รูปหลวงพ่อคูณ และอักษรไทยคำว่า "ร้านนี้ค้าขายแล้วรวย" เจ้าของสิทธิคือ หลวงพ่อคูณนั้น ดังนั้น รูปหลวงพ่อและอักษรไทยดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจตนาและการใช้เครื่องหมายดังกล่าวว่า หลวงพ่อมีความประสงค์จะใช้เป็นที่หมายหรือใช้กับสินค้าอะไรหรือการบริการอะไร ถ้าใช้กับสินค้าก็เป็นเครื่องหมายการค้า ถ้าใช้กับการบริการก็เป็นเครื่องหมายบริการ โดยนัยเหมือนกัน ถ้าหลวงพ่อประสงค์จะใช้รูปหลวงพ่อและอักษรไทยดังกล่าวเพื่อประสงค์จะรับรองเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด ส่วนประกอบวิธีการผลิต คุณภาพ หรือคุณลักษณะอื่นใดของบริการ ก็เป็นเครื่องหมายบริการได้ แต่ถ้าบุคคลดังกล่าวนำรูปหลวงพ่อไปใช้โดยมิได้จดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าต่อนายทะเบียน กล่าวคือนำไปใช้กับประกอบกับเครื่องหมายการค้าของตนที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วหรือไม่ก็ตาม หากหลวงพ่อมิได้ยินยอมให้บุคคลดังกล่าวดำเนินการเช่นนั้นแล้ว บุคคลผู้ที่นำรูปหลวงพ่อและอักษรไทยดังกล่าวไปใช้โดยพลการ ย่อมกระทำการอันเป็นการละเมิดต่อหลวงพ่อ ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้หลวงพ่อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า " ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างอนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน " นอกจากนี้ถ้าหากใครนำรูปปั้นหลวงพ่อคูณหรือภาพถ่ายหลวงพ่อคูณไปทำซ้ำก็เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ได้เช่นกัน
ที่มากรมทรัพย์สินทางปัญญา
การที่มีบุคคลอื่นนำชือของหลวงพ่อคูณไปแสวงหาประโยชน์ในทางใดๆ ก็ตาม โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เห็นได้ว่าเป็นการกระทำทีไม่สุจริตขัดต่อมาตรา 5 ตามประมาลกฎหมายแพ่งและพาณชย์ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ขัดต่อมาตรา 18 อันเป็นการละเมิดตามมาตรา 420 อีกด้วย
แต่หากหลวงพ่อคูณ จะนำชื่อของตนมายื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า/บริการ เพื่อใช้กับสินค้า มีปัญหาที่น่าสนใจว่า คำขอจดทะบียนนั้นจะขัดต่อมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัิตเครื่องหมายการค้าหรือไม่ และสิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์นนี้มีการตีความไปไกลแค่ไหน
ขอบคุณมากนะค่ะ คุณอมรินทร์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
มาเยื่ยม...เท่าที่ผมไปพบกราบไหว้หลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ อ. ด่านขุนทด นั้น...ดูท่านคงปล่อยให้ลูกศิษย์
จัดการเอาเองในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา