Facts Problems Hypotheses:H
๑ เห็นนายแดงเข้านอน ๑ ทำไมเขาเข้านอน ๑ เขาอ่อนเพลียมาก
แต่หัวค่ำ หัวค่ำ ? จึงนอนหัวค่ำ
๒ เห็นถนนเปียก ๒ ทำไมถนนจึงเปียก ๒ เมื่อคืนฝนตกหนัก
ฯลฯ
จะเห็นว่า (๑) เหตุการณ์ข้างบนนี้เป็นเหตุการณ์ที่เราพบในชีวิตประจำวัน (๒) เหตุการณ์จะเรียงลำดับการเกิดจาก ข้อเท็จจริง - ปัญหา - สมมุติฐาน (๓) สมมุติฐานมีลักษณะเป็นคำตอบล่วงหน้าของปัญหา (๔) สมมุติฐานจึงต้องได้รับการการทดสอบว่าจริงหรือเท็จ (๕) สมมุติฐานจึงต้องตามหลังปัญหาที่มันตอบเสมอ
ปัญหาข้างบนนี้เป็นปัญหาของคนทั่วไป ถ้าเป็นปัญหาและสมมุติฐานการวิจัยจะต้องซับซ้อนกว่านี้มาก(โปรดดูบล็อกก่อนๆที่ว่าด้วยปัญหาการวิจัย)
การวิจัยที่มีแต่สมมุติฐานขึ้นมาเฉยๆโดยไม่มีปัญหารการวิจัย จึงเป็นสิ่งที่แปลก !
ในขั้นตอนการวิจัยโดยทั่วไปจะมีว่า ขั้นที่ ๑ สังเกตและเกิดปัญหา ขั้นที่ ๒ ตั้งสมมุติฐาน ขั้นที่ ๓ รวบรวมข้อมูลเพื่อทดสอบสมมุติฐาน ขั้นที่ ๔ วิเคราะห์ข้อมูล ขั้นที่ ๕ ตีความผลการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล(ได้ความรู้ใหม่) การสังเกตุข้อเท็จจริง + การเกิดปัญหา + การตั้งสมมุติฐานตามตารางข้างบนนี้ จึงรวมอยู่ในขั้นที่ ๑ และขั้นที่ ๒ ของกระบวนการวิจัย
แต่ถ้าดูในรายงานผลการวิจัย ก็จะพบว่า การสังเกต + การเกิดปัญหา + สมมุติฐาน ในตารางข้างบนนี้ จะรวมไว้ในบทที่ ๑ ที่มักจะชื่อว่า "บทนำ"
ถ้าเราใส่สมมุติฐานไว้ผิดที่ ผิดตำแห่งของมัน ก็จะไม่สมเหตุสมผล
ถ้าเป็นการวิจัยเพื่อขอรับปริญญาเพราะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรแล้ว จะ Defend ยาก ความเก่งกาจของของผู้จบ หรือผู้ให้ปริญญา จึงดูได้จากวิทยานิพนธ์ ผู้สอบ และกระบวนการสอบ เป็นสำคัญ หาใช่ดูจากความกว้างใหญ่ของสถาบันไม่
ไม่มีความเห็น