ธรรมะจากสวนสันติธรรม
ดิฉันไปเยี่ยมพระลูกชายที่สวนสันติธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ฝากเตือนและยกนิทานมาสอนว่า ผู้บริหารเวลาโกรธอย่าเพิ่งตัดสินคดีเพราะจะทำให้เราใจไม่เป็นกลางและตัดสินผิด ทำให้มีโอกาสสร้างความเสียหายต่อองค์กรได้ ดิฉันเคยตัดสินใจหลายอย่างซึ่งมีผลกระทบต่อผู้อื่น คงต้องนำมาเป็นข้อคิดเล็กๆจากการไปวัดที่ท่านเน้นการกำหนดรู้ในการทำงานในชีวิตประจำวันค่ะ ส่วนรู้อย่างไรลองไปอ่าน Beyond KM.gotoknow.org ของอาจารย์ประพนธ์ ผาสุขยืดค่ะ
ในวันนั้นดิฉันเห็นผู้สูงอายุผู้หญิงท่านหนึ่งถามหลวงพ่อปราโมทย์ ดิฉันออกมานั้งคอยเพื่อรอทานอาหารหลังจากพระฉัน?เสร็จ ผู้หญิงคนนั้นมองดิฉันหลายครั้งและถามว่าชื่ออัจฉราใช่ไหม ดิฉันตอบว่าใช่ หลังจากซักประวัติปรากฎว่าเป็นเพื่อนนักเรียนแพทย์ที่เราไม่ค่อยได้พบกัน ก็โชคดีที่มีโอกาสเจอเพื่อนเก่าๆในวัดค่ะ แต่คงชรามากทั้งคู่ทำให้จำกันไม่ค่อยได้
ความเห็น (2)
วิธีปฐมพยาบาลความโกรธ 9 ประการ
- รีบออกมาจากสภาพแวดล้อมที่ทำให้โกรธ
- งดการติดต่อ การเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ จนกว่าจะหายโกรธ
- อย่าคะนองกาย โดยการทุบตีทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น สิ่งของ ซึ่งเป็นต้นตอของความโกรธ
- อย่าคะนองวาจา โดยการโวยวาย ใช้ถ้อยคำหยาบคาย หรือโดยอ้อม เพราะจะเป็นการกระตุ้นไฟแห่งความโกรธให้ลุกโชน
- อย่าคะนองใจ โดยนึกหาวิธีการท้าทายคนที่ตนโกรธ หรือรีบตัดสินใจทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะที่กำลังถูกความโกรธครอบงำ
- อย่าเข้าใกล้คนโง่หรือคนประเภท "นายว่าขี้ข้าพลอย" เป็นอันขาดเพราะคนประเภทนี้เป็นที่ปรึกษาที่ดีไม่ได้
- เตือนตนเองตามหลักที่พระพุทธองค์ตรัสว่า "จงเตือนตนด้วยตนเอง"
- ควรพาตัวเองไปในที่ที่ผ่อนคลาย สวดมนต์ ฟังเทปธรรมะ หรือไม่ก็เปิดเพลงบรรเลงเบาๆฟัง
- อย่าดันทุรังพาตัวเองนั่งสมาธิทั้งๆที่กำลังโกรธอย่างแรง เพราะยิ่งนั่งสมาธิจะยิ่งเครียดจัด เพราะว่าในสภาพอารมณ์ที่ไม่ปกตินั้นถึงพยายามนั่งสมาธิก็ยากที่จะทำให้ใจสงบนิ่งได้
คัดลอกจาก : ธรรมะหลับสบาย โดย ว.วชิรเมธี
เวลาโกรธจะพยายามหัวเราะให้มาก ๆ แทนและจะเตือนตนเองเสมอค่ะ ว่า...
โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า
ไม่อยากเป็นคนโง่และเป็นคนบ้าจึงระงับความโกรธได้บ่อย ๆ ค่ะ