ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จึงหมายถึง คอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สามารถ นำไปใช้ในกการสอนแล้ว ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ และผู้เรียนมีความพึงพอใจ
การหาประสิทธิภาพ ก็หมายถึงการหาคุณภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยไปวัดจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง เมื่อได้เรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจบบทเรียนแล้ว เช่น จะใช้เกณฑ์ 80/80 โดย
80 ตัวแรก คือ ค่าคะแนนเฉลี่ยของจำนวนคำตอบที่กลุ่มตัวอย่างตอบถูกต้อง จากการทำแบบฝึกหัดคิดเป็นร้อยละ 80
80 ตัวหลัง คือ ค่าคะแนนเฉลี่ยของจำนวนคำตอบที่กลุ่มตัวอย่างตอบถูกต้อง จากการทำแบบฝึกหัดคิดเป็นร้อยละ 80
แบบฝึกหัด หมายถึง ข้อสอบที่ให้กลุ่มตัวอย่างทำหลังจากเรียนจบ ในแต่ละบทเรียนเพื่อประเมินผลความก้าวหน้าทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ข้อสอบที่ให้นักศึกษาทำภายหลังจากเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจบแล้ว
และวิธีการสร้าง เพื่อสะดวกในการวางแผน การทำงาน และการตรวจสอบ มีขั้นตอนดังนี้
1. ศึกษาหลักสูตรและผู้เรียนเป้าหมาย เพื่อที่จะได้ทราบรายละเอียดของเนื้อหาวิชา พื้นความรู้และความพร้อม
ของผู้เรียน เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนและประกอบการสร้างบทเรียน
2. กำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม หรือสิ่งที่คาดหวังของหลักสูตร เพื่อเป็นกำหนดรูปแบบและ
ลักษณะของการนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรม
3. วิเคราะห์เนื้อหา จัดทำแผนภูมิข่ายงานให้มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน แสดงลำดับก่อน หลัง ของหัวเรื่องต่าง ๆ
อย่างสมบูรณ์
4. จัดแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ
5. สร้างข้อความในแต่ละกรอบเนื้อหาวิชาที่กำหนดไว้
ข้อความของกรอบควรสัมพันธ์กับเนื้อหาและหน้าที่ของแต่ละกรอบ ซึ่งจะประกอบด้วยกรอบต่าง ๆ 4 กรอบ ดังนี้
5.1 กรอบหลัก (Set frame) เป็นกรอบที่จะให้ข้อมูล โดยที่ผู้เรียนสามารถจะเรียนรู้ในเรื่องที่ไม่เคยเรียนมาก่อน
5.2 กรอบฝึกหัด (Practice frame ) เป็นกรอบที่จะให้ผู้เรียนได้ฝึกหัดข้อมูลที่ได้จากกรอบหลัก
5.3 กรอบรองส่งท้าย (Sub-terminal frame ) เป็นกรอบที่เขียนเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด หรือตอบผิดต่าง ๆ
ซึ่งอาจข้ามกรอบนี้ไป ถ้าผู้เรียนตอบถูก
5.4 กรอบส่งท้าย (Terminal frame ) เป็นกรอบทดสอบโดยผู้เรียนจะนำความรู้ในกรอบหลักมาตอบ
6. เข้ารหัสตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ซึ่งต้องแปลงรหัสตามโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ใช้
7. ป้อนบทเรียนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลา และทักษะทางคอมพิวเตอร์ พอสมควรในการสร้างบทเรียน
8. ตรวจสอบความเรียบร้อยของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาตามแผนที่กำหนดไว้
และความเรียบร้อยว่ามีความบกพร่องหรือมีปัญหาอย่างไรบ้างให้แก้ไขให้ถูกต้อง
9. ทำการทดลองใช้กับผู้เรียนเพื่อหาข้อบกพร่องเพื่อแก้ไข ก่อนนำไปใช้จริงลองหากลุ่มตัวอย่างมาทดลองใช้
ดูแล้ว ลองสังเกต สอบถาม หรือสัมภาษณ์ดูว่าเขามีปฏิกริยาอย่างไร แล้วปรับปรุงแก้ไข เช่น สังเกตว่าผู้เรียน
เกิดอาการเบื่อ เครียด ไม่เข้าใจ หรือตอบคำถามในบทเรียนผิดบ่อยครั้งแสดงว่าต้องปรับปรุง การเลือกกลุ่มตัวอย่าง
ควร หาทั้งคนที่เก่ง ปานกลาง และอ่อน เพื่อจะได้หาข้อบกพร่องของแต่ละกลุ่ม
10. นำไปใช้จริงเพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียน เมื่อปรับปรุงแก้ไขแล้วควรนำไปใช้จริงเพื่อหาประสิทธิภาพ
โดยศึกษาวิธีหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในบทต่อไป
11. ติดตามผล เพื่อพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขต่อไป