คุณเห็นอย่างไร


เห็นแบบไหน เป็นตัวอะไร
       “เรื่องของความน่าเชื่อถือวันนี้ ความน่าเชื่อถือของระบบ ระบบกฎหมาย ระบบกระบวนการยุติธรรมต้องได้รับความน่าเชื่อถือ ถ้าเมื่อไหร่ระบบกระบวนการยุติธรรมของเราขาดความน่าเชื่อถือ อันนี้อันตรายมาก อันตรายมาก เมื่ออันตรายตรงนี้ ถือว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศจะหายไป”
       
        นี่คือประโยคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปพูดที่หอการค้าไทย-จีน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2549
       
        พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดราวกับว่า กระบวนการยุติธรรมในประเทศวันนี้เป็นปัญหาขาดความน่าเชื่อถือและมีอันตราย ถึงขนาดว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศจะหายไป
       
        ยังดีที่ นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกาออกมาเปิดเผยเฉลยให้ประชาชนทราบว่า
       
        “โดยภาพรวมกระบวนการยุติธรรมของบ้านเรายังถูกแทรกแซงจากอำนาจรัฐได้อยู่ในขั้นตอน แต่ในขั้นตอนของศาล จะพยายามไม่ให้อำนาจรัฐหรือฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซง ซึ่งศาลยุติธรรมก็พิถีพิถันในเรื่องนี้อยู่แล้ว”
       
        ทำให้รู้เลยว่าที่กระบวนการยุติธรรมวันนี้จะเป็นปัญหา ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะมีอำนาจรัฐและนักการเมืองเลวๆ มาพยายามแทรกแซงนี่เอง........การออกมาเปิดประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้เลขาธิการศาลฎีกาได้มีโอกาสประจานพฤติกรรมของนักการเมืองเลวๆ ให้ทราบโดยทั่วกัน
       
        เมื่อกระบวนการยุติธรรมไม่ได้มีปัญหาแล้ว ก็ต้องถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับไปว่า ใครมีปัญหาในสายตานักลงทุนในวันนี้ ? จนถึงขนาดไปบรรยายในสถานที่อย่างหอการค้าไทย-จีน ก็ยังมีคนออกมาตะโกนขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอีกแล้ว!!!!
       
        ใครที่เคยอ้างว่าคนในวงการพ่อค้าพึงพอใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น คงจะต้องพิจารณาให้ดีว่าจริงๆ แล้ว นักลงทุนเขามองตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และระบอบทักษิณ เป็นตัวอะไร?
       
        พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภา คืนวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 วันจันทร์ 27 กุมภาพันธ์ 2549 ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ ความเป็นสิริมงคลก็บังเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนอย่างทันท่วงที หุ้นขึ้นรับข่าวดี +11.30 จุด!!!!
       
        คืนวันที่ 4 เมษายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนเช้าวันที่ 5 เมษายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไปขนของเก็บกลับบ้าน ความเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดก็แผ่ซ่านไปทั่ว กระดานหุ้นขึ้นเป็นสีเขียวยกแผงรับข่าวดีวันเดียว +22.74 จุด !!!
       
        22 พฤษภาคม 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ามาทำงานเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง หุ้นตกวันเดียวกันนั้นถึง - 21.89 จุด!!!! นับเป็นข่าวร้ายและเป็นอัปมงคลแก่นักลงทุนอย่างถึงที่สุด หลายคนอดอุทานไม่ได้ว่า “วันนี้กูซวยจริงๆ!!!”
       
        วันที่ 24 กรกฎาคม 2549 หุ้นตกอยู่ประมาณ -1.95 จุด พอวันที่ 25 กรกฎาคม 2549 ศาลอาญาสั่งจำคุกคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยไม่ให้ประกันตัว หุ้นขึ้นวันเดียว +4.59 จุด
       
        ในหมู่นักลงทุน และนักเก็งกำไรเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนในระบอบทักษิณ เป็นตัวอะไร?.....โปรดพิจารณา!!!!

       
        เมื่อหลายปีก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยไปหาเสียงที่จังหวัดตรัง ไปร้านหมูย่างเจ้าหนึ่ง และไปสาธิตแสดงการสับหมูเอาเคล็ดต่อสื่อสารมวลชน
       
        หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา หมูย่างร้านนั้นก็ไม่มีใครไปซื้ออุดหนุน จนมีอันต้องเจ๊งและต้องปิดร้านไปนานแล้ว......เวรกรรมจริงๆ!!!!!
       
        หลายสัปดาห์ก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ต้องใช้ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยล้อมและป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ใครมาตะโกนขับไล่
       
        ปรากฏว่าในวันนั้น ร้านนั้นเลยไม่มีลูกค้าสามารถเข้าไปอุดหนุนได้....... น่าเห็นใจและน่าสงสารจริงๆ!!!!
       
        ในทางตรงกันข้าม “คุณพิมพา” และ “เจ๊ไก่” ขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ซอยละลายทรัพย์เพียงแค่ไปช่วยตะโกนขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกไปจากร้ายก๋วยเตี๋ยวในซอยได้สำเร็จ กิจการร้านค้าก็มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่งในบัดดล........น่ายินดีด้วยจริงๆ!!!!!
       
