ปิดทองหลังพระ บุญช่วย มีจิต
“ สำนวนไทยว่า ปิดทองหลังพระ” ก็มีความหมายตรงตัว คือ ทำอะไรลับหลัง ทำโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำโดยไม่มีใครบังคับ ทำโดยความอยากทำ และยังหมายถึงการทำความดีที่ไม่มีใครรู้จัก
หลังจากได้อ่าน ” ลูกมหาจุฬาฯ” ซึ่งเขียนโดยท่านอาจารย์แสวง อุดมศรี ผู้ปราชญ์เปรื่องเรื่องข้อมูลและหลักฐานอ้างอิงแน่นแฟ้น เพราะท่านเคยทำหน้าที่ประธานผู้ชำระพระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาฯ ใหญ่โต้โก้หยอกซะเมื่อไหร่ อ่านแล้วก็รู้สึกจับใจในบางประโยค “ .........” ร้อนอกร้อนใจจนต้องเขียน” ปิดทองหลังพระ” นี้ออกมา ซึ่งเป็นการรวบรวมเอาผลงานเก่า ๆ เท่าที่หาได้บ้าง เขียนขึ้นมาใหม่บ้าง
กรุณาอย่าได้นำข้อเขียนของผมไปเทียบกับของท่านเลย มันกระดูกคนละเบอร์( ) ท่านมันทีมสโมสรระดับโลก ผมมันบอลนักเรียนหัดเล่น
แต่ที่บังอาจกล้าหาญเขียนออกมาก็เพราะแรงยุของท่าน(............) ผมก็ถือว่าเป็นลูกมหาจุฬาฯคนหนึ่งเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นลูกที่อกตัญญูไปสักหน่อย เพราะไม่ได้ใช้หนี้หรือตอบแทนบุญคุณของมหาจุฬาฯที่ให้ชีวิตมาทั้งชีวิต ถึงกระนั้นก็ตามผมก็ภูมิใจและระลึกอยู่เสมอว่า ตัวเองเป็นลูกมหาจุฬาฯมาโดยตลอด ไม่เคยปิดบังสถานะตัวเอง เปิดเผยเวลาลงประวัติการศึกษาก็เขียนลงใน กพ.7 ว่า นธ.เอก,ปธ.6,พ.ม.,พธ.บ.กศ.บ. ทั้ง ๆ ขณะนั้นรัฐยังไม่รับรองสถานะและวุฒิ พธ.บ.ก็ตาม จนผู้บังคับบัญชาทักท้วง แต่ก็ไม่ยอมเอาออก อันบ่งบอกว่ามีความรัก ผูกพันและมั่นใจในความเป็นลูกมหาจุฬาฯเพียงใด
ที่เขียนเรื่องนี้ออกมาไม่ใช่เพื่อตอบโต้ ขัดแย้ง ลอกเลียน ล้อเลียน หรือสวมรอย(เกาะกระแส) หรืออาศัยบารมีของท่านอาจารย์แสวง อุดมศรี หามิได้ แต่เพราะกลัวว่าความคิดอย่างนี้จะละลายหายไปกับสังขารและกาลเวลา และอยากให้บรรณโลกได้บันทึกไว้ว่า ผมก็ได้ต่อสู้เพื่อมหาจุฬาฯมาโดยลำพัง ต่อสู้คนเดียว เอกจโร มาโดยตลอด ในต่างกรรมต่างวาระแล้วแต่โอกาสจะอำนวย
ผมได้มีความคับแค้นใจมาตั้งแต่ต้นแล้ว ที่รัฐบาลไม่รับรองวิทยฐานะของมหาจุฬาฯสักที จะรู้สึกเฮิร์ตตลอดเวลาถ้ามีใครแสดงความตำหนิ ติติงในเรื่องนี้ จนถึงการเข้าร่วมชุมนุมกับยุวสงฆ์และแสดงออกทางสื่อต่าง ๆ ก็เพราะ “ เสียความรู้สึก” นี่แหละ
แต่เนื่องจากผมเป็นคน “ใจไม่ถึง” และ “ ไม่มีบารมี” เพียงพอเหมือนท่าน จึงเคลื่อนไหวได้ในวงจำกัด ปิดทองหลังพระมาโดยตลอด ไม่อาจจะประเมินได้หรอกว่า ผลงานบางส่วนจะมีผลต่อการรับรองวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยสงฆ์หรือไม่ แต่ผมต่อสู้มาในแนวทางเดียวกัน และเกิดจากภายใน ไม่มีใบสั่ง ไม่การใครชักไย ไม่มีใครให้ทุนใด ๆ ทั้งสิ้น คือ ทำลงไปด้วยตัวคนเดียว จึงทำให้รู้สึกว่าตัวเอง
“ ปิดทองหลังพระ” มาโดยตลอด
ไม่มีความเห็น