“ครูช่วย ครูช่วย” คุณครูก็สอนให้ น้องตูนตักพริกเกลือใส่ถุงเล็ก แล้วม้วนปากถุงแทนการใช้ยางรัด น้องตูนพยายามทำอยู่หลายครั้ง ได้บ้างไม่ได้บ้าง จนในที่สุดก็พูดขึ้นพร้อมกับทำท่าประกอบ (ซึ่งจะรู้กันในหมู่ของคุณครูที่ น้องตูนสนิทด้วย) ว่าทำไมครูไม่ใช้แม็คเย็บ แทนการใช้ม้วนปากถุง ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่า น้องตูนเกิดการเรียนรู้และรู้จักเปรียบเทียบวิธีการต่างๆได้
น้องตูนเป็นเด็กพิเศษที่มีความบกพร่องทางปัญญา อายุ 15 ปี วันแรกที่น้องตูนมาโรงเรียน น้องตูนจะคอยหลบอยู่หลังคุณแม่ ไม่ยอมสบตาและพูดจากับใคร ถ้าใครเข้าใกล้ก็จะไล่ “ไปไป”ตลอด น้องตูนยังไม่สามารถเข้าไปเรียนรวมกับนักเรียนปกติได้ น้องตูนต้องอยู่ในห้องเรียนร่วม ซึ่งน้องตูนก็จะทำตัวเป็นนางอายซุกตัวอยู่แต่ในมุมห้องเรียนร่วม เล่นคนเดียว คุณครูต้องใช้เวลาอยู่หลายอาทิตย์ จนน้องตูนเริ่มคุ้นเคยและไว้วางใจ เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคุณครูและเพื่อนๆ เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปีการศึกษา น้องตูนสามารถสื่อสารกับคุณครูและเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดีในเทอมนี้คุณครูได้มีกิจกรรมการจำหน่ายสินค้า คือ ขายผลไม้และลูกชิ้นทอด น้องตูนมี ความสนใจมาก และมายืนเมียงมองอยู่หลายวัน แล้วบอกว่า “ครูช่วย ครูช่วย” คุณครูก็สอนให้ น้องตูนตักพริกเกลือใส่ถุงเล็ก แล้วม้วนปากถุงแทนการใช้ยางรัด น้องตูนพยายามทำอยู่หลายครั้ง ได้บ้างไม่ได้บ้าง จนในที่สุดก็พูดขึ้นพร้อมกับทำท่าประกอบ (ซึ่งจะรู้กันในหมู่ของคุณครูที่ น้องตูนสนิทด้วย) ว่าทำไมครูไม่ใช้แม็คเย็บ แทนการใช้ม้วนปากถุง ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่า น้องตูนเกิดการเรียนรู้และรู้จักเปรียบเทียบวิธีการต่างๆได้ นอกจากใส่พริกเกลือแล้ว น้องตูนยังสามารถเสียบลูกชิ้นได้ ตอนแรกก็เสียบตามใจชอบ 2 ลูกบ้าง 3 ลูกบ้าง แต่ตอนนี้ น้องตูนสามารถ เสียบลูกชิ้นได้อย่างถูกต้องและจะมาทำหน้าที่ด้วยความสุขทุกๆ วัน เมื่อทำเสร็จก็จะเรียก “ครู ครู” แล้วชี้ให้ดูผลงานของตัวเอง เหมือนจะบอกว่า “ครูหนูทำได้” แต่สิ่งที่ทำให้ครูรู้มากกว่านั้นคือ ถึงน้องตูนจะมีความบกพร่องทางปัญญา แต่เธอสามารถที่จะเรียนรู้ถึงการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขได้ ถ้าได้รับการอบรม ส่งเสริม อย่างถูกวิธี และได้รับความรักจากคนรอบข้าง เด็กพิเศษเหล่านี้ก็จะไม่กลายเป็นภาระของสังคมอย่างแน่นอน
เรื่องเล่าของ ครูสุภาพร ชูเตชะ