ปัญญา (Wisdom) กับความรู้ (Knowledge) ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ปัญญาเป็นเรื่องของจิตใจ ในขณะที่ความรู้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมอง วันนี้จะมีคำอีกสองคำมาเกี่ยวข้อง คือคำว่า Information และ Data โดยจะเรียก Information เป็นภาษาไทยว่า “สารสนเทศ” และเรียก Data ว่า “ข้อมูล”
ผู้ที่อยู่ในแวดวงคอมพิวเตอร์จะเข้าใจความแตกต่างระหว่างคำว่า ข้อมูล และสารสนเทศดีอยู่แล้ว เพราะโดยทั่วไปจะใช้คำว่า ข้อมูลในกรณีที่เป็นข้อมูลดิบ (Raw Data) และใช้คำว่าสารสนเทศในกรณีที่ข้อมูลได้ผ่านกระบวนการ (Process) บางอย่างจนออกมาในรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ (Decision-making) ได้ในกรณีความรู้ก็เช่นกัน ได้มีคำอธิบายในทำนองที่ว่าหากเรามีความเข้าใจสารสนเทศจนถึงระดับที่สามารถวิเคราะห์ และสังเคราะห์ได้ คือมีความเข้าใจ (Understanding) ในองค์ประกอบต่างๆ จนอาจสร้างเป็นทฤษฎี หรือเป็นแบบจำลองทางความคิดได้ สิ่งนั้นก็คือความรู้ หรือ Knowledge นั่นเอง มาถึงจุดนี้เราคงพอเห็นความสัมพันธ์ระหว่างคำ 3 คำ คือ ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ ในลักษณะที่ต่อเนื่องกันเป็นสายได้ดังนี้
ข้อมูล- สารสนเทศ- ความรู้
ประเด็นที่หลงเหลืออยู่คงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำว่าปัญญา และคำถามที่ตามมาก็คือ ปัญญา เป็นสิ่งอันเกี่ยวเนื่องมาจากความรู้ใช่หรือไม่? ก่อนจะตอบคำถามนี้ขอหยิบยกคำประพันธ์ที่ชื่อ The Rock ซึ่งแต่งโดย T.S. Eliot (1934) มีใจความว่า
- Where is the life we have lost in living?
- Where is the wisdom we have lost in knowledge?
- Where is the knowledge we have lost in information?
ซึ่งอาจจะแปล (แบบไม่ใช่คำต่อคำ) โดยมุ่งเน้นที่ความหมายในทำนองที่ว่า :
- เรามักจะยุ่งอยู่กับสารสนเทศ ……จนไม่ได้ใส่ใจใน “ความรู้”
- เรามักจะจมอยู่กับความรู้…….จนไม่ได้เห็นซึ้งซึ่ง “ปัญญา”
- เรามักจะบ้าอยู่กับการดำเนินชีวิต……จนไม่ได้สัมผัสกับ “ชีวิต” ที่แท้จริง
สาระสำคัญของบทประพันธ์นี้เป็นการชี้ให้เราเห็นว่าคนที่จะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิตได้นั้น จะต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยปัญญา และปัญญาจะเกิดขึ้นไม่ได้หากเรามัวยึดติดอยู่แค่ความรู้ และความรู้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นหากเรามั่วแต่ยุ่งอยู่เฉพาะเรื่องสารสนเทศจากตัวอย่างหลายๆตัวอย่างที่ผ่านมา คงเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่าผู้ที่มีความรู้สูงไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาเสมอไป ความรู้นั้นเป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มพูนได้จากการอ่านตำหรับตำรา และการที่ปัญญาจะเกิดได้นั้นจะต้องมาจากการอ่านจิตใจ อ่านอารมณ์ จนตามทันความรู้สึกของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการมองเข้าข้างในแน่นอนที่สุดเรื่อง ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการทำงานและการดำเนินชีวิต แต่หากเราปล่อยชีวิตให้ดำเนินไปโดยปราศจากการมองเข้าข้างในเพื่อความเข้าใจในความหมายที่แท้จริงของชีวิต วันหนึ่งเราอาจจะรู้สึกเสียใจที่ได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเพียงแค่เรื่องของ ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้เท่านั้น ข้าพเจ้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนควรจะต้องมุ่งแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า “ปัญญา” เป็นการแสวงหาที่ไม่ต้องรอเรื่องการปฏิรูปการศึกษา ปัญญาเป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลสามารถพัฒนาและสามารถเริ่มต้นได้ทันที เรามาเริ่มกันตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยดีไหม?
เครดิต : ดร.ประพนธ์
ได้ประโยชน์มากเลยค่ะ อ่านแล้วพอมามองตัวเองแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ยึดติดกับสารสนเทศมากเลยนะเนี่ย
ก้อจิงนะส่วนมาก เรามักจะยุ่งอยู่กับสารสนเทศ ……จนไม่ได้ใส่ใจใน “ความรู้”
เรามักจะจมอยู่กับความรู้…….จนไม่ได้เห็นซึ้งซึ่ง “ปัญญา” คิดด้ายเลยว่าเห็นด้วย เพราะอย่างน้อย เราคนหนึ่งอ่ะที่สนจัยแต่สารสนเทศ
อ่านแล้วให้ความรู้ดีนะ เพราะบ้างทีคนยังไม่รู้จักเลยว่า สารสนเทศกับความรู้แตกต่างกัลไง อิอิ
เมธาวีคะ ก่อนอื่นครูต้องขอชมเชยหนูก่อนว่ามีจรรยาบรรณทางวิชาชีพสารสนเทศดีมากทั้งๆ ที่ครูหลงลืมที่จะสอนประเด็นนี้ คือ หนูได้ให้เครดิตบุคคลที่หนูนำความรู้นั้นมา (ดร.ประพนธ์) ครูภูมิใจในตัวหนูนะคะ การเลือกงานเขียนที่ดีจะเห็นว่ามีเพื่อนๆ ให้ความสนใจมากด้วย แต่ครูให้หนู *** นะคะ เนื่องจากหนูน่าจะเขียนประสบการณ์ในชีวิตของหนูผ่านมุมมองดังกล่าวเพิ่มเติมจากงานเขียนของ อ.ประพนธ์ด้วยนะคะ (เป็นการดึงความรู้หรือประสบการณ์ที่อยู่ในตัวหนูออกมาด้วยไงคะ)
Aj.Joy Ka