๑๔.
"ถ้าเราหมั่นฝึกฝนเด็กคนหนึ่ง แม้เขาจะอ่อนแอทางภาษาในตอนแรก แต่การเอาใจใส่ คอยกระตุ้นแนวคิดด้วยการตั้งคำถาม ถาม ถาม และถามให้เราค้นหาคำตอบ จนกระทั่งเขาสามารถตั้งคำถามด้วยตนเอง ค้นหาคำตอบด้วยตนเองได้ และผู้สอนคอยนำคำใหม่สำหรับเขามาให้เขาเรียนรู้โดยการใช้วิธีการเขียนตาคำบอก ค้นหาคำตอบว่าเขียนถูก-ผิดจากพจนานุกรมด้วยตนเอง เขาก็จะสะสมคำเพิ่มขึ้น และนานไปภาษาของเขาก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น"
วันนี้ดำส่งความเรียงเรื่อง “อ้ายเหลือ” ให้อ่าน ดำเขียนว่า
อ้ายเหลือ
1
อ้ายเหลือเป็นหมาของพ่อ
มันชอบเล่นกับฉัน
มันชอบวิ่งแข่งกับฉัน
มันชอบกินอาหารที่พ่อให้มัน
2
อ้ายเหลือเป็นหมาตัวผู้
อ้ายเหลือมีขนสีน้ำตาลกับสีขาว
เพราะมันเหลือตัวเดียว
ตัวอื่นๆ ตายหมด
ใครๆ จึงเรียกมันว่า “อ้ายเหลือ”
3
อ้ายเหลือมันนอนในอู่ซ่อมรถ
บางครั้งมันนอนหน้าบ้านฉัน
แต่มันชอบนอนที่อู่ซ่อมรถ
อู่ซ่อมรถเป็นบ้านเกิดของมัน
4
ฉันชอบอ้ายเหลือ
เพราะมันเป็นเพื่อนเล่นของฉัน
เวลาคนแกล้งฉัน อ้ายเหลือจะกัด
เวลาหมาอื่นมามันจะขู่ไม่ให้หมาอื่นมาใกล้ฉัน
ฉันคิดว่า ถ้าเรารักหมา หมาก็รักเรา
7/11/54
5
อ้ายเหลือเวลามันหิว
มันมาที่บ้านฉัน
มันร้องขอข้าวจากฉัน
เวลาประตูบ้านปิด
อ้ายเหลือนอนรอ
หรือตะกุยประตูบ้านฉัน
ถ้ายังไม่เปิดบ้าน
มันจะส่งเสียงขออาหาร
พ่อกับฉันเอาอาหารให้มัน
อ้ายเหลือเหมือนสมาชิกของบ้านฉัน
ถ้าเรารักหมา หมาจะรักเรา
6
เวลาอ้ายเหลือกัดกับเพื่อน
มันจะไม่ยอมแพ้ง่าย
แสดงว่าอ้ายเหลือเป็นหมานักสู้
7
ฉันเป็นเพื่อนกับอ้ายเหลือ
เพราะอ้ายเหลือปกป้องฉัน
เวลาคนจะทำร้ายฉัน
ฉันรักอ้ายเหลือ
13/11/54
ดำเขียนอ้ายเหลือตอนที่ 1-4 มาให้ผมอ่าน ดำเขียนที่บ้าน ผมอ่านแล้วคิดว่า ดำน่าจะสะท้อนภาพของอ้ายเหลือได้มากกว่านี้ จึงนั่งพูดคุยซักถามดำถึงเรื่องอ้ายเหลือ ในแง่มุมต่างๆ แล้วเปิดโอกาสให้ดำเขียนเรื่องอ้ายเหลือต่อ ถึงตอนที่ 5-7 เป็นตอนที่ดำนั่งเขียนอยู่ใกล้ๆ ผม
การพูดคุยสนทนาซักถามเป็นวิธีการกระตุ้นความคิดของผู้สนทนาร่วมกันได้อย่างดี โดยเฉพาะผู้สอนจะได้เรียนรู้ความรู้สึกนึกคิดของผู้เรียนขณะที่สนทนากัน ถ้าผู้สอนสามารถตั้งคำถามกระตุ้นแนวคิดมุมมองของผู้เรียนให้มองออกหรือคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมๆ บ่อยๆ ผู้เรียนก็เห็นทางใหม่ขึ้นมาได้
ผมกระตุ้นให้ดำมองอ้ายเหลือจากภาพความจริงที่ดำเห็นอยู่ทุกวัน เป็นการฝึกทักษะการสังเกตให้ดำ ผมเชื่อว่า ผู้ที่สังเกตเก่ง ตั้งคำถามเก่ง จะมีวิธีการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ความเชื่ออย่างนี้ ผมนำมาใช้กับลูกศิษย์ของผมทุกคน อ้ายเหลือเป็นความเรียงที่สมบูรณ์แบบของดำ ดำบรรยายภาพของอ้ายเหลือชัดเจน ผู้อ่านอ่านแล้วรู้จักอ้ายเหลือ และรู้ซึ้งว่าดำมีความผูกพันกับอ้ายเหลือมากน้อยเพียงใด
ความเรียงตอนที่ 7 ที่ดำเขียนถึงอ้ายเหลือ คือ เมตตาจิตที่ดำมีต่ออ้ายเหลือ เพราะดำรักอ้ายเหลือ ดำจึงคิดว่าอ้ายเหลือรักดำ
“อ้ายเหลือเหมือนสมาชิกของบ้านฉัน”
หรือ
“ฉันเป็นเพื่อนกับอ้ายเหลือ”
และ
“ฉันรักอ้ายเหลือ”
คือความจริงใจที่ดำสะท้อนออกมาให้ผู้อ่านเห็นได้อย่างชัดเจน
ความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ ของดำกับอ้ายเหลือที่ดำสะท้อนภาพให้เห็นในตอนต้นว่า
“มันชอบเล่นกับฉัน มันชอบวิ่งแข่งกับฉัน”
ความผูกพันนี้ส่งผลให้เกิดความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ดำเขียนว่า
“เพราะมันเป็นเพื่อนเล่นของฉัน
เวลาคนแกล้งฉัน อ้ายเหลือจะกัด
เวลาหมาอื่นมา มันจะขู่ไม่ให้หมาอื่นมาใกล้ฉัน
ฉันคิดว่า ถ้าเรารักหมา หมาก็รักเรา”
ดำจบข้อเขียนของเขาด้วยการแสดงความเป็นดำออกมา คือ “ถ้าเรารักหมา หมาก็รักเรา” อันเป็นบทสรุปที่มาจากความเรียง 3 บรรทัด ที่ดำฝึกฝนเขียนมาตั้งแต่เริ่มเรียนกับผม
“อ้ายเหลือ” เป็นความเรียงที่พอจะสรุปได้ว่า ถ้าเราหมั่นฝึกฝนเด็กคนหนึ่ง แม้เขาจะอ่อนแอทางภาษาในตอนแรก แต่การเอาใจใส่ คอยกระตุ้นแนวคิดด้วยการตั้งคำถาม ถาม ถาม และถามให้เราค้นหาคำตอบ จนกระทั่งเขาสามารถตั้งคำถามด้วยตนเอง ค้นหาคำตอบด้วยตนเองได้ และผู้สอนคอยนำคำใหม่สำหรับเขามาให้เขาเรียนรู้โดยการใช้วิธีการเขียนตาคำบอก ค้นหาคำตอบว่าเขียนถูก-ผิดจากพจนานุกรมด้วยตนเอง เขาก็จะสะสมคำเพิ่มขึ้น และนานไปภาษาของเขาก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น วันนี้กล้าพูดได้ว่า ดำมีภาษาไทยที่แข็งแรงขึ้นแล้ว กล้าสรุปได้ว่า ดำมีพัฒนาการทางภาษาไทยดีขึ้น เมื่อเทียบกับวันแรกเริ่มที่มาเรียนกับผม
ครับวันนี้ ดำเขียน เรื่องสั้นๆ ได้แล้ว
อ่านเป็นเล่มได้ที่นี่ครับ https://docs.google.com/docume...
สำหรับ ผู้ที่สนใจ จะพิมพ์ หรืออ่านแบบเต็มๆ สามารถ อ่านได้ ตาม link นี้ครับ https://sites.google.com/site/chatreesamran/hnangsux/-doc-15