ในวันแม่ปีนี้ได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยการเข้าร่วมปลูกป่าชายเลน “ โครงการชวนน้องมาปลูกป่า” ซึ่งจ๊ะจ๋าได้รับการชักชวนจากโครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม มูลนิธิกองทุนไทย การปลูกป่าครั้งนี้เกิดความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่าย คือ โครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม มูลนิธิกองทุนไทย สถานตากอากาศบางปู กรมพลาธิการ และเทศบาลตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ และ สถานศึกษา ( 3 โรงเรียนคือ โรงเรียนประสานมิตร จ. ปทุมธานี, โรงเรียนสองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี และโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ กรุงเทพฯ) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครองราช 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และครบรอบ 73 พรรษา ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับเด็กและเยาวชนเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ได้นัดกันรวมพลในเวลาเที่ยง โดยมีทั้งนักเรียน และทีมงานโครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม จำนวน 7 ชีวิตและเจ้าหน้าที่สถานตากอากาศบางปู กรมพลาธิการ ที่มาช่วยบรรยายความเป็นมา แนะนำสถานตากอากาศบางปู และสาธิตวิธีการปลูกต้นไม้ ซึ่งคือ ต้นโกงกางต้นเล็กนั่นเอง ครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานตากอากาศบางปู โดยเตรียมต้นกล้าไว้ 300 ต้น
และเมื่อบรรยายเสร็จปุ๊บ...ทุกคนก็รู้สึกคันไม้คันมือเป็นอย่างมาก อยากจะปลูกต้นไม้กันโดยเร็ว...แต่ช้าก่อน ...ทีมงานก็สอบถามความเข้าใจและที่สำคัญ เจอคำถามเด็ดๆ ว่า...ปลูกต้นไม้ด้วยใจทำยังไง เพราะว่าเจ้าต้นโกงกางอยู่ในชายเลน...และน้ำขึ้นน้ำลงตลอดเวลา ดังนั้นไม่ต้องรดน้ำ ..ไม่รอช้า...เด็กคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนจากโรงเรียนประสานมิตร ตอบว่า “ก็การที่เราช่วยกันเอาต้นกล้าออกจากถุงดำ...ช่วยกันขุดดิน และช่วยกันวางต้นกล้า...เราต้องสามัคคีกันและรดน้ำด้วยใจด้วยการตั้งใจปลูกให้ต้นโกงกางมันอยู่รอดไงครับ”แหม...ฟังแล้วชื่นใจ กับความไร้เดียงสาและแฝงด้วยแง่คิดดี ที่ผู้ใหญ่อย่างเราไม่ควรมองข้าม
ได้เวลา 13.00 น. สำหรับการปลูกป่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ทีมงานให้เวลาในการปลูกป่าโกงกาง 2 ชั่วโมง ซึ่งน้องทุกคนตั้งอกตั้งใจในการปลูกป่ากันมาก น้องๆ จากโรงเรียนประสานมิตร มีจำนวน 10 คน และเป็นเด็กเล็กตั้งแต่ ป.3-ป.6 สำหรับเด็กอีก 2 โรงเรียนเป็นเด็กโต ตั้งแต่ ม.1-ม.6 และจ๊ะจ๋าก็ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและดูแลอำนวยความสะดวกให้น้อง และได้ช่วยน้องหลายคนในการปลูกต้นกล้า...ต้องขอบอกว่าวันนั้นแดดแรงมากแต่ทุกคนไม่ย่อท้อ และขอปรบมือให้กับน้องตัวเล็กที่ใจสู้มาก แดดร้อนยังไงไม่บ่นกันซักคำ ...และด้วยความขยันของน้องคนหนึ่งจากโรงเรียนประสานมิตร จ๊ะจ๋าก็เข้าไปช่วยปลูกและพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ น้องเท่ห์ และซักถามน้องเท่ห์ว่าทำไมถึงสนใจมาเข้าร่วมการปลุกป่าครั้งนี้ น้องเท่ห์ตอบด้วยความมั่นใจว่า อยากมาปลูกป่า เพราะน่าสนใจและไม่เคยมาที่บางปู และได้เล่าให้จ๊ะจ๋าฟังต่ออีกว่า ก่อนที่จะได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ต้องผ่านการเขียนเรียงความที่แสดงถึงความตั้งใจส่งให้กับครูประจำชั้น เพื่อทดสอบความสมัครใจว่าต้องการมาปลูกป่าจริงหรือไม่ และต้องขออนุญาตผู้ปกครองด้วย...แหมเห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง.....
สังเกตได้จากการมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เด็กได้รับความสนุกสนานจาการเรียนรู้นอกห้องเรียน การได้ปลูกต้นไม้ การเก็บขยะ การได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องป่าชายเลนเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อสัตว์น้ำนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นพวกกุ้ง หอย ปู และปลา วงจรชีวิตของสัตว์น้ำเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์กับป่าชายเลนอย่างมาก ทั้งในด้านเป็นที่อยู่อาศัย แหล่งเพาะพันธุ์ และการเจริญเติบโต ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน จะเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์น้ำกับป่าชายเลนนั้นมีมากมาย การปลูกฝังให้เด็กรักสิ่งแวดล้อม ความอดทน ความรู้นอกห้องเรียน การได้ปฏิบัติจริง เรียนรู้จากการปฏิบัติ และสร้างเสริมประสบการณ์ต่างๆ และบางครอบครัวให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้มาก โดยร่วมกิจกรรมทั้งครอบครัว โดยพ่อ แม่ ลูก ช่วยกันปลูกป่า เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้กับครอบครัว เป็นกิจกรรมที่ทุกคนมีส่วนร่วม สร้างความผูกพัน สร้างความรัก ความอบอุ่นโดยไม่รู้ตัวก่อให้เกิดความเข้มแข็งของครอบครัวที่เกิดจากความรัก ความเข้าใจซึ่งกันและกันเด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวที่บริสุทธิ์ และเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า การที่เด็กเรียนรู้นอกห้องเรียน จากการปฏิบัตินับว่าเป็นการให้ความสำคัญในการพัฒนาการที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
เผยโฉมทีมงานคะ
ต้นนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของน้องๆ คะ ...ปลูกได้สวยงามมาก
แถวบางปูไม่เห็นลิงนะคะ แต่ให้เห็นบรรยากาศว่ามีลิงแถวป่าชายเลนด้วยนะ...
ต้นไม้ปลูกได้ที่ใจใช่ปะ |