๙๕. ข้อควรระวังในการเขียนบล็อกและการนำภาพมาลงประกอบการเขียนบล็อก


ข้อควรระวังในการเขียนบล็อกและการนำภาพมาลงประกอบการเขียนบล็อก

 

 

 

 

ข้อควรระวังในการเขียนบล็อกและการนำภาพมาลงประกอบการเขียนบล็อก

 

            สำหรับบันทึกนี้ ผู้เขียนขอเขียนไว้เผื่อเตือนเพื่อน ๆ ใน Gotoknow ทุกท่านที่ได้เขียนหรือนำภาพมาลงประกอบการเขียนในบล็อกแห่งนี้...เพราะนี่คือ...การโจรกรรมภาพที่เราได้นำมาลงในบล็อก...เมื่อสอง สามวันก่อน ผู้เขียนได้เข้าไปอ่านในบล็อกของ ดร.ขจิต ฝอยทอง เกี่ยวกับการโจรกรรมภาพทางวิชาการ...แล้วยังให้ข้อคิดเห็นว่า "ควรให้อภัย ถ้าเขาทำในครั้งแรก เขาอาจไม่ทราบกฎหมาย"...แต่ที่ไหนได้ เมื่อวานนี้วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ดร.ขจิต กลับกลายมาเกิดกับผู้เขียนอีกด้วย...แม้ว่า ในเจตนาของผู้เขียน ไม่ได้หวังผลอะไรจากการเขียนและนำภาพมาลง...แต่ต้องการเผยแพร่ให้ทราบ + ให้ชม สำหรับภาพ ตัวผู้เขียนคิดว่า ถ้าจะมีคนนำไปนั้น ก็น่าที่จะขออนุญาตก่อนจึงจะนำไปได้ เพราะผู้เขียนก็ไม่หวงอยู่แล้ว แต่ต้องการทราบวัตถุประสงค์ของผู้ที่จะนำไปก่อนว่าจะนำไปทำอะไร?...

                เพราะเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ ก็มีผู้มาขออนุญาตนำภาพของผู้เขียนไปลงในหนังสือนิตยสารเหมือนกัน อ่านได้ที่นี่...ผลที่ได้จากเขียนบทความใน Gotoknow แต่เขาขออนุญาต ผู้เขียนก็อนุญาตให้เขาไป สำหรับเว็บไซด์นี้ เขาไม่ขออนุญาต แล้วนำไปลงในเว็บของเขา + เขียนชื่อเว็บไซด์ลงในภาพของผู้เขียนอีก ทั้ง ๆ ที่มีชื่อของผู้เขียนฝังชื่อ + เว็บของ Gotoknow ไว้บนภาพ...ซึ่งเป็นการไม่ควร เพราะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเห็นได้ชัด...แต่เขาก็กล้าทำ...

                เมื่อวานตอนเช้า มีน้อง ๆ ในที่ทำงาน เขา FB กัน แล้วก็ Link เว็บนี้ ในตอนแรกผู้เขียนก็ว่าจะไม่เปิดดู แต่ไม่ทราบว่า นึกอะไรได้ ก็ขอ Click เข้าไปดูสักหน่อยเถอะ...พอเห็นเท่านั้นแหล่ะ ถึงกับอึ้งไปเลยค่ะว่า..."อ้าว!!! นี่มันภาพของเรานี่นา ใครนำมาลงล่ะ แต่พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นชื่อเว็บของเขานำมาลงในภาพของเราอีก...คราวนี้แหล่ะ เรียกว่า อารมณ์ขึ้นเลย เขาขออนุญาตผู้เขียนก็เปล่า!!!...แล้วเขายังนำมาลงอีก มันธุรกิจกันชัด ๆ..."ขโมยภาพกันซึ่ง ๆ หน้า"...แถมยังมีหน้านำเว็บมาลงไว้บนภาพอีกเหมือนกับเป็นเจ้าของภาพนั้นเสียเอง...