        เชียงใหม่ปีนี้น้ำท่วมอีกครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งไม่กี่ปีมานี้น้ำท่วมถี่ซ้ำซากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และนับตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศดูเหมือนจะมีเหตุเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเห็นหลายต่อหลายกรณี เอาเฉพาะตัวอย่างกรณีปี 2549 ที่ผ่านมา
       
        มีคนทุบท้าวมหาพรหม, อีกาบินชนกระจกตึก กกต., หลังคาพรรคไทยรักไทยหล่น, เสาต้นที่ 7 ทำเนียบรัฐบาล หักโค่นลงมาตรงกับศาลพระภูมิ, ลมพัดต้นไม้ใหญ่ในทำเนียบหักและถอนโคนระเนระนาด, ไฟไหม้ทำเนียบ, พายุฤดูร้อนถล่มเหนือและอีสาน, อุทกภัยทางภาคเหนือ, อีการ้องระงมต้อนรับคุณทักษิณเข้าทำเนียบหลังจากพักร้อน, พายุฝนและดินถล่มทั่วประเทศ ฯลฯ
       
        กรณีอุทกภัยล่าสุดที่เชียงใหม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาอ้างอย่างหน้าตาเฉยว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ “เพราะรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าแผนโครงการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ งบประมาณกว่า 200,000 ล้านบาทได้ เพราะมีวิกฤตการณ์ทางการเมือง จึงทำให้โครงการใหญ่ๆ ชะงักงัน และต้องรอหลังการเลือกตั้ง เพราะในขณะนี้ทำสิ่งใดได้ลำบาก”
       
        พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คิดว่าเงินเป็นตัวตั้งในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่กลับไปอนุมัติโครงการสร้างถนนหนทางในเชียงใหม่เต็มไปหมด
แม้กระทั่งโครงการในเชียงใหม่ที่ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ออกมาคัดค้านเพราะเป็นการเข้าไปบุกรุกเขตความมั่นคงในพื้นที่ทหาร ยังไม่นับการไร้ซึ่งมารยาทของรัฐบาลรักษาการดันไปเร่งรัดอนุมัติโครงการหาเสียงและอภิมหาโครงการต่างๆ ในภาวะที่รัฐบาลขาดดุลเงินสดอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว แล้วมาอ้างหน้าตาเฉยเลยว่าน้ำท่วมเป็นเพราะปัญหาการเมือง?
       
        ต่อให้มีเงินก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ปัญหาอุทกภัยได้ เพราะคนที่ใช้เงินต้องมีปัญญาในการแก้ไขอุทกภัยด้วยไม่ใช่ทำอย่างกันชุ่ยๆ ขอไปที หรือขอเพียงแค่ให้มี “โครงการ” เพื่อที่จะแปลงกันเป็น “โครงกิน” และ “โครงโกง?”
       
        ไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะยังสำนึกถึง กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 ได้หรือเปล่า ในกรณีประสิทธิภาพงบประมาณของรัฐบาลในโครงการที่มีชื่อว่า “ฝายแม้ว?”
       
        “ตอนนี้น้ำท่วมเชียงใหม่ นายกฯ เดือดร้อนมาก โกรธมาก ทำไมมีฝายแม้วแล้วทำไมน้ำยังท่วม ก็เพราะว่าฝายแม้วทำไม่ถูกต้อง ทำไม่ดี แล้วก็ปล่อยน้ำลงมาผิดทาง”
       
        อย่าว่าแต่ปัญหาอุทกภัยเลย แท้ที่จริงแล้วที่ประชาชนเขาต้องออกมาวุ่นวายขับไล่ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เพราะว่ายังไม่เคยแก้ปัญหาในข้อกล่าวหาความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การคอร์รัปชัน การหลบเลี่ยงภาษี การรวบอำนาจแทรกแซงองค์กรอิสระ การปิดกั้นสิทธิเสรีภาพขอสื่อสารมวลชน การปิดหูปิดตาประชาชน และการมีพฤติกรรมละเมิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การทำให้ประเทศชาติแตกแยก ละเมิดสิทธิมนุษยชนฯลฯ
       
        ตราบใดที่ปัญหาเหล่านี้ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ในวังวนการเมือง ประเทศชาติจะไม่มีวันสงบสุขอย่างแน่นอน!!!!
       
        เดี๋ยวนี้รัฐบาลรักษาการยังเหิมเกริมโยกย้ายข้าราชการในระดับสูง และใช้วิธีให้ไปปฏิบัติงานทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีพระบรมราชโองการ และล่าสุดถึงขนาดมีข่าวปรากฏว่า มีโผทหารเตรียมที่จะโยกย้าย พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคสาม ทหารผู้ที่ประกาศพร้อมเอาชีวิตเข้าแลกกับคนคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และพร้อมต่อสู้ด้วยชีวิตเพื่อไม่ให้คนมาทำลายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ไปอยู่ในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก” ที่ไม่สามารถกุมกำลังพลได้!!!!
       
        ทำอย่างนี้คนไทยจะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ใส่สายรัดข้อมือ “สีดำ” เป็นตัวอะไร?

       
        จะมีใครในประเทศนี้ที่เดินไปที่ไหนก็จะมีแต่ประชาชนที่ความขัดแย้งอย่างรุนแรง ย่างกรายไปที่ไหนก็มีแต่ความวุ่นวายไม่เว้นแม้แต่สถานที่ประทับรักษาพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปบริหารที่ใดก็มีแต่ความแตกแยกในวงการข้าราชการ และทหาร ปกครองจนเกิดมีความแตกแยกทางศาสนาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
       
        ไม่รู้ว่าจะให้เรียกว่าตัวอะไรดี? แต่ถ้าใครทำได้ขนาดนี้เดินผ่านไปที่ใด ก็ขอแนะนำให้ทำบุญสวดมนต์ครั้งใหญ่ ใช้ “ใบหนาด” ชุบน้ำมนต์ปัดรังควาญความโชคร้ายทั้งปวง ป้องกันเอาไว้ก่อนก็คงจะดี!!!!
คำสำคัญ (Tags): #คำตอบ
หมายเลขบันทึก: 47378เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2006 13:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท