นุ่งสั้น รัดติ้วกับภาพในเชิงลบ

"กระโปรงสั้นเหนือเข่า 1 คืบ เสื้อขนาด 4 S" นี่คือสัญลักษณ์ของผู้เข้าร่วมวงจรนี้

             เมื่อคืนมีโอกาสได้ดูรายการ คุยแหกโค้ง พบประเด็นการสนทนาที่น่าสนใจ จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง เพราะคิดว่าเป็นปัญหาที่แพร่ระบาดในสังคมไทยปัจจุบัน
            ในรายการ ได้มีแขกรับเชิญมาสนทนาในเรื่องวงจรการค้าประเวณี ในเด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งเธอ เริ่มเข้าวงการนี้โดยการขายบริการและผันตัวมาเป็นเอเย่น ซึ่งมีรายได้งามทำให้มีเยาวชนที่หลงกับวัตถุ ต่างต้องการเข้ามาวนเวียนอยู่ในวงจรนี้มากมายเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทองมากมาย และนำไปใช้จ่ายในการซื้อวัตถุนิยมต่าง ๆ มาประดับบารมี และสิ่งที่เธอเล่าว่าเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ผู้ซื้อสามารถสังเกตุได้เลยว่านี่คือ ผู้ขายบริการ ที่เป็นนิสิต นักศึกษา ก็คือ การแต่งกายด้วย "กระโปรงสั้นเหนือเข่า 1 คืบ เสื้อขนาด 4 S" หรือที่เรียกว่า ยิ่งสั้น ยิ่งรัด ยิ่งดี นั่นเอง ทำให้มองย้อนมาถึงรอบรั้วมหาวิทยาลัยของเรา ปัจจุบันนิสิตมีค่านิยมที่ผิดโดยการแต่งกายในลักษณะดังกล่าวกันมากขึ้น ซึ่งตัวนิสิตอาจจะไม่ทราบเลยว่าการแต่งกายเช่นนี้ มีอะไรแอบแฝงมากกว่าการแต่งกายตามแฟชั่น
            สุดท้ายนี้คงไม่มีอะไรนอกจากความห่วงใย และหวังว่าค่านิยมที่ผิด ๆ นี้จะหมดไปโดยเร็ว ด้วยความร่วมมือร่วมใจของเราชาว มน.

 

[Parisara Narongrakdej]

เห็นด้วยค่ะ ว่าเป็นค่านิยมที่ผิด ที่ว่า "ไม่ฟิต ไม่สั้น ไม่มั่นใจ"

[Ka-Poom]

ขอร่วมสนับสนุน...คะ

แต่บางทีนะคะ...ผู้เป็นต้นแบบเช่น ครู-อาจารย์...ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนิสิต-นักศึกษาด้วยคะ

...

กะปุ๋มไปเจอที่..อาจารย์ที่สถาบันแห่งหนึ่งใส่เสื้อรัดติ้ว...หน้าอกหน้าใจแทบทะลุ...ทะลวงชนกับนักศึกษาเลยคะ...เลยสงสัยว่าไม่อึดอัดบ่งเลยเหรอ...เราคนดูอย่างอึดอัดแทนคะ...กลัวระเบิด...(ฮา...)

...

ขอยกมือ...เชียร์สนับสนุนอีกแรงนะคะ

ขอบคุณคะ

   “ขอความกรุณาใช้ผ้าคลุมเข่า หากนุ่งสั้นกว่าเข่า”   

ปัจจุบันแฟชั่นผู้หญิงมีค่านิยมชื่นชอบนุ่งสั้น(ชื่นชอบแต่งตัวโป๊)แล้วจะสวยจะงาม(บางคนเข้าใจว่าเจ้าความสวยความงามนี้จะนำมาซึ่งความเป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาไม่ต้องกลัวที่จะอายในการเข้าสังคม-ได้เป็นคนพิเศษ-ได้เป็นคนสำคัญ-ได้เป็นคนที่มีคุณค่า-ได้รับความสนใจ-ได้รับการให้เกียรติ-ได้รับการต้อนรับที่ดีในการเข้าสังคม+ทำตามเพื่อนไม่งั้นเข้ากลุ่มไม่ได้-ใส่กระโปรงยาวอายเพื่อนกลัวเพื่อนล้อว่าNerd!,เป็นที่หมายปองของผู้ชายทั้งหลาย+เดินไปที่ไหนก็มีแต่ผู้ชายมองด้วยสายตาที่ชื่นชมว่าฉันสวยฉันงามลาภ,ยศ,สรรเสริญ,สุขฯลฯ)+ได้รับความสะดวกสบาย&ธรรมชาติของผู้ชายชื่นชอบมองหญิงผู้สวยงาม(ชื่นชอบแอบดูผู้หญิงโป๊)ทั้งหลายซึ่งพี่ยอมรับสภาพความเป็นไปของทั้ง ๒ ฝ่าย แต่พี่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้าน(คล้ายๆศอฉ.) จึงใคร่ขอความกรุณาให้ใช้ผ้าคลุมเข่าที่ทางร้านจัดให้ หรือ เตรียมมาเองก็ได้ (พี่บอกเธอว่าอย่านุ่งสั้นแล้วเธอไม่ทำฉันใด พี่บอกเขาว่าอย่าดูแล้วเขาก็ไม่ทำฉันนั้นแหละ...โยม)

ความในใจ: ๑. ลูกค้าชายบางคน ชอบดู (แถมจ้องตาไม่กระพริบ มองด้วยสายตาที่ชื่นชมว่าสวยว่างาม กับ มองด้วยสายตาที่หื่นกามไม่เหมือนกันน่ะ..โยม-อนาคตอาจจะน้ำลายไหลยืด+เลือดกำเดาไหลออกทางจมูกด้วยก็ได้๕๕๕) น้องที่นุ่งสั้น (ขณะที่น้องอยู่ในร้านเน็ตสายตาน้องสนใจแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ตัวว่าถูกผู้อื่นมองอย่างสนุกสนาน สรุปก็คือน้องจะถูกมองทุกที่ทุกเวลาแต่เขาจะมองตอนที่น้องไม่รู้ตัวตอนที่น้องเผลอ น้องจึงรู้สึกว่าไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย มันมีแต่น้องมีรู้ต่างหากล่ะคร้าบ+ที่อื่นจะอยู่ในระยะห่างและเคลื่อนที่ แต่ร้านเน็ตอยู่ระยะประชิดและอยู่กับที่ แถมเวลาช่วง prime time คนจะออกันแน่นเบียดเสียดกันในพื้นที่แคบๆ) พี่เห็นแล้วมันหงุดหงิดเหนื่อยหน่ายต่อเหตุการณ์เช่นนี้+การกำราบเขาเหล่านั้น (พี่เสี่ยงต่อการถูกกระทืบ -พี่ไม่ใช่จาพนมหรือไก่อูที่จะได้มีศักยภาพในการต่อกรกับเขาเหล่านั้นได้ ในแต่ละวันๆพี่ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากต้องคอยหวาดระแวงว่าจะมีลูกค้าชายคนใดนอกลู่นอกทางบ้าง บางคนวางท่าผู้ดีแต่ชอบดู ส่วนบางคนดูน่ากลัวกลับไม่สนใจ พี่อยู่ร้านนี้ทุกวันตั้งแต่ตื่นจนนอน น้องแต่ละคนมาชั่วคราวแล้วก็จากไป) ฉะนั้นน้องต้องดูแลตัวเอง (หากพี่ไม่หาทางป้องกัน อยากดูก็ดูไป อะไรจะเกิดขึ้น??? คนที่ดูก็จะยิ่งย่ามใจ ได้คืบจะเอาศอก+ค่อยๆเพิ่มดีกรีเพิ่มระดับความรุนแรงของการล่วงละเมิดขึ้นๆไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายๆไฟเริ่มไหม้ ถ้าไม่รีบดับเสียก่อน ไฟนั้นก็จะลุกลามใหญ่โตบานปลายไม่จบไม่สิ้น –โบราณท่านว่า“อย่าเล่นกับไฟ” )

๒. น้องผู้หญิงที่นุ่งสั้นบางคน ก็มีอาการหวาดระแวงกลัวผู้ชายจะดูตัวเองที่นุ่งสั้น ( แถมกลัวพี่จะดูด้วยอีกคน........จะให้ฉันทำอย่างไร........ ๕๕๕ )

๓. วัตถุประสงค์ของพี่คือต้องการแจ้งให้ทราบ และจะบอกว่ามีผ้าคลุมไว้ให้บริการ หลังจากนั้นน้องต้องตัดสินใจเองว่าจะใช้หรือไม่ ( ถ้ารับไม่ได้ที่จะมีคนดูก็ควรจะใช้, ถ้ารับได้ที่จะมีคนดูก็ไม่จำเป็นต้องใช้ ) แล้วน้องก็ต้องรับผลกรรมนั้นด้วยตัวของน้องเอง ( สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม )

๔. ทั้งน้องผู้หญิงและน้องผู้ชายแทนที่จะโมโหและโวยวายในใจว่าไม่เห็นเข้าใจกับสิ่งที่พี่ทำ ก็ลองเปลี่ยนเป็นการพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่อาจเกิดขึ้น แล้วมา ช่วยพี่หาทางแก้ไขปัญหาที่อาจจะตามมาจะดีกว่าครับ (สมมติถ้าจะมีปัญหา คนที่จะมีปัญหาจริงๆกับน้องตัวจริงเสียงจริงน่ะไม่ใช่พี่น่ะคร้าบ)

๕. สิ่งที่พี่กังวลและกลัวว่าการนุ่งสั้นของน้องอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาดังนี้ (น้องรู้จักแฟชั่นแต่น้องรู้จักไหมแต่งตัวโป๊น่ะแต่งตัวโป๊=แฟชั่น)

๕.๑ แห่กันมามืดฟ้ามัวดิน(พวกที่ชอบดูนุ่งสั้น-พวกหื่นกาม) เนื่องจากร้านพี่เป็นร้านอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวไม่มีเกมส์(ลูกค้าที่มาเล่นเน็ตส่วนใหญ่ผู้หญิงมาใช้ทำรายงาน ผู้ชายไม่ค่อยทำอะไร)น้องลองนึกภาพผู้หญิงนุ่งสั้นเต็มร้านมาใช้บริการเน็ต+ปริ้นท์งาน(ส่วนใหญ่ที่พี่ไปข้างนอกจะทยอยเจอนุ่งสั้นทีละคนสองคนและเคลื่อนที่ แต่นี่อยู่เต็มร้านทั้งนั่ง+ยืนแล้วอยู่กับที่)น้องก็ลองคิดพิจารณาดูว่าพวกที่ชอบดูขาอ่อนจะไม่แห่กันมามืดฟ้ามัวดินได้อย่างไร(น้องก็ลองนึกภาพงานMotorShowที่คนเขาแห่กันไปมืดฟ้ามัวดินแล้วก็แก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นใครดีใครได้ได้เอาเสียไม่เอาจะเอาแต่ได้อย่างเดียวยอมทำทุกอย่างยอมทำทุกวิถีทางไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ด้วยคาถาเพื่อให้ได้สมอยากใครจะเป็นตายร้ายดีไม่สนใจไม่ใส่ใจขอเพียงได้เข้าไปในงาน เขาคงไปดูรถกันเนอะ–พี่ว่าถ้าไม่มีPrettyงานอาจจะล้างเหมือนป่าช้าเลยก็ได้๕๕๕+น้องไม่เคยสงสัยบ้างเหรอว่าPretty,Coyoty,เด็กนั่งดริงก์เขาแต่งตัวโป๊ไปเพื่ออะไรเขาเหล่านั้นไม่มีทางเลือกมันเป็นอาชีพแต่น้องเป็นนักเรียนนักศึกษามีการศึกษาเป็นลูกมีพ่อมีแม่และมีทางเลือกเคยถามตัวเองไหมว่าแต่งโป๊ไปเพื่ออะไรเคยนึกผลที่จะตามมาบ้างไหมเอ๊ะอ่ะอะไรก็แฟชั่น+สิทธิ์ส่วนบุคคลน้องเป็นมนุษย์ผู้มีใจสูงมีปัญญาไม่ใช่.....ที่จะให้ใครจูงไปทางไหนก็ไปโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองว่าผิดชอบชั่วดีเลย)

๕.๒ ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะแค่ดูและถ้ามันมากกว่าดูละ เช่น แอบถ่ายคลิป (วันหนึ่งน้องอาจจะเจอรูปตัวเองเห็นหน้าน้องและตัวน้องที่นุ่งสั้นไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตในทำนองโฆษณาขายซีดีXXX+ขายบริการทางเพศ...ไอ๊หยา...เก๊กซิมซี่อ่า...๕๕๕ ) , การล่วงละเมิดทางเพศ(จากเบาไปหาหนัก) ฯลฯ

๕.๓ การทะเลาะวิวาท เช่น ผู้ติดตามจะทะเลาะวิวาทกับคนที่ดู เนื่องจากรับไม่ได้ที่อีกฝ่ายมาดูคนของตน (มันเจ็บปวดหัวใจ) เป็นต้น ฯลฯ

๖. พี่จำเป็นต้องดำเนินการป้องกันปัญหาที่จะตามมาไว้ก่อนนั้น น้องก็ไม่เข้าใจ รับไม่ได้ ไม่อยากรับทราบ พี่คิดไปเองหรือเปล่า พี่บ้าหรือเปล่า แต่ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นเมื่อไหร่ น้องต้องพูดว่าพี่ปล่อยให้เขาทำกับหนูอย่างนี้ได้ยังไงไม่เห็นพี่ทำอะไรเลยไม่เห็นพี่บอกอะไรหนูเลยหนูจะได้เพิ่มความระมัดระวังตัวให้ดีกว่านี้

๗. ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นมาเมื่อไหร่ตัวน้องผู้หญิงเองนั่นแหละที่จะเป็นผู้เสียหายและพี่ก็จะต้องเดือดร้อนตามไปด้วยพี่อาจจะถูกสั่งปิดร้านหรือกรณีที่ไม่ถูกสั่งปิดร้านน้องคิดว่าจะมีน้องผู้หญิงกล้าเข้ามาใช้บริการหรือ? แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น?? (มีอะไรก็โทษร้านเน็ตไว้ก่อน โทษคนเฝ้าไว้ก่อน เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ดูแลตักเตือนเหมือนลูกหลานตัวเองปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไรโดยไม่ทำอะไรเลย แต่หลงลืมไปว่าตนเองไม่เคยคิดที่จะโทษตนเองเลยสักนิดเดียว)

๘. การนุ่งสั้นแล้วอาจจะทำให้ผู้ชายบางคนเห็นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศและไปก่อคดีข่มขืนกับคนอื่น(ไม่ได้ก่อคดีกับคนที่นุ่งสั้น)ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่แต่งตัวปกติใช้ชีวิตปกติ เคยมีเกิดขึ้นแล้วและจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปไม่จบไม่สิ้นแล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าวันหนึ่งมันจะไม่ย้อนกลับมาหาตัวเรา(เวรกรรม....เวรกรรม)

๙. เรื่องที่พี่กังวลนี้เกิดขึ้นได้ไม่เลือก บุคคล สถานที่ เวลา ( พระท่านว่า “ไม่ประมาท–มีสติ” +สัมปชัญญะ+ปํญญา+สมาธิ+ศีล+ทาน+มรรค๘ )

๑๐. พี่ไม่ได้เรียกร้องให้น้องเลิกนุ่งสั้น ไม่ได้มีความประสงค์จะละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของน้อง แต่สิ่งที่พี่ต้องการคือความสงบสุขในชีวิตของพี่-ในร้านที่พี่ดูแลอยู่ รวมถึงความปลอดภัยของน้องขณะที่อยู่ในร้านแค่นั้นเอง (ถ้าพี่ทำอะไรผิดก็บอกพี่ได้น่ะพี่จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุงตัว+พี่จะได้รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร)

๑๑. พี่เชื่อว่าถ้าน้องเข้าใจในสิ่งที่พี่ทำน้องจะให้ความร่วมมือกับพี่เพราะสงสารที่ต้องมาแบกรับชะตากรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ(พี่ไม่ได้โมโหที่น้องนุ่งสั้นแต่พี่โมโหในผลที่อาจตามมาแล้วส่งผลให้พี่เดือดร้อนพี่อยู่ไม่เป็นสุขเลยไม่รู้ว่าจะถูกหวยตอนไหน ลองสมมติตัวเองมาเป็นพี่บ้างซิต้องผจญกับพวกหื่นกามน่ะ)

๑๒. ถ้าหากน้องหญิงพร้อมใจกันทำเหตุ (นุ่งสั้นทุกคน) สักวันหนึ่งจะต้องมีผู้โชคร้ายได้รับผลกรรมจากกการที่ทุกคนก่อกรรมเอาไว้ และจะส่งผลถึงพี่ด้วย แต่ถ้าน้องหญิงพร้อมใจกันไม่ทำเหตุ (ไม่นุ่งสั้นหรือใช้ผ้าคลุม) พี่เชื่อว่าที่นี่จะปลอดภัยมากกว่าปล่อยไปตามยถากรรม (ยังไงก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง)

๑๓. บ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดีร้านพี่ก็เช่นกันซึ่งพี่ต้องรับมือกับคนทุกรูปแบบ แต่คนทุกรูปแบบจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

๑๔. มันไม่ผิดหรอกที่ผู้หญิงต้องการสวยงาม (แต่มันน่าจะมีวิธีสวยงามที่ดีกว่านี้) & มันไม่ผิดหรอกที่ผู้ชายจะชอบมองผู้หญิงที่สวยที่งาม (แต่มันควรจะมีมารยาทในการมองไม่ให้มันน่าเกลียดจนเกินไป+ควรจะมองเฉพาะคนที่เขาอยากให้เรามอง) & มันไม่ผิดหรอกที่พี่จะดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้าน(แต่เราควรจะเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง+รู้จักผู้อื่น และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคม ไม่ควรจะ เบียดเบียนกัน+สร้างความเดือดร้อน ซึ่งกันและกัน)

๑๕. ก็น่าแปลกดีที่ลึกลงไปภายในจิตใจของผู้ที่รักและหวังดีอย่างแท้จริงของหญิงเหล่านั้น เช่น พ่อแม่ครูบาอาจารย์ญาติสามีลูก มิได้เห็นดีเห็นงามกับการกระทำของเธอ ซึ่งเธอเหล่านั้นก็รู้ดี แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ตนเอง ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของคนที่เขาหวังดีอย่างแท้จริงก็ยังคงฝืนดันทุรันทำกันไปได้

“ความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่น่าวิตกคือ ทุกวันนี้ความคิดอ่านและความประพฤติหลาย ๆ อย่าง ซึ่งแต่ก่อนถือว่าเป็นความชั่วความผิด ได้กลายเป็นสิ่งที่คนในสังคมยอมรับ แล้วพากันประพฤติปฏิบัติโดยไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนจนทำให้เกิดปัญหา และทำให้วิถีชีวิตของแต่ละคนมืดมนลงไปข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นหน้าที่ของชาวพุทธจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง แต่ละท่านแต่ละฝ่ายต้องยึดหลักการให้มั่นคงที่จะไม่ทำสิ่งใดๆ ที่ชั่ว ที่เสื่อมต้องกล้าและบากบั่นที่จะทำแต่สิ่งที่เป็นความดี เป็นความถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อให้ผลความประพฤติปฏิบัติชอบบังเกิดเพิ่มพูนขึ้นและค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมทรุดลง หากให้กลับฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็น ลำดับ” ................................(พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ที่ประชุมสมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ ๓๖ วันที่ ๑๘ พ.ย. ๒๕๓๒ )

คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใส่สั้น

คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน คนจะสวย สวยจรรยา ใช่สายเดี่ยว

คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน

คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต

คำถาม อยากทราบว่าการนุ่งสั้น บาปไหมค่ะ??? ( อยากทราบว่าการใส่กางเกงขาสั้น ใส่กระโปรงสั้น หรือใส่เสื้อผ้า เช่นสายเดี่ยวบาปไหมค่ะ )

คำตอบ พิจารณาว่าการแต่งกายของเราทำให้ผู้ที่มองเราเกิดกิเลส(ราคะ)หรือไม่ถ้าการแต่งกายของเราเป็นเหตุที่ไปกระตุ้นราคะของผู้อื่นให้กำเริบก็จะเป็นบาป

 เด็กไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่หมดเท่าไหร่ก็ไม่ว่า ขอให้รักษาหน้าตาไว้ได้ ฉันใด มนุษย์เป็นสัตว์สังคมย่อม

ผู้ใหญ่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กผู้หญิงหมดเท่าไหร่ก็ไม่ว่า ขอให้ฉันสวยฉันงาม ฉันนั้นแหละ.......โยม ต้องการได้รับการเชิดหน้าชูตา

 ผู้ใหญ่เห็นว่าเงินทอง ดีงามกว่า ความประพฤติดีประพฤติชอบ ฉันใด ไม่ต้องการการดูถูกเหยียดหยาม

เด็กก็เห็นว่าการสวยงามที่ไม่เหมาะสม ดีงามกว่า จิตใจ+ความประพฤติสวยงาม ฉันนั้นแหละ.......โยม ในการเข้าสังคมทุกที่ทุกเวลา

 เราอยู่ในสังคมที่วิปริต ถ้าเราไม่วิปริตตาม ( ไม่ทำตามที่คนอื่นเขาทำกัน + ไม่ทำตามๆกันไป ) ก็จะไม่สามารถเข้าสังคมเข้าพวกได้ + ไม่ได้รับการเชิดหน้าชูตาในการเข้าสังคม + ได้รับความอับอายในการเข้าสังคม กลายเป็นคนแปลกแยกไม่มีที่ยืนในสังคม กลายเป็นคนบ้า เพราะว่าทำไม่เหมือนชาวบ้านที่เขาทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ถ้าบ้าในสิ่งที่ถูกที่ชอบที่ควร - ในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร มันก็สมควรจะบ้าไม่ใช่หรือ (คล้ายๆกับว่าคนในสังคมกำลังพากันเดินไปในทางที่จะตกเหว แล้วเรายังจะหน้ามืดตามพวกเขาไปอีกหรือ?.....โยม ) + ( สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติและสิ่งที่เป็นที่นิยมไม่จำเป็นต้องถูกเสมอไป)

 “เมื่อขรัวโตบ้า พากันนิยมชมว่าขรัวโตเป็นคนดี ยามนี้ขรัวโตเป็นคนดี พูดกันบ่นอู้อี้ว่าขรัวโตบ้า”..(ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข ขอสัตว์ทั้งปวงจงพ้นทุกข์)

สรุป ๑. “การที่ผู้หญิง (ไม่มียางอาย) แต่งตัวโป๊ (จะเป็นเหตุยั่วราคะผู้ชายให้เกิด-ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ ) เป็นสิ่งที่ผิดและไม่ปกติไม่ธรรมดา เป็นเรื่องน่าละอาย ได้กลับกลายเป็น (ผู้หญิงไม่แต่งตัวโป๊อายเพื่อนกลัวถูกเพื่อนล้อว่าNerd!) สิ่งที่ถูกต้องดีงาม และเป็นเรื่องปกติธรรมดา ในสังคมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (หญิงใดไม่แต่งตัวโป๊จะกลายเป็นคนผิดปกติ จะอายในการเข้าสังคม จะถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ +ผู้ชายมองแล้วเมิน + ผู้หญิงมองว่าเป็นแกะดำ)

๒. “การที่ผู้หญิงแต่งกายไม่เหมาะสม ปรากฏต่อสาธารณะ เป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทางสังคมเกี่ยวกับการกระทำผิดเรื่องเพศ ”…… (เด็กรุ่นใหม่เคยทราบไหม)

๓. สังคมในปัจจุบันไม่มีความรู้ความสามารถในการแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ (ไม่รู้ว่าอันไหนเป็นทาง อันไหนไม่ใช่ทาง ไม่รู้ทางไหนเจริญ ทางไหนเสื่อม ไม่รู้ว่าทางไหนทุกข์ ทางไหนสุข ไม่รู้ว่าอะไรเป็นบาป อะไรเป็นบุญ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษ ไม่รู้ว่าอะไรมีสาระ อะไรไม่มีสาระ ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม-เกิดมาเพื่อสนองความอยากไปวันๆเพียงแค่นั้นเองหรือเกิดมาชาติหนึ่ง? ไม่รู้ว่าเกิดมาแล้วควรจะไปทางไหนดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นทางดับเหตุให้เกิดทุกข์ ไม่รู้ว่าตัวเองว่ายอยู่ในทะเลทุกข์วนเวียนอยู่ในสงสารวัฏฏ์นานชั่วกัปชั่วกัลป์ + เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ยินแล้วไม่มีใครพูดถึงแล้ว-กุลสตรี-หิริโอตตัปปะ-ศีล-มนุษย์ผู้มีใจสูง-นรก-สวรรค์-นิพพาน-ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม-กฎแห่งกรรม-อริยทรัพย์-มักน้อย-พอเพียง-แบ่งปัน-ไม่แก่งแย่งแข่งขันกัน-น้ำใจ-เอื้ออาทรต่อกัน-หวังดีต่อกัน-เมตตาต่อกัน-การให้อภัย -ทาน) แล้วพอกระแสสังคมที่เชี่ยวกรากมีความเห็นผิด ( เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ) ก็ก่อให้เกิดการประพฤติผิดแล้วก็ก่อให้เกิดทุกข์+ปัญหาสังคมต่างๆตามมา โดยที่เขาเหล่านั้นไม่รู้ตัวว่าตนเองมีความเห็นและความประพฤติผิดแล้วก็ไม่รู้ว่าความเห็นผิดและความประพฤติผิดของตนสร้างทุกข์สร้างปัญหาให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างไร แล้วยังแถมมันผู้ใดไม่มีความคิดและความประพฤติเหมือนสังคมที่ผิดก็จะไม่ให้เข้าสังคม+เข้ากลุ่มและถูกต่อว่าติฉินนินทา

๔. ถ้าให้เลือกระหว่าง อายที่จะแต่งตัวโป๊ กับ อายที่ไม่ได้ทำตามกระแสสังคม คุณจะเลือกอายแบบไหน??? (ควรจะละอายชั่วเกรงกลัวต่อบาป)

๕. รู้จักแต่สิทธิ์ส่วนบุคคลของตน+แฟชั่น แต่ไม่รู้จักแต่งตัวโป๊+เคารพสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้อื่น+กาลเทศะ+เคารพให้เกียรติกฎระเบียบของสถานที่

๖. แฟชั่นไม่ใช่เหตุผลแต่เป็นข้ออ้างในการแต่งตัวโป๊ (แฟชั่นเกิดจากสติปัญญาในการแต่งตัว แต่การแต่งตัวโป๊เกิดจากหมดปัญญาที่จะสร้างแฟชั่นแล้ว)

๗. ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร กับสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว กับไม่ยอมรับว่าสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ไม่เหมือนกันน่ะ...โยม

๘. คนหนึ่งชอบแต่งตัวโป๊เป็นชีวิตจิตใจ+อีกคนหนึ่งชอบดูคนโป๊เป็นจิตวิญญาณ แล้วมันจะสงบสุข ไม่มีปัญหา ไม่สร้างความเดือดร้อนได้อย่างไร

๙. เด็กเกิดมาไม่รู้ว่าถ่านที่ติดไฟมันร้อน ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน ตะโกนคอแทบแตกว่าอย่าไปจับ ด้วยความที่เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้อะไรเลย แต่หลงตนว่ารู้ทุกอย่าง และไม่ฟังผู้ใหญ่ (ทั้งๆที่ยังแบมือขอเงินผู้ใหญ่ยังเอาตัวไม่รอด) แล้วเด็กรุ่นนี้โตเป็นผู้ใหญ่จะเอาอะไรไปสอนเด็กสอนลูกสอนหลานละคร้าบ???

๑๐. ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะคิดพูดทำได้แล้วการกระทำของเราจะกำหนดชะตาชีวิตของเราว่าจะดีหรือร้าย......เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

[kai]

นักศึกษา นุ่งสั้น นุ่งเสียว เสี้ยวชีวิตที่ใกล้หลุมดำ!มุมมืด ! ที่พ่อแม่ไม่รับรู้!

หลายครั้งที่ตั้งกระทู้ เมื่อมองดูก็รู้ว่าหวังดี ต่อสังคม หรือไม่อย่างไร ถ้าเราไม่ช่วยกันคนละมือคนละไม้ สุดท้ายสังคมจะอยู่กันอย่างไร ปล่อยให้มันหมักหมม จมอยู่กับปัญหา และ ตัณหา ที่เหลวแหลก เละเทะ ของ คนวัยเรียน ที่อ้างตน หลงตน ไม่ยอมรับความจริง การแต่งตัวยั่วเซ็กส์

อย่างที่รายการ หลุมดำ นำมาตีแผ่ ออกรายการ สุดท้าย มันก็กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง

แล้วก็หายไป น้องๆ ที่ทำได้อย่างนั้น ก็ออกมาแก้ตัวกัน พัลวัล ว่าที่ทำรายามนั้น มันไม่ผิด ไม่ชั่ว

มันไม่เกี่ยวกับการเรียน มันไม่เกี่ยวกับรอยหยักในสมอง หรืออะไร ที่อ้างมา แต่โดยรวมแล้ว คนที่ถูกด่าย่อมไม่ชอบ ผมเองหรือคุณ จั่นเจา ค่อนข้างที่จะถูด่า ว่าปากหมา ซะเหลือเกิน ก็เพราะ อย่างนี้ จะพูดจะเขียนดีๆ สุภาพ แล้วเด็กมัน จะรับรู้หรือเชื่อก็เป็นไปไม่ได้ พ่อแม่มันมันยังไม่เชื่อ เลย เพีบยงแต่ การเขียน หรือเรียบเรียง ข้อความ มันต้องใช้อารมณ์ ความรู้สึก ผสมผสานปนเปมาด้วย เพราะอย่างน้อย คนที่ยังไม่ลุ่มหลง เสียคนไปตามกระแสสังคม ที่เสื่อมทราม อาจได้ฟัง ได้อ่าน แล้วได้ระวังตัว ให้คนที่ชั่ว ที่เน่าไปแล้ว มันเน่าเปื่อยผุพังไป แต่คนที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระแสวังวน แห่งความ ชั่วความเหลวแหลก บ้างก็ ยังดี !

การด่า ของผู้ชาย ที่สารพัดสารพันสรรหา คำหยาบมาด่า แต่คุณเชื่อมั๊ยว่า คนพวกนั้น จะไม่รู้สึก !

อย่าว่าแต่ว่า คนพวกนั้น ไม่รู้สึกเลยครับ ในชีวิตจริงๆ แม้แต่พ่อแม่ ผู้หญิงพวกนั้น ยังไม่ฟังเลยคุณ !

คนดีมีการศึกษา สูงๆ เรียนระดับ ปริญญา ต่างประเทศ อาจจะยังไม่เคยได้สัมผัส รับรู้ ว่า ผู้หญิง บางคน ในประเทศนี้ ทำตัวได้ต่ำมากๆ มากกว่าที่คิดนัก ผมเชื่อว่า ผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊ บางคน ก็เป็นคนดีได้ บ่อยครั้ง ที่เราจะเห็นว่า ผู้หญิง มักพูดแบบนี้ คือ การแต่งตัว ไม่เกี่ยวกับสมอง ก็อ้างกันไป แต่ในสภาพสังคมไทย ในยุคปัจจุบัน คุณจะเชื่อมั๊ยว่า ผู้หญิงไทย โชคร้ายมาก โดยเฉพาะ กับ นักศึกษา คนเหล่านี้ เป็นทาส ทาส ของสังคม ทาสของสินค้าทาสของดารา ทาสของกระแสชี้นำ ที่นักธุรกิจ ที่เป็นผู้ใหญ่ หากำไรจากเด็ก เป็นคนตักตวง

โดยที่เธอเหล่านั้น หลงระเริง ระรื่น คิดว่าตัวเองทำถูก

พ่อแม่ ส่งลูกมาเรียน อยู่หอ บางคนมีบ้านอยู่ในเมือง ในกรุงแต่ขอพ่อแม่ ไปอยู่หอ เพราะอะไร เพราะมันอิสระดี จะปล่อยเนื้อปล่อยตัว ทำได้สบายตัว

พ่อแม่ไม่รู้เรื่อง สังคมเสื่อมทราม มากๆ ในหมู่ นักศึกษา จะมีสักกี่คน ไม่ตกเป็นเหยื่อ เด็กสาวร้อยละเกือบ90% ผ่านการมีแฟน ผ่านการมีผัว มีกิ๊ก มีความรัก ทั้งๆที่ ยังไม่สมควร และก็ร้อยละ90 % ของทั้งหมด ก็เป็นได้ เพียงแค่เครื่องบำบัดความใคร่ กระหายอยาก แก้ขัดให้เด็กผู้ชาย เด็กหนุ่ม เพื่อซ้อมการร่วมเพศ ก่อนที่จะจบการศึกษา ออกไป สรุปได้ว่า คนที่น่าสงสาร คือใครครับ ! (ใช่เด็กสาวเหล่านั้นมั๊ย)

มันไม่ใช่ความรัก ความบริสุทธิ์ ความจริงใจ ที่ได้จากเพื่อน จากกิ๊ก จากผู้ชายระบายเซ็กส์เหล่านั้น มันคือความเห็นแก่ตัว ที่ผู้หญิง ระดับปัญญาชนเหล่านั้น รู้ชะตาชีวิตตัวเองดี แต่ ก็ยังอม ยังเก็บ และรับมันเอาใว้เชิดหน้า หลอกตัวเองอยู่ในสังคม ว่า ข้านี่แหละ ปัญญาชน คนมีความรู้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่ตัวเองก็รู้ ว่าตัวเอง หมดศักดิ์ศรี หมดดีกรี ไปตั้งแต่เข้าปี1 แล้ว ! (ถ้าเสียคนหรือเสียตัว)

ไม่ใช่ว่า การมีเพศสัมพันธุ์ หรือมีกิ๊ก มีแฟน ก่อนวัยอันสมควร มันจะเลวร้ายมากมาย จะเป็นจะตายปราณนั้น ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ลองถามว่า มันสมควรมั๊ย ที่ลูกสาวใคร

โดยเฉพาะ ลูกสาวคนไทย เรา จะให้ ผู้ชาย มันขย่มเล่นฟรีๆ พ่อแม่คนไหน ใครอยากให้มันเป็นอย่างนั้น พ่อแม่ คนไหน พ่อแม่คนไทย รู้บ้างมั๊ย ว่าการที่ส่งลูกมาเรียน ระดับปริญญา ที่เรียกว่านักศึกษา นั้น เหมือนส่งลูกมาหาผัว ส่งลูกมาฝึกการมีเพศสัมพันธุ์ การมีเซ็กส์ ให้ช่ำชอง !

ก่อนที่จะจบ เรียกว่า ไปเล่นหนังเอ็กส์ได้สบาย เพราะ นักศึกษา ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว มันก็มั่วไปทั่ว หาวิธีการสมสู่แบบพิศดารพันลึก เหมือนที่ได้เรียนรู้ดูมาจาก หนังโป๊หนังเอ็กส์ ที่ขายกราดเกลื่อน แล้วก็ทิ้ง ผู้หญิง ที่เรียกว่ากิ๊ก นั้นไป !

เห็นพูดกันอย่างหน้าตาย ว่ามีกิ๊ก กิ๊กคนนั้น กิ๊กคนนี้ บอกตรงๆ ว่า ที่พูดออกมานั้น มันน่าอายเหมือน ควายโง่ แสดงความขี้เท่อ ออกมา คิดว่า พูดแบบนั้น จะเก๋จะเท่ห์ ทันสมัย ที่ไหน ได้ นั่นมันเหมือนเป็นการบ่งบอก ว่า ตัวเอง คือผู้หญิงมักง่าย คือเครื่องบำบัดความใคร่ ให้ผู้ชายฟรีๆ มันโง่ ยิ่งกว่าโสเภณี เสียอีก ผู้หญิงโสเภณี ยังนอนกับใคร ด้วยการแลกเงิน แต่นี่ไร้ราคา ให้เขาฟรีไปทั่ว มั่วไปกับทุกคน แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบโง่ๆว่า มีกิ๊ก กี่คนแล้ว โง่บัดซบ นี่หรือ ความรู้ระดับปริญญา มันไร้ปัญญา ยิ่งกว่าสาวใช้แรงงาน

เราลองมานั่งนึก นั่งคิดผู้หญิงสมัยนี้ สาวโรงงานสาวก่อสร้าง ที่ด้อยโอกาส ที่จะได้รับการศึกษา ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ยังทำตัวดีมีค่า มากซะกว่านักศึกษา ปัญญาชน เสื้อขาวกระโปรงดำ เหมือนจะทำให้โลกรู้ว่า นี่คือชุด ที่ให้ใว้ทุกข์ กับชีวิต มันรัดปลิ้น ยั่ยวน กวนประสาท ให้เพศตรงข้าม เสียวกระสันต์ อยากร่วมผสมโลมรัน มันได้อะไรกับชีวิต แล้วรู้มั๊ยว่า ถึงแม้ว่ามันได้ผสมสมสู่ เป็นชู้ เป็นกิ๊ก สุดท้าย มันเบื่อ มันก็หนี มันก็ทิ้ง ไม่เอาจริงสักราย กลายเป็นของเก่า เป็นผ้าขี้ริ้ว เป็นเหมือนผ้า อนามัย เป็น ถุงยางอนามัย ที่ใช้แล้วทิ้ง แต่ตัวเองก็ยังกล้ำกลืนฝืนทน ทนทุกข์ปั้นหน้าว่าข้าคือ สาวปริญญา ข้าคือ ปัญญาชน บอกให้ก็ได้ว่า ที่จบออกมา เป็นโขยง เหมือนโขลงช้างโขลงแรด ! หาความรู้ดูดี มีปัญญา จริงๆ สักกี่คน มีแต่ปริมาณ แต่ไร้คุณภาพ !

ดังนั้น พ่อแม่ ที่คิดจะส่งลูกมาเรียน ต้องคิดให้ดีว่า ส่งมาเรียนอะไร ถ้าส่งได้เพียงแค่มาเลียน เลียนแบบหนังเอ็กส์ เซ็กส์ในวัยเรียนล่ะก็ ปล่อยให้มันเป็นควายไถนาอยู่ที่บ้านนอก ยังมีศักดิ์ศรี ดีซะกว่า ดีกว่าส่งให้มาเรียนระดับปริญญาแต่ไร้ค่าในชีวิต ไร้ศักดิ์ศรี มาเลียนแบบเอาดี เหมือน กาหรี่หนังเอ็กส์ อย่างนี้ มันดีที่ไหน !

วกกลับมา เรื่อง ทำไมพวกผู้ชายปากหมา(น) หลายๆคนถึงออกมาต่อต้าน รณรงค์ เรื่องการแต่งกาย ของของนักศึกษา

เพราะเรารู้ ว่ามันคือที่มา ของการเสียตัว ก่อนวัยเรียน การที่น้องใจกล้า หน้าด้านปราณนี้ แต่งตัวระรี้ระริก ทั้งรัดทั้งปลิ้น ผ่าหน้าผ่าหลัง จริงอยู่มันหน้าดู มันสวย ในสายตามนุษย์เพศผู้ ที่รอการผสมพันธุ์ แต่นั่นคือ ภัย คือจุดจบของน้องๆ

การแต่งตัวยั่วยวนล่อแหลม แบบนั้น มันทำให้มนุษย์เพศชายมันคิด คิดที่อยาก อยากจะร่วมผสมสมสู่ ดูทางสายตา แล้วมันคิด มันเกิดจินตนาการ มันเกิดอารมณ์ ดังนั้น ก็เหมือนกับว่า เราเชิญชวน ในทีท่า ถามว่าทำไปเพื่อะไร ก็เจตนา การกระทำการแต่งกาย มันก็บ่งบอกอยู่แล้ว หลายคนพยายามอ้างว่า ไม่เกี่ยวกัน การแต่งตัว ไม่เกี่ยวกับการเรียน ไม่เกี่ยวกับสมอง นี่ก็คือ คำแก้ตัว เห็นได้อย่างชัดๆ เรายังไม่รู้จักคิดแบบนี้ นี่หรือ ที่อ้างว่า คือ คนดี คนมีการศึกษา เป็นปัญญา ของสังคม

เราจบออกมา เราจะเป็นปัญญาของสังคมได้อย่างไร เพราะที่เราทำได้ในขณะที่เรียนอยู่ ก็คือ สมสู่กัน เล่นกัน เที่ยวกัน มัวเมากัน อย่างเมามันส์ !

บางคนอาจคิดว่า ช่วงที่เรียน ช่วงที่ศึกษา ระดับปริญญา เด็กหนุ่ม เด็กสาว หล่อ สวย ที่สุด สนุกที่สุด ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องการหาเงิน พ่อแม่ หามาให้ ความคิดมันมีแต่สิ่งสวยงาม ไม่เครียด เรียนๆเล่นๆ เรียนไปหาผัวไป หากิ๊กไป เด็กผู้ชาย ก็จ้อง แต่จะฟันคนโน้นที คนนี้ที แล้วก็เอามาเล่า ให้เพื่อฟังว่า อีคนั้น เป็นไง นมใหญ่ หอยเหี่ยว หัวนมเขียว หัวนมยาน อีนั่น ร้องครวญคราง เหมือนหมา ยามหิวนม หรือบางคน แอบถ่าย เอามาอวดเพื่อน เอามาโชว์ทางเน็ต บางคนหนักกว่านั้น เอากิ๊กตัวเอง มาแจกมาจ่ายเพื่อน ให้มาร่วมผสมสมสู่กันเหมือนไม่ใช่มนุษย์

สุดท้าย คนที่เสียใจ คือใคร ถ้ารู้ พ่อแม่ พ่อแม่ ที่น่าสงสาร หลายหมื่น หลายแสนครอบครัว ที่ไม่รู้ว่าลูกตัวเอง ไปมั่ว หรือไปเรียน พ่อแม่สมัยนี้ ตามลูกไม่ทัน การศึกษาน้อย หรือเห็นแก่ตัว บางคน ผ่านผัวมากี่ตัว กี่ตน ไม่รู้ว่คนที่เท่าไร ทำแท้ง มานับครั้งได้ ถ้าพ่อแม่ใครคนไหน รู้ว่าเป็นอย่างนี้ จะส่งลูกมาเรียนมั๊ย ยังมีอีกมากมาย ในประเทศนี้ ที่เราต้องช่วยกันแก้ไข เปลี่ยนแปลง ให้ไปในทางที่ดี

ที่พูดที่พยายาม เอาเวลามาเขียน มาตั้งกระทู้ ถูกด่าถูกว่า หาว่าเป็นคนไม่ดี หยาบคาย ไร้การศึกษา ด่าได้ด่าดี มันหอยพี่หรืออย่างไร ก็หอยของหนู จะเป็นไร

หนูจะให้ใคร (ฟรีๆ) มันเรื่องของพี่ ที่ตรงไหน ! อือ มันก็จริง

แต่อดเป็นห่วง พ่อแม่ ที่น่าสงสาร ของคนเหล่านยี้ไม่ได้ ความหวัง ในปริญญา

ความหวังที่จะให้ลูกมีการศึกษา หาความรู้ จะได้เป็นเจ้าคน นายคน ไม่ต้องทนลำบากเหมือนพ่อแม่ แต่สุดท้าย เหมือนส่งลูกมาลง นรก ดีๆนี่เอง !!

โดย : สลับมุม!

อีเมล์ : [email protected]

วันที่ : 2005-10-11 10:33:59

http://www.mthai.com/webboard/5/153189.html

[kai]

เปิดใจคนเฝ้าร้านเน็ต  “ขอความกรุณาใช้ผ้าคลุมเข่าหากนุ่งสั้นกว่าเข่า” & “ขอร้องน้องอย่านุ่งสั้นพี่เฝ้าร้านหวั่นไหว!–พี่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเน้อ” ๕๕๕

ปัจจุบันแฟชั่นผู้หญิงมีค่านิยมชื่นชอบนุ่งสั้น(ชื่นชอบแต่งตัวโป๊+บางคนกล่าวหาว่าชอบโชว์ )แล้วจะสวยจะงาม(มีบางคนเชื่อว่าความสวยงามจะทำให้๑.สามารถเข้าสังคมโดยได้รับการเชิดหน้าชูตา+ได้รับการยอมรับ+intrend+ไม่ถูกล้อดูถูกเหยียดหยาม+ได้รับการต้อนรับการปฏิบัติที่ดีต่อตน๒.เป็นที่หมายปองของผู้ชาย ๓.จะเป็นเหตุนำมาซึ่งลาภยศสรรเสริญสุข)+ได้รับความสะดวกสบาย&ธรรมชาติของผู้ชายชื่นชอบมองหญิงผู้สวยงาม(ชื่นชอบแอบดูผู้หญิงโป๊)ทั้งหลาย ซึ่งพี่ยอมรับสภาพความเป็นไปของทั้ง๒ฝ่าย แต่พี่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้าน (คล้ายๆศอฉ.) จึงใคร่ขอความกรุณาให้ใช้ผ้าคลุมเข่าที่ทางร้านจัดให้ หรือเตรียมมาเองก็ได้(พี่บอกเธอว่าอย่านุ่งสั้นแล้วเธอไม่ทำฉันใด พี่บอกเขาว่าอย่าดูแล้วเขาก็ไม่ทำฉันนั้นแหละ...โยม)....พี่ไก่ (คนเฝ้าร้านมิใช่ไก่อู)

ความในใจ: ๑. ลูกค้าชายบางคน ชอบดู (แถมจ้องตาไม่กระพริบ มองด้วยสายตาที่ชื่นชมว่าสวยว่างาม กับ มองด้วยสายตาที่หื่นกามไม่เหมือนกันน่ะ..โยม-อนาคตอาจจะน้ำลายไหลยืด+เลือดกำเดาไหลออกทางจมูกด้วยก็ได้๕๕๕) น้องที่นุ่งสั้น (ขณะที่น้องอยู่ในร้านเน็ตสายตาน้องสนใจแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ตัวว่าถูกผู้อื่นมองอย่างสนุกสนาน สรุปก็คือน้องจะถูกมองทุกที่ทุกเวลาแต่เขาจะมองตอนที่น้องไม่รู้ตัวตอนที่น้องเผลอ น้องจึงรู้สึกว่าไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย มันมีแต่น้องมีรู้ต่างหากล่ะคร้าบ+ที่อื่นจะอยู่ในระยะห่างและเคลื่อนที่ แต่ร้านเน็ตอยู่ระยะประชิดและอยู่กับที่ แถมเวลาช่วง prime time คนจะออกันแน่นเบียดเสียดกันในพื้นที่แคบๆ) พี่เห็นแล้วมันหงุดหงิดเหนื่อยหน่ายต่อเหตุการณ์เช่นนี้+การกำราบเขาเหล่านั้น (พี่เสี่ยงต่อการถูกกระทืบ -พี่ไม่ใช่จาพนมหรือไก่อูที่จะได้มีศักยภาพในการต่อกรกับเขาเหล่านั้นได้ ในแต่ละวันๆพี่ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากต้องคอยหวาดระแวงว่าจะมีลูกค้าชายคนใดนอกลู่นอกทางบ้าง น้องนึกว่ามันง่ายนักหรือกว่าจะดูออกว่าใครมีพฤติกรรมอย่างนี้ บางคนวางท่าผู้ดีแต่ชอบดู ส่วนบางคนดูน่ากลัวกลับไม่สนใจ พี่อยู่ร้านนี้ทุกวันตั้งแต่ตื่นจนนอน น้องแต่ละคนมาแค่ชั่วคราวแล้วก็จากไป) เพราะฉะนั้นน้องต้องดูแลตัวเองบ้าง พี่แบกรักภาระการดูแลเรื่องนี้คนเดียวต่อไปไม่ไหวแล้ว (น้องลองพิจารณาดูว่า ถ้าหากพี่ไม่หาทางป้องกัน อยากดูก็ดูไป ปล่อยปละละเลย อะไรจะเกิดขึ้น??คนที่ดูก็จะยิ่งย่ามใจ ได้คืบจะเอาศอก+ค่อยๆเพิ่มดีกรีเพิ่มระดับความรุนแรงของการล่วงละเมิดขึ้นๆไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายๆไฟเริ่มไหม้ ถ้าไม่รีบดับเสียก่อน ไฟนั้นก็จะลุกลามใหญ่โตบานปลายไม่จบไม่สิ้น.....โบราณท่านว่า“อย่าเล่นกับไฟ” )

๒. น้องผู้หญิงที่นุ่งสั้นบางคน ก็มีอาการหวาดระแวงกลัวผู้ชายจะดูตัวเองที่นุ่งสั้น (แถมกลัวพี่จะดูด้วยอีกคน...จะให้ฉันทำอย่างไร...อ๊อด...อ๊อด ๕๕๕)

๓. วัตถุประสงค์ของพี่คือต้องการแจ้งให้ทราบ และจะบอกว่ามีผ้าคลุมไว้ให้บริการ หลังจากนั้นน้องต้องตัดสินใจเองว่าจะใช้หรือไม่ ( ถ้ารับไม่ได้ที่จะมีคนดูก็ควรจะใช้, ถ้ารับได้ที่จะมีคนดูก็ไม่จำเป็นต้องใช้ ) แล้วน้องก็ต้องรับผลกรรมนั้นด้วยตัวของน้องเอง ( สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม )

๔. ทั้งน้องผู้หญิงและน้องผู้ชายแทนที่จะโมโหและโวยวายในใจว่าไม่เห็นเข้าใจกับสิ่งที่พี่ทำก็ลองเปลี่ยนเป็นการพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นแล้วมาช่วยพี่หาทางแก้ไขปัญหาที่อาจจะตามมาจะดีกว่าครับ(คนที่จะมีปัญหาจริงๆกับน้องตัวจริงเสียงจริงน่ะไม่ใช่พี่แต่จะเป็นใครก็คิดพิจารณากันเอาเอง)

๕. สิ่งที่พี่กังวลและกลัวว่าการนุ่งสั้นของน้องอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาดังนี้ (น้องรู้จักแฟชั่น แต่น้องรู้จักไหมแต่งตัวโป๊น่ะมันเป็นอย่างไรบ้าง)