                ตอนแรกผู้เขียนได้ Copy เว็บของเขาไว้แล้วจะนำมาลงใน Gotoknow ให้ผู้อ่านดู แต่เขาลบภาพในเว็บไปแล้วค่ะ...แต่ก็ไม่พ้นความสามารถของผู้เขียนหรอกค่ะ ผู้เขียนคิดตั้งแต่แรกแล้วว่า เขาต้องลบทิ้งแน่ ๆ ผู้เขียนก็เลย Copy ภาพที่เขาได้ทำแล้วนำไปลงในเว็บนั้นไว้ เก็บไว้หลายภาพค่ะ แต่ผู้เขียนขอนำมาลงให้ดูเป็นตัวอย่างเพียง ๔ ภาพนะคะ...(ด้านล่าง)...เหตุที่เขาลบก็เพราะว่า ผู้เขียนเข้าไป comment ในภาพของเขาว่า "ขออนุญาตเจ้าของภาพหรือยัง?"...แล้วก็ใส่ชื่อของผู้เขียนไว้...เขาคงรู้ว่าผิด เขาจึงลบภาพออก...ความจริงเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาน่าจะ "ขอโทษ" ก็ได้ เพราะผู้เขียนก็ไม่ได้หวงอยู่แล้ว เพียงแต่ "ให้เกียรติผู้เขียนนิดหนึ่ง" เมื่อรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว...แต่ในครั้งแรกที่จะทำ..."ก็ควรขออนุญาตเจ้าของภาพเขานิดหนึ่ง"...แต่นี่ไม่ได้ขออนุญาต...

             ผู้เขียนได้เคยเขียนเรื่องต่าง ๆ พร้อมกับนำภาพมาลงประกอบ อ่านได้ที่นี่...การรักษาคุณภาพชีวิต,ภาพบรรยากาศการรับพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (26 มีนาคม 2554),ภาพดอกทานตะวัน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ในวันที่ 28 มีนาคม 2554,ภาพบรรยากาศการรับพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยภาพข้างล่างเป็นภาพที่นำมาจากเรื่องที่ผู้เขียนนำมาประกอบการเขียนเรื่องใน Gotoknow...และก็มีเรื่องที่ผู้เขียนได้อนุญาตให้เขานำภาพไปลงแล้วและเขาก็ได้นำภาพของผู้เขียนไปลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง โดยผู้เขียนได้อนุญาตให้นำไปลงได้ อ่านได้ที่นี่...ผลที่ได้จากเขียนบทความใน Gotoknow

 

 

(ภาพนี้ผู้เขียนก็เป็นคนถ่ายเอง...แต่เขากลับนำเว็บไซด์เขามาลง

ไว้ด้านล่างภาพของผู้เขียน ในขณะที่ก็มีชื่อของผู้เขียนซึ่งเป็น

เจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ด้วย...เขาจะไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะผู้เขียน

ฝังชื่อไว้บนภาพ...ถ้าเขาจะแก้ไขก็มีวิธีเดียว คือ การใช้โปรแกรม

ตัดภาพ แต่ถ้าทำวิธีหลังแล้ว ภาพก็จะไม่สวย...)

              ตอนแรกที่รู้สึก...ก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง เช่นเดียวกับ ดร.ขจิต ที่โดนเช่นกัน เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเรื่อย ๆ คนเขียน,คนนำภาพมาลงก็จะรู้สึกท้อ + หมดกำลังใจที่จะเขียนหรือนำภาพดี ๆ มาเผยแพร่ เพราะถ้านำมาก็จะถูก "มือดี" ขโมยภาพไป แล้วแถมนำชื่อหรือเว็บของตนเองมาใส่ไว้อีกด้วย...

 

 

(ภาพนี้เป็นกล้องตัวเก่าที่ผู้เขียนถ่ายขณะที่ตนเองไปออกกำลังกาย

ในตอนเย็นหลังเลิกงานแล้ว)

               ผู้เขียนเลยต้องการเขียนเพื่อเป็น "ข้อควรระวัง" ไว้ด้วย สำหรับคนที่จะนำภาพของผู้อื่นเขาไป ถ้าเจ้าของเขาอนุญาตก็นำไปได้ แต่ถ้าเขาไม่อนุญาตก็อย่านำไป เพราะเป็นเรื่องลิขสิทธิ์ของเจ้าของเขา...อีกอย่างในอนาคตก็จะเป็นปัญหาเช่นกัน ยิ่งถ้าท่านใดไม่ได้ฝังชื่อลงบนภาพ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เขาจะถูกขโมยไปดื้อ ๆ...เพราะผู้เขียนคิดว่า ค่อนข้างยากเหมือนกันกับการแก้ปัญหาตรงนี้...ถ้าเราพบก่อนก็ดี แต่ถ้าเราเจ้าของภาพไม่พบล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น เขาก็ทึกทักว่าเป็นภาพของเขาไปโดยอัตโนมัติเลย..."มันน่าไหมล่ะ?" เจ้าของเขาหา เขาทำ เขาถ่ายมาแทบตาย..."ขโมยกันไปดื้อ ๆ "...

 

 

(ภาพนี้ ไม่มีใครถ่ายได้ ถ้าไม่ใช่คนในมหาวิทยาลัยเอง เพราะ

มุมนี้จะถ่ายได้ก็ต้องไปที่ห้องทำงานของผู้เขียนเอง...แล้วใครจะกล้า

เข้าไปในห้องทำงานของผู้เขียน ถ้าผู้เขียนไม่ได้อนุญาต...)

 

จุดประสงค์ที่เขียน ก็เพื่อเป็นข้อควรระวังกับการเขียนบทความ

วิชาการเมื่อนำมาจากแหล่งใดก็ควรนำแหล่งที่มาของเขามาไว้ด้วย

เพราะจะได้รู้ว่า ตัวเราไปนำของเขามาอ้างอิง...

ถ้าเป็นภาพก็ควรขออนุญาตจากเจ้าของภาพก่อน...

ซึ่งอาจถือว่า "เป็นจรรยาบรรณของการเขียนบทความหรือการ

เขียนบล็อก" เพราะในอนาคตยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ มันก็จะเกิดขึ้น

เรื่อย ๆ สำหรับคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน...

 

 

(ภาพที่ถูกเขา post เว็บไซด์ของเขาทับชื่อของผู้เขียน

น่าจะเป็นการตั้งจากโปรแกรม Watermaker Image

เพราะเป็นการตั้งชื่อเว็บไซด์ไว้ ณ จุดเดียวกัน และโปรแกมนี้

สามารถใส่ภาพได้คราวละมาก ๆ...และก็คงไม่ได้ตรวจสอบ)

 

ครั้งแรกก็ว่าจะลงเพียงแค่ ๔ ภาพ แต่ความจริงภาพที่ถูกลักไปนั้น

มีมากกว่า ๔ ก็เลยนำมาให้ดูกันค่ะ...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพนี้ ผู้เขียนไม่ได้เขียนไว้เป็นชื่อของผู้เขียน แต่ผู้เขียนจำได้

 เพราะเขียนไว้ในบล็อกของ Gotoknow ค่ะ และภาพของผู้เขียน

ก็จะตกแต่งแบบไม่เหมือนท่านใดด้วยค่ะมุมนี้ก็ถ่ายจากห้องที่ทำงาน

ของผู้เขียนเองค่ะ

 

 

มีประมาณ ๑๒ ภาพค่ะ ครั้งแรกบอก อาจารย์ขจิตไป ๑๕ ภาพ

เนื่องจากมี ๓ ภาพที่ผู้เขียน save ซ้ำกันค่ะ...

 สาเหตุที่ต้องนำเรื่องนี้มาเขียนเพราะ...

              ในช่วงหลังผู้เขียนนำภาพมาขึ้นในเว็บไซด์มาก "กลัว" เหมือนกัน กลัวในสิ่งที่ไม่คาดคิด ว่าถ้ามีท่านใดนำไปแล้วไม่ได้ขออนุญาต อาจนำไปทำในเชิงธุรกิจ หรือทางที่เสียหาย จะทำให้เกิดผลเสียต่อผู้เขียน...จึงต้องขอแจ้งเตือนกันก่อนว่า "ควรขออนุญาต" เจ้าของภาพเขาก่อน ก่อนที่จะนำไป เพื่อทราบวัตถุประสงค์ในการนำไปค่ะ...

                   และก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ถ้าเกิดกรณีลักภาพกันไปแบบนี้บ่อย ๆ ผู้อ่านที่เขาไม่มีเจตนาที่จะทำเหมือนกับผู้ที่ลักภาพไป เขาก็จะไม่ได้เห็นภาพที่สร้างสรรค์บนเว็บไซด์นี้อีก เนื่องจากเจ้าของภาพก็คงหมดกำลังใจที่จะหาภาพสวย ๆ ดี ๆ เพื่อนำมาขึ้นเว็บไซด์อีก...เพราะถ้านำมา "ลิขสิทธิ์" ที่ควรจะเป็นของเจ้าของภาพ ก็จะถูกผู้ที่ลักภาพไปนั้น ยึดครองเป็นลิขสิทธิ์เอง

                    การนำไป ถ้าไม่เพื่อการค้า หรือธุรกิจ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ในปัจจุบันจะเน้นกันเพื่อนำไปทางด้านการค้า ผลประโยชน์เสียมากกว่า โดยไม่ยอมลงทุน...ผิดกับเจ้าของภาพ ถ้าเขาเห็น เขาก็เก็บภาพ ถ่ายภาพ ด้วยน้ำพัก - น้ำแรงของเขาเองเพื่อนำมาให้คนอื่นได้ดูชม...

 

หมายเลขบันทึก: 476221เขียนเมื่อ 25 มกราคม 2012 16:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2013 15:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)
  • คุณบุศยมาศบอกว่า

 

"ภาพนี้ผู้เขียนก็เป็นคนถ่ายเอง...แต่เขากลับนำเว็บไซด์เขามาลงไว้ด้านล่างภาพของผู้เขียน ในขณะที่ก็มีชื่อของผู้เขียนซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ด้วย...เขาจะไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะผู้เขียนฝังชื่อไว้บนภาพ" 

    • เขาอาจจะใช้โปรแกรมตัดภาพ เพื่อตัดชื่อเจ้าของภาพแบบภาพข้าล่างค่ะ 

 

เจอเหตุการณ์อย่างนี้ก็คงอื้งเหมือนกันคะ

..

คิดอีกแง่หนึ่ง (พยายามคิดในแง่ดี) ผู้นำไปโพสต์อาจเห็นว่า เพราะมีชื่อฝังในภาพ เป็นการบ่งบอกเจ้าของอยู่แล้ว

จึงละเลยที่จะอ้างอิงที่มาของภาพ

ส่วนสัญลักษณ์ของเวบไซต์อาจเป็นการประทับลงไปโดยโปรแกรม upload อัตโนมัติก็ได้คะ

(เดาจากมันทับไปตำแหน่งเดิมเป๊ะๆ และทับไม่หลีกชื่อคุณบุษยมาศเลย)

...

หากเป็นเช่นนั้นจริง

ตัวเวบไซต์คงต้องปรับปรุง วิธีการรับภาพ โดยมีผู้ตรวจสอบ และยกเลิกการประทับตราอัตโนมัติแบบนี้คะ

สวัสดีค่ะ

เห็นด้วยกับอาจารย์ผศ. วิไล แพงศรีค่ะ

อย่างภาพของหนูรี เจอบ่อยๆ นำมาฝากเป็นตัวอย่าง

•ภาพเดิม จากบันทึกhttp://www.gotoknow.org/blogs/posts/232103

•ภาพCopy ที่มีผู้นำไปใช้ ที่ตัดเอาชื่อเจ้าของเดิมออก

http://thansilaresort.com/Restaurant.html

หากเราค้นจาก google จะมีรายละเอียดภาพ ที่ตรงกันเชียวค่ะ

แต่รายนี้ เขามีเขียนขอบคุณ ลิงค์อ้างอิงที่มาของภาพไว้ด้วย

แต่ก็นั่นแหละนะ ทำธุรกิจแต่ทำไมไม่ยอมลงทุน ในการถ่ายภาพเอง

...........

ขอบคุณอาจารย์บุษยมาศค่ะ

ขอบคุณค่ะ

..................

