กรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูลทางสื่อโทรทัศน์ไทย ที่มีช่อง 3 5 7 9 11 ITV ซึ่งมีคนดูเยอะแยะ แต่ทำไมฟรีทีวีผ่านดาวเทียมอย่าง ASTV จึงทำให้หลายคนมีทัศนคติที่เปลี่ยนไป หลายคนต้องฟังข้อมูลจากสื่อแห่งนี้ และมีจำนวนผู้ชมที่รับข้อมูลจาก ASTV เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ถูกความพยายามในการปิดกั้นอยู่บ่อยๆ แล้ว ASTV มีเวทย์มนต์อะไรที่ทำให้หลายคนเชื่อถือข้อมูลที่ถูกนำมาเสนอ เพิ่มมากขึ้น
มีบางคนบอกว่า ASTV ทำข่าวให้คนฉลาดขึ้น บางคนบอกว่าก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากกว่า
ที่เขียนอยู่นี่ ไม่ได้มาเชียร์ให้ต้องไปดู ASTV แต่อยากให้ทีวีช่องต่างๆ นำเสนอข้อมูลเพื่อทำให้ผู้ชมเกิดความรู้ ตัดสินใจด้วยตัวเอง คิดวิเคราะห์สังเคราะห์ข่าวสารได้เอง
ASTV ช่อง News1 สถานี ข่าว 24 ชั่วโมง เกาะประเด็นเรื่องการเมืองเป็นหลัก ดูผังรายการที่ออกอากาศ ระยะเวลาการนำเสนอ รูปแบบการนำเสนอข้อมูลแล้ว เต็มอิ่มจริงๆ
ในช่วงวันจันทร์ – ศุกร์ตั้งแต่ 6.00-8.00 น. รายการริมเช้าเจ้าพระยา 8.00 -10.00 น. สภาท่าพระอาทิตย์ 15.00-16.30 น. News Hour ชั่วโมง แห่งการวิเคราะห์ข่าว , 12.00-13.30, 18.00-19.30 น. รอบวันทันเหตุการณ์ 19.30-21.00 น. รู้ทันประเทศไทย กับ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 21.00-22.30 น. รายการคนในข่าว 22.30-23.30 น. คลุกวงในข่าว ส่วนวันศุกร์ มีรายการดัง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร 17.00-21.30 น.
โดยเฉลี่ยมีรายการเชิงวิเคราะห์ข่าวเกิน 8 ชั่วโมง / วัน และละเนื้อหาโดยเฉพาะประเด็นการเมืองจะมีการสัมภาษณ์ความคิดเห็นของบุคคล ต่างๆทางโทรศัพท์ อาจจะนานถึงครึ่งชั่วโมงบ้าง ทำให้ได้เนื้อหาเชิงลึกและมุมมองที่หลากหลาย มีการหยิบยกคำพูดของบุคคลที่เป็นข่าวมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ ให้ผู้ชมที่ติดตามดู + ฟัง ใช้ประกอบการตัดสินใจว่า จะเชื่อถือหรือไม่
มีการนำเสนอข้อมูล เอกสารหลักฐาน การเปรียบเทียบเบื้องหน้า เบื้องหลังในเชิงสืบสาวหาความจริง การสังเกตสิ่งที่ผิดปกติ และนำมาเสนอให้เห็นถึงกระบวนการ ขั้นตอน ความเป็นไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ความจริงแล้ว ฟรีทีวีช่อง 3 5 7 9 11 ITV สามารถนำเสนอข่าวสารในเชิงวิเคราะห์เจาะลึกได้ดีกว่า ASTV หลายเท่า เพราะมีเครื่องมือ ทุน บุคลากร และเครือข่ายการรับชมเข้าถึงผู้ชมทางบ้านมากกว่า แต่กลับไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร
ถ้าสื่อฝ่ายรัฐ นำเสนอข้อมูลในทิศทางข่าวของฝ่ายรัฐอย่างเจาะลึกบ้าง ผู้ชมจะได้เปิดรับข้อมูล เปรียบเทียบและตัดสินใจเชื่อถือข้อมูลที่ได้รับจากการสังเคราะห์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเชื่อถือข้อมูลข่าวสาร เท่าที่ได้รับรู้ในบางด้านเท่านั้น โดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
เหมือนการอ่านหนังสือ การติดตามข้อมูลความรู้ในประเด็นที่น่าสนใจ ยิ่งอ่านมากเท่าไร ยิ่งแตกฉาน รู้ลึกและสร้างองค์ความรู้ คิด วิเคราะห์ด้วยตัวเองได้มากขึ้น
ไม่ ใช่เป็นการเลือกรับสื่อที่ชอบ ปิดรับสื่อของฝ่ายตรงข้ามเหมือนกับหลายคนในเวลานี้ ซึ่งทำให้เกิดความแตกแยก และความไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