๕.๑ แห่กันมามืดฟ้ามัวดิน(พวกที่ชอบดูนุ่งสั้น-พวกหื่นกาม) เนื่องจากร้านพี่เป็นร้านอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวไม่มีเกมส์(ลูกค้าที่มาเล่นเน็ตส่วนใหญ่ผู้หญิงมาใช้ทำรายงาน ผู้ชายไม่ค่อยทำอะไร)น้องลองนึกภาพผู้หญิงนุ่งสั้นเต็มร้านทั้งที่มาใช้บริการเน็ต+ปริ้นท์งาน(ส่วนใหญ่ที่พี่ไปข้างนอกจะทยอยเจอนุ่งสั้นทีละคนสองคนและเคลื่อนที่ แต่นี่อยู่เต็มร้านทั้งนั่ง+ยืนแล้วอยู่กับที่)น้องก็ลองคิดพิจารณาดูว่าพวกที่ชอบดูขาอ่อนจะไม่แห่กันมามืดฟ้ามัวดินได้อย่างไร(น้องก็ลองนึกภาพงานMotorShowที่คนเขาแห่กันไปมืดฟ้ามัวดินแล้วก็แก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นใครดีใครได้ได้เอาเสียไม่เอาจะเอาแต่ได้อย่างเดียวยอมทำทุกอย่างยอมทำทุกวิถีทางไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ด้วยคาถาเพื่อให้ได้สมอยากใครจะเป็นตายร้ายดีไม่สนใจไม่ใส่ใจขอเพียงได้เข้าไปในงาน เขาคงไปดูรถกันเนอะ–พี่ว่าถ้าไม่มีPrettyงานอาจจะล้างเหมือนป่าช้าเลยก็ได้๕๕๕+น้องไม่เคยสงสัยบ้างเหรอว่าVCDโป๊-หนังสือโป๊-Pretty-Coyoty-เด็กนั่งดริงก์ เขาแต่งตัวโป๊ไปเพื่ออะไร เขาเหล่านั้นไม่มีทางเลือกมันเป็นอาชีพ แต่น้องเป็นนักเรียนนักศึกษามีการศึกษาเป็นลูกมีพ่อมีแม่และมีทางเลือก เคยถามตัวเองไหมว่าแต่งโป๊ไปเพื่ออะไร เคยนึกผลที่จะตามมาบ้างไหม เอ๊ะอ่ะอะไรก็แฟชั่น+สิทธิ์ส่วนบุคคล น้องเป็นมนุษย์ผู้มีใจสูงมีปัญญาไม่ใช่....ที่จะให้ใครจูงไปทางไหนก็ไปโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองว่าผิดชอบชั่วดี+พวกน้องรู้ตัวไหมแต่งตัวโป๊กันซะจนแทบจะทำให้VCDโป๊หนังสือโป๊ขายไม่ออก,Pretty-Coyoty-เด็กนั่งดริงก์ตกงาน

แล้วน้องเคยคิดพิจารณาบ้างไหมว่าพ่อแม่เขาเลี้ยงดูส่งเสียเราเรียนหนังสือมาจนโตเพื่ออะไร เพื่อให้เรามาแต่งตัวโป๊ยั่วตะเข้ผู้ชายบ้าผู้ชายหลงผู้ชายมั่วกับผู้ชาย มีชีวิตเพื่อแฟน ลมหายใจเข้าออกเป็นแฟน อย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่ยังแบมือขอตังค์พ่อแม่ใช้ทุกวัน ถ้าไม่มีพ่อแม่อุปการะชีวิตเธอจะเป็นอย่างไรเคยคิดบ้างไหมคงอดตายไปนานแล้ว หรือว่าส่งเสียเราเพราะคาดหวังว่าเธอจะได้มีการศึกษา รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เป็นคนดี มีความประพฤติที่ดี และมีโอกาสที่ดีในชีวิตการงาน สามารถพึ่งตนเองได้ ไม่ต้องพึ่งสามีเวลาหย่ากับสามีก็สามารถยืนบนลำแข้งตัวเองได้+เลี้ยงดูตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ในยามแก่เฒ่าไม่ใช่หรือ..เดี๋ยวปัดเหนี่ยว)

๕.๒ สภาพของร้านที่มีแต่ผู้หญิงนุ่งสั้นเต็มร้าน จะเป็นเหตุดึงดูด คนที่มีเจตนาและการกระทำไม่ดีเข้ามาที่ร้าน ซึ่งน้องมีโอกาสสูงที่จะอยู่กับที่ในระยะประชิดกับคนเหล่านั้นในสภาพที่ตัวน้องเองแต่งตัวโป๊ น้องลองคิดพิจารณาดูว่าพี่และน้องที่นุ่งสั้นที่เข้ามาใช้บริการจะอยู่อย่างสงบสุขได้อย่างนั้นหรือ? (พี่ไม่สามารถจะรู้ได้ว่าใครเป็นคนดีหรือคนไม่ดี สมมติว่าพี่จะมีญาณหยั่งรู้ พี่ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาใช้บริการได้โดยง่าย ร้านเน็ตเป็นที่รวมของผู้คนหลากหลายประเภทซึ่งแตกต่างกันมาก ทั้งอายุ ฐานะ และความเป็นอยู่ การศึกษา อาชีพ ตลอดจนนิสัยใจคอ ร้อยพ่อพันแม่ นานาจิตตัง มิใช่มีเฉพาะเพื่อนโรงเรียนเดียวกันกับน้อง มีหลากหลายโรงเรียน-พณิชยการ-มหาลัย-ช่างกล-อาชีวศึกษา ฯลฯ มิได้มีเฉพาะคนดีมีศีลธรรมกินผักกินเจบำเพ็ญเนกขัมมะ โอกาสที่จะกระทบกระทั่งกันย่อมเกิดขึ้นได้โดยง่าย จึงจำเป็นต้องระมัดระวังสำรวมตน และ เรียนรู้ที่จะดูแลระมัดระวังตนเองให้เหมาะสมกับ สถานที่ เวลา และบุคคล ที่มีระดับของความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ซึ่งพี่ต้องรับมือกับคนทุกรูปแบบ แต่คนทุกรูปแบบจะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก)

๕.๓ ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะแค่ดูและถ้ามันมากกว่าดูละ เช่น แอบถ่ายคลิป, การลวนลาม, การล่วงละเมิดทางเพศ(จากเบาไปหาหนัก) ฯลฯ

๕.๔ การทะเลาะวิวาท เช่น ผู้ติดตามจะทะเลาะวิวาทกับคนที่ดูเนื่องจากรับไม่ได้ที่อีกฝ่ายมาดูคนของตน (ปรารถนาจะเก็บไว้ดูคนเดียว๕๕๕)

๖. เรื่องที่พี่กังวลนี้เกิดขึ้นได้ไม่เลือก บุคคล สถานที่ เวลา (พระท่านว่า “ไม่ประมาท–มีสติ” +สัมปชัญญะ+ปํญญา+สมาธิ+ศีล+ทาน+มรรค๘)

๗.พี่ขอร้องน้องอย่านุ่งสั้นสูงสุดอย่างมากพี่ก็ถูกตบ แต่ถ้าพี่ขอร้องน้องอย่าไปยุ่งกับน้องนุ่งสั้นนั้นพี่อาจถูกกระทืบได้ง่ายๆน่ะคร้บ โปรดเห็นใจกันบ้าง

๘. กรณีที่น้องผู้หญิงมาปริ้นท์งานอย่างเดียว พี่ขอร้องว่าอย่านุ่งสั้นกว่าเข่าครับ (น้องมาปริ้นท์งานคนละแป๊บเดียว แต่คนละแป๊บเดียวน่ะ ส่งผลให้ร้านพี่มีน้องที่นุ่งสั้นอยู่ตลอดเวลาน่ะคร้าบ คล้ายๆ คนที่โดนรถชนก็ใช้เวลาไม่นานหรอกคร้าบ ) ไม่รักตัวเอง ก็โปรดสงสารพี่เถอะคร้าบ พี่จะได้อยู่อย่างสงบ

๙. การนุ่งสั้นแล้วอาจจะทำให้ผู้ชายหลายคนเห็นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศหลังจากนั้นก็ต้องหาทางออก(ทางระบาย)ให้กับอารมณ์ทางเพศที่เกิดขึ้น เช่น

-มีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นทั้งที่เป็นแฟน+กิ๊ก+เพื่อน+แฟนของเพื่อน+เพื่อนของแฟน+ใครก็ได้ถ้าพอใจกันทั้ง ๒ ฝ่าย ซึ่งอาจจะมากกว่า ๑ คน(แบบยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายสำส่อนทางเพศ)ถี่ขึ้น ส่งผลให้เกิดงานเข้า คือ เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์+เสี่ยงต่อการท้องแบบไม่ต้องการให้ท้อง แล้วก็ตามมาด้วยการทำแท้ง แล้วก็ถูกหลอกให้สะเดาะเคราะห์หรือตัดกรรม แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าวันหนึ่งมันจะไม่ย้อนกลับมาหาตัวเรา(เวรกรรม...เวรกรรม...เราแต่งโป๊แล้วผู้ชายคนอื่นเห็นแล้วเกิดอารมณ์แล้วไปลงกับแฟนเขา ฉันใด คนอื่นแต่งโป๊แฟนเราเห็นแล้วเกิดอารมณ์ก็มาลงกับเรา ฉันนั้น แหละโยม)

-ก่อคดีข่มขืนกับคนอื่น ทั้งที่เป็นญาติและมิใช่ญาติตน (ไม่ได้ก่อคดีกับคนที่นุ่งสั้น-แบบไม่ยินยอม-ซึ่งผู้ที่ถูกกระทำเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์+ท้อง) ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่แต่งตัวปกติใช้ชีวิตปกติ เคยมีเกิดขึ้นแล้วและจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปไม่จบไม่สิ้นแล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าวันหนึ่งมันจะไม่ย้อนกลับมาหาตัวเรา(เวรกรรม....เวรกรรม...เราแต่งโป๊แล้วผู้ชายไม่ดีเห็นแล้วเกิดอารมณ์แล้วไปก่อคดีกับคนอื่น ฉันใด คนอื่นแต่งโป๊แล้วคนไม่ดีเห็นแล้วเกิดอารมณ์แล้วมาก่อคดีกับเราก็ ฉันนั้น แหละโยม) น้องไม่เคยเห็นข่าวในโทรทัศน์หนังสือพิมพ์บ้างหรือ ยายอายุ ๗๐ upยังไม่รอดเลย แล้วน้องจะเหลือเหรอ

๑๐. ธรรมชาติของผู้ชายชอบมองผู้หญิงสวยหรือแอบดูผู้หญิงโป๊ แล้วเวลาน้องหญิงแต่งตัวโป๊ ถ้าเจอผู้ชายแค่มองอย่างเดียวก็นับว่าโชคดีไป แต่ถ้าวันใดน้องหญิงเจอคนไม่ดีเข้า เขาอาจจะไม่มองอย่างเดียวก็ได้ ส่วนน้องหญิงจะเจอเขากระทำกรรมไม่ดีขนาดไหน ก็สุดแท้แต่ว่าเธอเคยทำกรรมอะไรไว้บ้าง

(ส่วนกรณีที่น้องหน้าตาผิวพรรณบุคลิกลักษณะโหงวเฮ้งจรรยางามดูดีมีชาติตระกูล ลำพังน้องไม่แต่งโป๊ ผู้ชายบางคนเห็นก็แทบคลั่งจะตายอยู่แล้ว(อาจเสียศูนย์ในการควบคุมตัวเองไปด้วย)แถมน้องดันแต่งตัวโป๊เพิ่มเข้าไปอีก น้องคิดว่าเวลาผู้ชายทุกคนเห็นน้องแล้วจะภาวนา สวยหนอสวยหนอ พิจารณาอสุภะงั้นหรือ ผู้ชายบางคนเขาอยู่ไม่เป็นสุขหรอก แล้วเวลาน้องไปเจอะเจอคนไม่ดีหรือคนที่ศูนย์เสียการควบคุมเข้า เขาคงจะทำบางอย่างเพื่อสนองความอยากของเขาที่มากกว่าดู ชีวิตคนเราคงจะไม่มีใครโชคดีพบเจอแต่คนดีๆมีศีลมีธรรมกินผักกินเจตลอดทั้งชีวิตหรอกและไม่มีอะไรรับประกันว่าน้องจะไม่ถูกหวยเข้าในวันใดก็วันหนึ่งข้างหน้า

๑๑.ที่อื่นไม่เห็นมีปัญหาเลย ทำไมร้านพี่มีปัญหาที่เดียว?+ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร? Ans. ที่อื่นมีปัญหา(สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น)เขาจะบอกเธอหรือ? หญิงที่นุ่งสั้นถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือข่มขืนเขาจะเล่าให้เธอฟังเหรอ หรือเธอจะบอกพี่เหรอว่าตั้งแต่นุ่งสั้นมาไม่เคยเจอะเจอพวกโรคจิตเลยอย่างนั้นหรือ มีปัญหา(สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น)แล้วเธอไม่รู้ กับ ไม่มีปัญหา(ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น) กับ ไม่ยอมรับว่ามีปัญหา ไม่เหมือนกันน่ะโยม เธอลองพิจารณาดูว่าอะไรที่ทำให้พี่ลงทุนทำถึงขนาดนี้ เธอนึกว่าพี่เป็นโรคประสาทว่างงานกุเรื่องขึ้นหลอกเด็กเพื่อความสนุกสนานส่วนตนอย่างนั้นหรือเด็กฉลาด

๑๒. ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ (แล้วก็ทำตามๆกันไป) ไม่ใช่เหตุผล แต่เป็นข้ออ้างในการกระทำกรรมมากกว่า บุคคลที่มีสติปัญญาจะจำแนกแจกแจงได้ว่าอะไรเป็นแบบอย่างที่ดีควรเรียนแบบ และอะไรเป็นแบบอย่างที่เลวควรงดเว้น สิ่งที่ควรจะเป็นก็คือน้องต้องพิจารณาไตร่ตรองก่อนที่จะทำตามคนอื่น เช่นถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าควรทำก็ทำ เห็นว่าไม่ควรทำก็งดเว้นแม้จะทำไม่เหมือนคนอื่นก็ตามมันเป็นสิทธิ์ของเรา สิ่งที่ไม่ควรคือ ทำตามเขาไปทุกเรื่องโดยขาดการพิจารณาไตร่ตรองก่อนว่าควรทำหรือไม่ควรทำ + เวลาคนอื่นทำผิดเราไม่จำเป็นต้องทำผิดตามคนอื่นก็ได้ เราเป็นมนุษย์มีสิทธิ์เลือกกระทำกรรมน่ะโยม+สิ่งที่นิยมปฏิบัติมีทั้งสิ่งที่ผิดและสิ่งที่ถูก มิใช่ถูกทั้งหมด (สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติ และ สิ่งที่เป็นที่นิยมไม่จำเป็นต้องถูกเสมอไป)

๑๓.แฟชั่นไม่ใช่เหตุผลแต่เป็นข้ออ้างในการแต่งตัวโป๊ (แฟชั่นเกิดจากสติปัญญาในการแต่งตัว แต่การแต่งตัวโป๊เกิดจากหมดปัญญาที่จะสร้างแฟชั่นแล้ว)

๑๔. รู้จักแต่สิทธิ์ส่วนบุคคลของตน แต่ไม่รู้จักเคารพสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้อื่น+เคารพให้เกียรติกฎระเบียบสิทธิ์ส่วนบุคคลของสถานที่+กาลเทศะ (น้องรู้จักที่จะใช้สิทธิ์ส่วนบุคคล แต่น้องไม่เคยพิจารณาและคำนึงถึงการใช้สิทธิ์ส่วนบุคคลของน้องจะส่งผลละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของคนอื่นหรือไม่)

๑๕.ไม่ผิดกฎหมาย แต่ในความเป็นจริง ลองให้ผู้ชายแต่งโป๊เดินตามถนนบ้างซิ โดนตำรวจจับข้อหาอนาจารแน่ ๒ มาตรฐาน ไม่เห็นเท่าเทียมกันเลย

๑๖. พี่จำเป็นต้องดำเนินการป้องกันปัญหาที่จะตามมาไว้ก่อนนั้น น้องก็ไม่เข้าใจ รับไม่ได้ ไม่อยากรับทราบ พี่คิดไปเองหรือเปล่า พี่บ้าหรือเปล่า แต่ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นเมื่อไหร่ น้องต้องพูดว่าพี่ปล่อยให้เขาทำกับหนูอย่างนี้ได้ยังไงไม่เห็นพี่ทำอะไรเลยไม่เห็นพี่บอกอะไรหนูเลยหนูจะได้เพิ่มความระมัดระวังตัวให้ดีกว่านี้(ตอนยังไม่เกิดเรื่องพี่เตือนน้องผู้ปกครองของน้องก็จะว่าพี่ว่ามายุ่งอะไรกับลูกฉันฉันเป็นผู้ปกครองยังสั่งลูกฉันให้ไม่ใส่สั้นไม่ได้เลยแล้วคุณเป็นใครแต่ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นเมื่อไหร่ผู้ปกครองของน้องก็ต้องมาชี้หน้าด่าทอพี่เสียๆหายๆต่างๆนานาว่าเป็นผู้ใหญ่ไม่ดูแลเด็กเลยทำไมไม่ว่ากล่าวตักเตือนน้องเขาล่ะน้องเขาจะได้ปลอดภัย)

๑๗.ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นมาเมื่อไหร่ตัวน้องผู้หญิงเองนั่นแหละที่จะเป็นผู้เสียหายและพี่เองก็จะเดือดร้อนตามไปด้วย เช่นอาจถูกสั่งปิดร้าน หรือถ้าโชคดีไม่ถูกปิดร้านน้องคิดว่าจะมีน้องผู้หญิงกล้าเข้ามาใช้บริการอีกหรือ? แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น?(มีอะไรก็โทษร้านเน็ตไว้ก่อน โทษคนเฝ้าไว้ก่อน เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ดูแลตักเตือนเหมือนลูกหลานตัวเองปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไรโดยไม่ทำอะไรเลย แต่หลงลืมไปว่าตนเองไม่เคยคิดที่จะโทษตนเองเลยสักนิดเดียว)

๑๘. พี่ไม่ได้เรียกร้องให้น้องเลิกนุ่งสั้น ไม่ได้มีความประสงค์จะละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของน้อง แต่สิ่งที่พี่ต้องการคือความสงบสุขในชีวิตของพี่-ในร้านที่พี่ดูแลอยู่ รวมถึงความปลอดภัยของน้องขณะที่อยู่ในร้านแค่นั้นเอง (ถ้าพี่ทำอะไรผิดก็บอกพี่ได้น่ะพี่จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุงตัว+พี่จะได้รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร)

๑๙. พี่เชื่อว่าถ้าน้องเข้าใจในสิ่งที่พี่ทำน้องจะให้ความร่วมมือกับพี่เพราะสงสารที่ต้องมาแบกรับชะตากรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ(พี่ไม่ได้โมโหที่น้องนุ่งสั้นแต่พี่โมโหในผลที่อาจตามมาแล้วส่งผลให้พี่เดือดร้อนพี่อยู่ไม่เป็นสุขเลยไม่รู้ว่าจะถูกหวยตอนไหน ลองสมมติตัวเองมาเป็นพี่บ้างซิต้องผจญกับพวกหื่นกามน่ะ)

๒๐. ถ้าหากน้องหญิงพร้อมใจกันทำเหตุ (นุ่งสั้นทุกคน) สักวันหนึ่งจะต้องมีผู้โชคร้ายได้รับผลกรรมจากกการที่ทุกคนก่อกรรมเอาไว้ และจะส่งผลถึงพี่ด้วย และถ้าน้องหญิงพร้อมใจกันไม่ทำเหตุ (ไม่นุ่งสั้นหรือใช้ผ้าคลุม) พี่เชื่อว่าที่นี่จะปลอดภัยมากกว่าปล่อยไปตามยถากรรม (ยังไงก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง)

๒๑. มันไม่ผิดหรอกที่ผู้หญิงต้องการความสวยงาม(แต่มันน่าจะมีวิธีสวยงามที่ดีกว่านี้)&มันไม่ผิดหรอกที่ผู้ชายจะชอบมองผู้หญิงที่สวยที่งาม(แต่มันควรจะมีมารยาทในการมองไม่ให้มันน่าเกลียดจนเกินไป+ควรจะมองเฉพาะคนที่เขาอยากให้เรามอง)&มันไม่ผิดหรอกที่พี่จะดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้าน(แต่เราควรจะเรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง+รู้จักผู้อื่น และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคม ไม่ควรจะมาเบียดเบียนกัน+สร้างความเดือดร้อนซึ่งกันและกัน)

๒๒. ก็น่าแปลกดีที่ลึกลงไปภายในจิตใจของผู้ที่รักและหวังดีอย่างแท้จริงของหญิงเหล่านั้น เช่น พ่อแม่ครูบาอาจารย์ญาติสามีลูก มิได้เห็นดีเห็นงามกับการกระทำของเธอ ซึ่งเธอเหล่านั้นก็รู้ดี แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ตนเอง ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของคนที่เขาหวังดีอย่างแท้จริงก็ยังคงฝืนดันทุรันทำกันไปได้

๒๓. การกระทำกรรมซ้ำๆ บ่อยๆ จะกลายเป็นความเคยชิน แล้วความเคยชินจะกลายเป็นสันดาน แล้ววันหนึ่งน้องจะนุ่งสั้นเพราะความเคยชิน

๒๔. วันใดน้องโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ถึงวัยออกเรือน แล้วเกิดน้องมีลูกสาวแล้วน้องอาจจะพบสัจธรรมในชีวิตบ้างก็ได้ แค่อาจจะน่ะ เวรกรรม เวรกรรม

สรุป ๑. คนหนึ่งชอบแต่งตัวโป๊เป็นชีวิตจิตใจ+อีกคนหนึ่งชอบดูคนโป๊เป็นจิตวิญญาณ แล้วมันจะสงบสุข ไม่มีปัญหา ไม่สร้างความเดือดร้อนได้อย่างไร

๒. “การที่ผู้หญิง (ไม่มียางอาย) แต่งตัวโป๊ (จะเป็นเหตุยั่วราคะผู้ชายให้เกิด-ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ ) เป็นสิ่งที่ผิดและไม่ปกติไม่ธรรมดา เป็นเรื่องน่าละอาย ได้กลับกลายเป็น(ผู้หญิงไม่แต่งตัวโป๊อายเพื่อนกลัวถูกเพื่อนล้อว่าNerd!)สิ่งที่ถูกต้องดีงามและเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

๓. “การที่ผู้หญิงแต่งกายไม่เหมาะสม ปรากฏต่อสาธารณะ เป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทางสังคมเกี่ยวกับการกระทำผิดเรื่องเพศ ”…… (เคยทราบบ้างไหม?)

๔. สังคมในปัจจุบันไม่มีความรู้(ไม่รู้-อวิชชา)ความสามารถในการแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ (ไม่รู้ว่าอันไหนเป็นทาง อันไหนไม่ใช่ทาง ไม่รู้ทางไหนเจริญ ทางไหนเสื่อม ไม่รู้ว่าทางไหนทุกข์ ทางไหนสุข ไม่รู้ว่าอะไรเป็นบาป อะไรเป็นบุญ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษ ไม่รู้ว่าอะไรมีสาระ อะไรไม่มีสาระ ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปผลที่ตามมาอย่างแท้จริงจะเป็นอย่างไร ไม่รู้อะไรสักอย่างในชีวิต(อย่างแท้จริง) ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม-เกิดมาเพื่อสนองความอยากไปวันๆเพียงแค่นั้นเองหรือเกิดมาชาติหนึ่ง? ไม่รู้ว่าเกิดมาแล้วควรจะไปทางไหนดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นทางดับเหตุให้เกิดทุกข์ ไม่รู้ว่าตัวเองว่ายอยู่ในทะเลทุกข์วนเวียนอยู่ในสงสารวัฏฏ์นานชั่วกัปชั่วกัลป์ + เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ยินแล้วไม่มีใครพูดถึงแล้ว-กุลสตรี-หิริโอตตัปปะ-ศีล-มนุษย์ผู้มีใจสูง-นรก-สวรรค์-นิพพาน-ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม-กฎแห่งกรรม-อริยทรัพย์-มักน้อย-พอเพียง-แบ่งปัน-ไม่แก่งแย่งแข่งขันกัน-น้ำใจ-เอื้ออาทรต่อกัน-หวังดีต่อกัน-เมตตาต่อกัน-การให้อภัย -ทาน) แล้วพอกระแสสังคมที่เชี่ยวกรากมีความเห็นผิด( เห็นกงจักรเป็นดอกบัว )ก็ก่อให้เกิดการประพฤติผิดแล้วก็ก่อให้เกิดทุกข์+ปัญหาสังคมต่างๆตามมา โดยที่เขาเหล่านั้นไม่รู้ตัวว่าตนเองมีความเห็นและความประพฤติผิดแล้วก็ไม่รู้ว่าความเห็นผิดและความประพฤติผิดของตนสร้างทุกข์สร้างปัญหาให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างไร จึงส่งผลให้เราอยู่ในสังคมที่วิปริต ถ้าเราไม่วิปริตตาม(ไม่ทำตามที่คนอื่นเขาทำกัน+ไม่ทำตามๆกันไป )ก็จะไม่สามารถเข้าสังคมเข้าพวกได้คือไม่ได้รับการเชิดหน้าชูตาในการเข้าสังคมแถมได้รับความอับอายในการเข้าสังคมกลายเป็นคนแปลกแยกไม่มีที่ยืนในสังคม+เป็นคนบ้า เพราะว่าทำไม่เหมือนชาวบ้านที่เขาทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ถ้าบ้าในสิ่งที่ถูกที่ชอบที่ควร-ในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร มันก็สมควรจะบ้าไม่ใช่หรือ(คล้ายๆกับว่าคนในสังคมกำลังพากันเดินไปในทางที่จะตกเหว แล้วเรายังจะหน้ามืดตามพวกเขาไปอีกหรือ?...โยม+หนอนเห็นอึดีงามฉันใด คนเห็นผิดย่อมเห็นว่าดีงามฉันนั้น)

๕. ถ้าให้เลือกระหว่าง อายที่จะแต่งตัวโป๊ กับ อายที่ไม่ได้ทำตามกระแสสังคม คุณจะเลือกอายแบบไหน??? (ควรจะละอายชั่วเกรงกลัวต่อบาป)

๖. เด็กเกิดมาไม่รู้ว่าถ่านที่ติดไฟมันร้อน ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน ทำได้แค่เตือน (แต่ความที่เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้อะไรเลย แต่หลงตนว่ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง...)

๗. ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะคิดพูดทำได้แล้วการกระทำของเราจะกำหนดชะตาชีวิตของเราว่าจะดีหรือร้าย.....เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

“ความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่น่าวิตกคือ ทุกวันนี้ความคิดอ่านและความประพฤติหลาย ๆ อย่าง ซึ่งแต่ก่อนถือว่าเป็นความชั่วความผิด ได้กลายเป็นสิ่งที่คนในสังคมยอมรับ แล้วพากันประพฤติปฏิบัติโดยไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนจนทำให้เกิดปัญหา และทำให้วิถีชีวิตของแต่ละคนมืดมนลงไปข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นหน้าที่ของชาวพุทธจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง แต่ละท่านแต่ละฝ่ายต้องยึดหลักการให้มั่นคงที่จะไม่ทำสิ่งใดๆ ที่ชั่ว ที่เสื่อมต้องกล้าและบากบั่นที่จะทำแต่สิ่งที่เป็นความดี เป็นความถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อให้ผลความประพฤติปฏิบัติชอบบังเกิดเพิ่มพูนขึ้นและค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมทรุดลง หากให้กลับฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็น ลำดับ” ................................(พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ที่ประชุมสมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ ๓๖ วันที่ ๑๘ พ.ย. ๒๕๓๒ )

คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใส่สั้น

คนจะสวย

คนจะแก่

คนจะรวย สวยจรรยา

แก่ความรู้

รวยศีลทาน ใช่ตาหวาน

ใช่อยู่นาน

ใช่บ้านโต คนจะสวย

คนจะแก่

คนจะรวย สวยจรรยา

แก่ความรู้

รวยศีลทาน ใช่สายเดี่ยว

ใช่อยู่นาน

ใช่บ้านโต

 เด็กไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่หมดเท่าไหร่ก็ไม่ว่า ขอให้รักษาหน้าตาไว้ได้ ฉันใด มนุษย์เป็นสัตว์สังคมย่อม

ผู้ใหญ่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กผู้หญิงหมดเท่าไหร่ก็ไม่ว่า ขอให้ฉันสวยฉันงาม ฉันนั้นแหละ.......โยม ต้องการได้รับการเชิดหน้าชูตา

 ผู้ใหญ่เห็นว่าเงินทอง ดีงามกว่า ความประพฤติดีประพฤติชอบ ฉันใด ไม่ต้องการการดูถูกเหยียดหยาม

เด็กก็เห็นว่าการสวยงามที่ไม่เหมาะสม ดีงามกว่า จิตใจ+ความประพฤติสวยงาม ฉันนั้นแหละ.......โยม ในการเข้าสังคมทุกที่ทุกเวลา

 น่าแปลก+สงสัยว่า การนำรูปโป๊มาติดในบ้าน ไม่มีใครเขาทำกัน เห็นแล้วรู้สึกรับไม่ได้ แต่คนแต่งตัวโป๊ เขาทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง เห็นแล้วรู้สึกเฉยๆ+สวยดี

ถาม อยากทราบว่าการนุ่งสั้น บาปไหมค่ะ??? ( อยากทราบว่าการใส่กางเกงขาสั้น ใส่กระโปรงสั้น หรือใส่เสื้อผ้า เช่นสายเดี่ยวบาปไหมค่ะ )

คำตอบ พิจารณาว่าการแต่งกายของเราทำให้ผู้ที่มองเราเกิดกิเลส(ราคะ)หรือไม่ถ้าการแต่งกายของเราเป็นเหตุที่ไปกระตุ้นราคะของผู้อื่นให้กำเริบก็จะเป็นบาป

เกาหลีใต้เตรียมแบนดาราวัยรุ่นหญิงแต่งโป๊

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังออกมาตรการห้ามดารานักร้องวัยรุ่นหญิงแต่งตัวโป๊ถ่ายทำรายการที่ออกอากาศก่อน 4 ทุ่ม โดยมาตรการดังกล่าว ได้รับการเสนอจากกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศแห่งเกาหลี หลังจากเห็นว่าในปัจจุบันมีดารานักร้องหญิงอายุเพียง 13-15 ปี ถูกบริษัทต้นสังกัดวางคอนเซ็ปท์ให้พวกเธอแต่งตัวเป็นสาวเกินวัย ทั้งนี้ ถ้าหากทางกระทรวงเห็นว่ายังมีดารานักร้องหญิงวัยรุ่นแต่งตัวไม่เหมาะสมอีก ก็จะไม่อนุญาตให้รายการนั้นออกอากาศก่อนเวลา 4 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาก่อนเข้านอนของเด็กวัยรุ่นเกาหลีส่วนใหญ่ เพราะเกรงว่าการแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสาของดารานักร้องวัยรุ่นหญิง จะกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในวัยเลียนแบบดารานักร้อง http://women.kapook.com/view18662.html

ดูเหมือนจะเป็นการสนองนโยบายของทางการนครเวียงจันทน์ (ประเทศลาว) ที่ประกาศห้ามไม่ให้นำเข้า ผลิตและซื้อขาย เสื้อสายเดี่ยวโชว์โค้งโชว์เว้า รวมทั้งกางเกงขาสั้นเหนือเข่าตัวจิ๋วรัดติ้วทั้งหลายทั้งปวงในช่วงที่ผ่านมา นิตยสาร "มหาชน" รายเดือนฉบับใหม่นี้ ได้นำสาวน้อยหน้าใสโรงเรียนนานาชาติมาแต่งสวยขึ้นปก และ สวยโดยไม่ต้องนุ่งสั้น http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000169847

หมายเหตุ : หากมีข้อผิดพลาด หรือ ส่วนใดไม่เป็นความจริง โปรดแจ้งที่ [email protected] ขอบพระคุณครับ (ฉบับสมบูรณ์ – มีปัญญาเรียบเรียงได้เท่านี้)