ขอบคุณอาจารย์บุษยมาศ ที่นำเรื่องนี้มาเขียนบันทึกไว้ค่ะ อทินนาทานาฯ ชัดๆ

  • สวัสดีค่ะ ท่าน ผศ.วิไล...Ico48
  • ค่ะ ก็จริงอย่างที่อาจารย์บอก "เขาอาจตัดภาพที่มีชื่อเราอยู่ได้ค่ะ" แต่ถ้าดูแล้ว ภาพก็จะไม่สมบูรณ์ คือแหว่งไป เขาก็ไม่ตัดไงค่ะ
  • ถ้าคิดเชิงบวก ก็แสดงว่าภาพเราสวย เขาถึงมาเอาไป...
  • แต่ตามมารยาทของคนที่จะนำของคนอื่นเขาไปแล้วนั้น คนเราน่าจะขออนุญาตก่อน เพราะกล่อง comment ด้านล่างก็มีบอกว่าให้ Post ข้อความลงไปได้...ก็บอกแล้วไงค่ะ สำหรับผู้เขียนว่า "ไม่หวง" แต่ตามมารยาท "ควรที่จะมีการขออนุญาต" กันก่อน...เป็นการให้เกียรติกันไงค่ะ หรือว่า สังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว คิดจะเอาไปก็เอาไปกันดื้อ ๆ โดยไม่บอกกล่าวเจ้าของเขาก่อน...
  • ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ...
  • ค่ะ อาจารย์ ป. Ico48
  • ก็พยายามคิดในแง่ดีค่ะว่า "เขาอาจไม่รู้, เขาอาจนึกไม่ถึง" คิดไปสารพัดเท่าที่จะเข้าข้างเขาให้ได้...แต่ก็มาสะดุดทุกครั้งกับ คำว่า "ทำไมเขาไม่ขออนุญาตเราก่อน" เป็นการให้เกียรติกัน บางครั้ง บางเรื่อง ผู้เขียนเคยนึกอยู่เสมอว่าจะทำอะไรก็ต้องให้เกียรติเขาก่อน... แต่มันก็คงใช้ไม่ได้แล้วในสมัยปัจจุบันว่า "จะทำให้คนอื่นเหมือนเรานั้น ก็คงยาก"...
  • ในเมื่อนำไปลงแล้ว ทำไมต้องลบมันทิ้ง ก็เพียงแค่คำ "ขอโทษ" เท่านั้น ผู้เขียนก็ไม่ถือโทษแล้วค่ะ แต่นี่ เขาก็กลับลบบล็อกหน้านั้นไปเลยค่ะ...แปลกดี!!! ก็แสดงว่าเขารู้ว่าเขาทำไม่ถูก นี่ก็แสดงให้เห็นว่า...การที่คนเราทำผิดแล้ว แค่คำพูดที่ว่า "ขอโทษ" กลับพูดไม่ได้...
  • ค่ะ ก็คงเป็นโปรแกรมแบบที่อาจารย์บอกนั่นแหล่ะค่ะ คงตั้งเอาไว้ ณ จุดเดิม คงเป็นผู้ส่งภาพไปแล้วเว็บไซด์ก็รับอย่างเดียว และก็ประทับชื่อเว็บไซด์ไว้...ถ้าไม่มีใครโวยวายก็คงผ่านไป...ถ้ามีคนโวยวายก็ค่อยแก้ไขแบบนั้นแหล่ะค่ะ
  • ขอบคุณอาจารย์ที่แวะมาค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณหนูรี Ico48
  • ค่ะ เขาสามารถตัดภาพที่มีชื่อเราได้ แต่ถ้าดูถึงความสมบูรณ์ของภาพแล้ว ก็แสดงว่าภาพถูกตัดไปแล้ว "ภาพไม่สมบูรณ์"...แต่เขาก็คงไม่นึกหรอกค่ะ แค่กับขอให้มีภาพติดไว้เท่านั้นเอง...
  • สมัยนี้ อะไร ๆ ก็คิดเป็นเงินเป็นทองหารายได้กันไปหมด ลืมนึกถึงไปว่า คำว่า "จรรยาบรรณ" สิ่งที่ตนเองควรกระทำนั้น กลับกลายนึกถึงแต่เรื่องธุรกิจ...น่าอนาถแท้ ๆ ค่ะ
  • จะทำธุรกิจ ก็ไม่คิดที่จะลงทุน จริง ๆ เลยล่ะค่ะ เรียกว่า "อยากได้ของฟรี" ว่างั้นเถอะค่ะ
  • มันยากเย็นเสียจริง ๆ กระมังค่ะ กับคำว่า "ขออนุญาต" หรือว่า คำ "ขอโทษ"...จริงไหมค่ะ...
  • ขอบคุณคุณหนูรีที่แวะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันค่ะ

 

  • ค่ะ คุณบัวชมพู Ico48
  • ก็เป็นการขโมยนั่นแหล่ะค่ะ...เพราะเขาไม่ขออนุญาตเรา เขาก็คงรู้ว่า เจ้าของเขามาถามถึงว่า "ได้ขออนุญาตเจ้าของภาพหรือยัง" เขาก็คงกลัว แสดงว่าเขารู้ว่ามันผิด หรืออาจไม่ได้กลั่นกรองในตอนแรกที่จะนำขึ้นเว็บ พอเมื่อรู้ก็เลยไม่กล้านำมาแขวนไว้อีก ก็เลยต้องลบออก...ก็ยังดีนะคะ ที่ลบออก...
  • ความจริง แค่คำว่า "ขอโทษ" ก็ได้ค่ะ เพราะเราก็ไม่หวงอยู่แล้ว เพียงแต่ให้เกียรติกันบ้าง ก็เท่านั้นเอง สังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมากจริง ๆ ค่ะ ไม่เหมือนสมัยก่อนเลย ห่างหายไปมากเลยกับคำว่า "ขออนุญาต" หรือคำว่า "ขอโทษ" น่ะคะ...
  • ขอบคุณคุณบัวชมพูที่แวะมาอ่านค่ะ ผู้เขียนไม่มีเจตนาอื่น แต่ที่เขียนไว้เพื่อเตือนสติกับการที่จะทำอะไรบนเว็บไซด์นี้ค่ะ และก็ไม่ต้องการให้ผู้เขียนหน้าใหม่เป็นเหมือนเรื่องข้างต้นนี้หรอกค่ะ เพราะบางครั้งถ้าเราไม่มีเจตนา แล้วทำไป มันจะเกิดความเสียหายให้ตัวเราในภายหลังได้ค่ะ...
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ คุณ...Ico48 + Ico48 + Ico24 + Ico48

สวัสดีค่ะคุณบุษยมาศ.

...ขอโทษ! คำง่ายๆแต่สังคมไทยวันนี้เอื้อนเอ่ยยาก.

...อภัย! คำเพียงหนึ่งคำที่สามารถทำให้หัวใจเบา.

...ลิขสิทธิ์(1ในทรัพย์สินทางปัญญา)เป็นสิ่งที่คู่กับความเจริญทางปัญญาแต่ก็สร้างปัญหาอย่างมากในโลกยุคความเจริญทางวัตถุ(มากกว่าปัญญา) สูตรปลูกผักหวานป่ากับต้นตะขบของอุฑยานผักหวานป่าก็มีหลายที่เช่นเดียวกันค่ะที่นำไปปลูกได้ผล(ออกทีวีไม่เอ่ยถึงซักคำ ความรู้นั้นได้จากที่ใดมา) หรือแม้แต่โครงการที่นำเสนอเพื่อส่วนรวมแต่เมื่อสอบผ่านโดนสับเปลี่ยนโครงการโยนต้นฉบับลงถัง!ก็เคยโดนมาแล้วค่ะ(แต่คนทำก็แพ้ภัยตัวเองค่ะ"ให้ทุกแก่ท่านทุกนั้นถึงตัว").

...ปัญหาโลกแตกค่ะได้แต่ทำใจ"ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ความลับไม่มีในโลก"(แต่ถ้าเหยียบตาปากันก็ต้องเจอบ้าง)...

ขอบคุณค่ะ.

สวัสดีค่ะ คุณน้อย

เขาถึงบอกไงค่ะว่า อย่างเดียวกับคำว่า "กฎแห่งกรรม" ใครทำอย่างไรก้ได้รับผลเช่นนั้น...สำหรับผู้เขียนเอง ไม่ว่าที่จะนำภาพไป แต่ขอทราบที่มาที่ไป ต้นสายปลายเหตุที่จะนำภาพของเราไปค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะนำไปทำอะไร ถ้ารู้ ก็ยินให้อยู่แล้ว ถ้าไม่นำไปทำในทางที่เสียหาย แต่ขอให้ "บอกกล่าวกันให้ทราบ" หรือว่า "ขออนุญาต" เพราะจากที่เขียนมา ก็มีพี่ ๆ ที่เห็นว่าภาพน่าดู เขาก็ขออนุญาตนำไปเก็บไว้ดู ผู้เขียนก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาเลย ได้แต่อนุญาตเขาไปด้วยซ้ำ...แต่นี่มันเหมือนการลักไป แถมมีชื่อเราอีก แล้วก็ไปใส่ชื่อเว็บแบบหน้าตาเฉยอีกด้วย มันก็แค่ "เสียความรู้สึกเท่านั้นเองค่ะ

นี่ยังเป็นภาพที่ไม่ใช่ทางวิชาการนะคะ ถ้าเป็นภาพทางวิชาการ เจ้าของเขาจะไม่เดือดหรือค่ะ เพราะนั่นคือ "ผลงานของเขา เขามีสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของ ถ้าตามกฎหมาย" แต่คนไทยเราบางคนชอบก็ชอบมีนิสัยมักง่าย นึกอยากได้ของใครก็เอาไปเฉย ๆ ไม่ขออนุญาตเจ้าของภาพเขาก่อน ไม่ยอมลงทุนไปเก็บภาพเอง รอฉกฉวยตามเว็บไซด์ของผู้อื่น...ถ้าจะสบายกระมังค่ะ

ความจริงที่เขียน ต้องการให้เป็นเรื่องเตือนว่า คนเราควรให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นการเคารพซึ่งสิทธิของกันและกัน เราเคารพคนอื่น ตัวเราก็ต้องการให้คนอื่นเคารพเราด้วยเช่นกัน

ถ้าพูดถึงลิขสิทธิ์ของแต่ละคน ถ้าเรามี เราก็ต้องหวงเป็นธรรมดา เพียงแต่ว่า ถ้ามีการเอื้อนเอ่ยกันก่อนละก็ บอกได้เลยว่า คนเราก็ไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดจะใจร้ายหรอกค่ะ "ขอให้บอก" "ขอให้ขออนุญาต" ก่อนก็เท่านั้นเองค่ะ

สำหรับผู้เขียนพร้อมที่จะให้อภัยเสมอ ถ้าเขาไม่ขอ เพราะ "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" ค่ะ...ขึ้นอยู่กับ "กฎแห่งกรรม" จริง ๆ ค่ะ ทำอย่างไรก็จะได้ผลเช่นนั้น...

