาไม่มีพูดกัน
. ที่อู่ทอง มีชนเผ่าอยู่ 3 เผ่า คือ ไททรงดำ หรือโซ่ง ลาวเวียง ลาวพวน ชาวบ้านเขาพูดแทนตัวเองว่าลาว ครับ อาศัยอยู่รอบนอกตัวอำเภอ ไททรงดำมีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างเด่นชัด และยึดถือประเพณีที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เช่น เวลาแต่งงานฝ่ายเจ้าบ่างต้องขอขมาพ่อแม่เจ้าสาวด้วยการเอาหัวเข่า " โขก" พื้น หลายครั้ง บางคนอาจโดนร้อยครั้ง ส่วนลาวพวนยังอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมด้านการจักสาน ทอผ้า การทำนาข้าว ลาวเวียงไม่แน่ใจ เพราะยังไม่ได้เข้าไปในพื้นที่
ครับคุณ วิระศักดิ์ อารมณ์สวะ
(ภาพโดยคุณวันชัย)
เรียนเชิญ คุณสุเทพ ไชยขันธุ์ และชาวผู้ไทในจังหวัดต่าง ๆ
ผมวรณัย พงศาชลากร ผู้ประสานงานจัดงานวันผู้ไทโลก "สุขสันต์วันใหม่ผู้ไทเยือนถิ่น สงกรานต์เรณูนคร จังหวัดนครพนม" ขอเรียนเชิญคุณสุเทพ และชาวผู้ไทที่สนใจในประวัติศาสตร์ความเป็นมา การอนรักษ์และการพัฒนา กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท ร่วมงานวันผู้ไทโลก ครับ
ในวันที่ 11 เมษายน จะเป็นช่วงของงานวิชาการ โดยมีการเสวนาและเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของชาวผู้ไท จากชาวเมืองวัง ชาวผู้ไทในประเทศไทย และหลาย ๆ ท่าน
ส่วนวันที่ 12 เป็นงานเทศกาล และงานเลี้ยงพาแลงดินเนอร์
วันที่ 13 เป็นวันผู้ไทโลก โดยจะมีขบวนแห่ผู้ไท จากทั้งของประเทสไทยและประเทศลาว (ผู้ไทสะหวัน ผู้ไทเมืองวัง)
และอื่น ๆ
จึงขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมเป็นวิทยากร หรือ เป็นผู้แลกเปลี่ยนความรู้ ในเรื่องของชาติพันธุ์ผู้ไทด้วยกันครับ
รวมทั้งเป็นการท่องเที่ยวในช่วงวันสงกรานต์ไปในตัว
วรณัย พงศาชลากร
ด้วยความยินดีครับคุณวรณัย พงศาชลากร
มีชาวพวนที่ จ.น่านด้วยนะครับ เว้าคือเด๋วกะผู้ไท