ขอบคุณคุณน้อย ที่เข้ามาร่วมและเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ

  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ คุณน้อย Ico24

เรียนอาจารย์ บุษยมาศ

ผู้เฒ่าก็เคยก็อป บทความเรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเงินเดือนลูกจ้าง ของอาจารย์ ไปลงในบล็อกของสมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข และได้ขออนุญาติจากอจารย์แล้ว หากมีการผิดพลาดประการได ผู้เฒ่าต้องอนุญาติอีกครั้ง และขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย

หวังในความกรุณาจากอาจารย์

ตอบ คุณวอญ่า Ico48

  • ถ้าเป็นเรื่องการปฏิบัติงานในการรับราชการ ผู้เขียนไม่เคยหวงเลยค่ะ เป็นเรื่องของจิตอาสา ที่จะบอก แจ้ง กล่าวกันให้ทราบ เรียกว่า "เป็นวิทยาทาน" ที่ผู้เขียนให้กับทุกคนที่เข้ามาอ่าน เพื่อที่จะได้ทำให้สังคมหรือระบบราชการไทยเป็นระบบที่ดียิ่งขึ้นค่ะ เรื่องนี้ไม่หวงอยู่แล้วค่ะ
  • เพราะผลที่ได้ มันไม่ใช่ตกกับคนใดคนหนึ่ง หรือเป็นธุรกิจ มันตกอยู่กับบุคลากรของภาครัฐ เป็นบุคลากรของประเทศไทยไงค่ะ ต้องแยกประเภทกันค่ะ
  • เพราะที่เขียนเป็นเรื่องแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์กันไงค่ะ ไม่เกี่ยวกับเรื่อง การเขียนผลงานทางบล็อก หรือภาพต่าง ๆ ที่นำมาลงค่ะ เพราะก็จะมีบางท่านที่เขาเขียนผลงานทางวิชาการ และภาพทางวิชาการค่ะ หรือภาพที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลไงค่ะ
  • แต่คุณวอญ่า ก็ขออนุญาตแล้วตั้งแต่แรก ผู้เขียนก็อนุญาตแล้ว ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้หรอกค่ะ
  • ถ้าทางที่ดีแล้ว เวลาจะต้องการสิ่งใด เราก็ควรขออนุญาตเขาก่อนนั้น ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าเขาอนุญาตก็สามารถนำไปได้ค่ะ
  • พี่ครับ
  • ขออนุญาต link บันทึกนี้ไปไว้ที่บันทึกผมนะครับ
  • ในกรณีของพี่เอาภาพไปหลายภาพเลยนะครับ
  • ผมเองก็ไม่ได้โกรธ แต่รูปที่เขาเอาไปเอาไปลงหนังสือขายครับ
  • ทำเป็นธุรกิจเลย
  • ขอบคุณมากๆที่เขียนบันทึกนี้ครับ
  • ได้เลยค่ะ อาจารย์ขจิต Ico48 "อนุญาตค่ะ"
  • ประมาณ 15 ภาพกระมังค่ะ คือ พี่ก็ไม่ได้หวง แต่ควรขออนุญาตเราก่อน ถ้าขอเราก็จะอนุญาตค่ะ เพราะตามมารยาทอยู่แล้ว แต่นี่กลับนำไปขึ้นเว็บ แล้วก็ไปใส่ชื่อเว็บที่เขานำไปแขวนอีกด้วยสิค่ะ...
  • ถ้าไม่พูดต่อไปก็จะน่ากลัวมาก ยิ่งพี่นำรูปขึ้นเยอะมาก "กลัว" ค่ะ กลัวเขาจะนำไปทำในสิ่งที่เราไม่คาดคิดไงค่ะ ถ้านำไปในทางที่สร้างสรรค์ก็ไม่เท่าไร
  • เพราะคนเราจิตใจไม่เหมือนกันหรอกค่ะ โดยเฉพาะตอนนี้ เป็นโลก online ด้วย เขาคงถือว่าเป็นเรื่องอิสระกระมังค่ะ จะทำอย่างไรก็ได้ แต่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่...ยิ่งกับความคิดของคนรุ่นใหม่ ๆ ด้วย น่ากลัวจริง ๆ ค่ะ

อ้าว พี่บุษ ก็โดนอุ๊บอิ๊บไปด้วยนะคะ คิดในแง่ดีว่า ภาพเราสวยซะ ขนาดมีชื่อนะคะ

ยังสงสัยว่า แล้วที่เราไม่พบ ตามไม่เจอ อีกจะสักเท่าไหร่ ใครจะมีเวลาตามหา ฮา

ขนาดน้องปลีปู อยู่ดีๆ ยังโดนเลยค่ะ ฮา http://www.fwdder.com/topic/284241

 

 

  • นั่นสิ น้อง Poo Ico48
  • พี่ก็พยายามคิดว่า "ภาพเราสวย" เขาคงอยากได้ คริ ๆ ๆ
  • พี่ก็ไม่ได้ว่า "แต่น่าจะขออนุญาต หรือบอกกล่าวเราก่อนก็ได้" แต่นี่ไม่...
  • ช่วงหลัง ๆ พี่นำภาพมาขึ้นไว้เยอะมาก เพราะเรื่องลิขสิทธิ์นี่แหล่ะ "กลัวมาก" ถ้าเราไป Copy เขามา ก็กลัวโดนไงค่ะ จึงไม่กล้า แต่ก็แปลก!!!...เขากลับมา Copy ของเราไปเสียนี่
  • สำหรับน้องปลี เขาคงไม่มีเวลาไปถ่ายกระมังค่ะ คริ ๆ ๆ หัวปลี ออกไม่ทันคร้า 555...
  • บางครั้ง เราตามไม่ค่อยจะทันเลยค่ะ กับโลกไซเบอร์ ยิ่งชราขึ้น เหนื่อยจริง ๆ จ้า...คริ ๆ ๆ

 

ขอสอบถามเพิ่มเติมนะคะอาจารย์ คือ-.

1.ถ้าสมมติว่าหนูต้องการทำนิตยสาร free copy โดยมีสปอนเซอร์ต่างๆมาร่วมด้วย ตรงนี้ภาพที่นำไปลงใน free copy นั้นๆจะสามารถนำไปลงได้หรือไม่

2.หากภาพที่นำมาลง ไม่ได้ขออนุญาตอย่างเป็นทางการ แต่ลงข้อมูล หรือใส่ชื่อผู้ที่เป็นเจ้าของภาพ เพื่อเป็นการให้เกียรติ จะสามารถทำได้หรือไม่ (ไม่มีการตัดภาพ หรือตัดชื่อที่ฝังไว้แต่อย่างใด)

ขอบพระคุณค่ะ....ผู้ด้อยความรู้

ตอบ คุณ Patt

ทางที่ดีแล้ว น่าจะขออนุญาตเจ้าของภาพเขานะคะ เพราะถ้าเรานำไปแต่อ้างชื่อเขาก็จริง ถ้าเขาไม่ได้อนุญาตมันจะกลายเป็นเรื่อง สู้ทำให้ถูกต้องดีกว่าค่ะ เพราะบางภาพ เป็นภาพที่เจ้าของเขานำมาโชว์ว่าเป็นลิขสิทธิ์ของเขา การนำไปแม้มีชื่อเจ้าของติดอยู่ก็ไม่ควร ควรขออนุญาตดีกว่าค่ะ เป็นการให้เกียรติเขาด้วย เจ้าของภาพจะได้รับทราบว่านำไปทำอะไร มีวัตถุประสงค์อะไร เพราะบางภาพที่เราทราบ เราเห็น เจ้าของภาพเพียงแค่เผยแพร่ในเรื่องของตนเองเท่านั้น...

สวัสดีค่ะอาจารย์ บุษยมาศ

ตามมาขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ  ที่อาจารย์กรุณาไปแนะนำถึงบันทึก

นำ VDO ลงแบบคนอื่นได้แล้ว  กด Play เข้าดูได้เลย...ดีใจมากค่ะ

ความเอื้อเฟื้อของอาจารย์  ช่วยเพิ่มความอบอุ่น  ความสนุกสนานของการเรียนรู้ที่ G2K นี้

เป็น "ครู" แท้

ขอเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยนะคะ...ถ้าหากว่าภาพที่นำมาลงเค้าใส่ชื่อ เช่น Photo by kor หรือ pic 2u ..ก็จริงอยู่ แต่เราจะสามารถไปขออนุญาตเค้าได้ยังไงคะ คือ งง ตรงที่ว่า หากเราไม่ได้ทราบถึงรายละเอียด ข้อมูลส่วนตัวของเค้าเลย เบอร์โทรติดต่อก็ไม่มี เมล์ก็ไม่มี จะขออนุญาตเค้าได้ยังไงดีคะ

ขอบพระคุณค่ะ

ขอเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยนะคะ...ถ้าหากว่าภาพที่นำมาลงเค้าใส่ชื่อ เช่น Photo by kor หรือ pic 2u ..ก็จริงอยู่ แต่เราจะสามารถไปขออนุญาตเค้าได้ยังไงคะ คือ งง ตรงที่ว่า หากเราไม่ได้ทราบถึงรายละเอียด ข้อมูลส่วนตัวของเค้าเลย เบอร์โทรติดต่อก็ไม่มี เมล์ก็ไม่มี จะขออนุญาตเค้าได้ยังไงดีคะ

ขอบพระคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท