คำว่าพอ สำหรับแต่ละคน คงนิยามยาก
ตัวอย่างคร่าว ๆ ของเรา
เงินเดือนได้มา แบ่งเป็นเงินออม30%
ค่ากินอาหาร ค่ายา ขนม เครื่องดื่ม30%
เงินใช้สอยหลักเช่นเสื้อผ้า ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์อีก30%
ส่วนที่เหลืออีก10% เป็นเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด หรือเงินค่า สังคม เงินสมทบทำบุญฯลฯ
เวลาจะเที่ยว หรือใช้เงินนอกเหนือจากนี้ อาจขยับเปลี่ยนแลกกันกับเงินอีกก้อน
เช่น เดือนนี้ปิดเทอม มีรายการดูหนังและเที่ยวเพิ่มมา เราก็ลดการใช้จ่ายส่วนเสื้อผ้า ไฟฟ้า เราสามคนพร้อมใจกันเปิดเครื่องปรับอากาศน้อยลง ปิดการใช้เร็วขึ้น
และลดการใช้โทรศัพท์
เราทำอย่างนี้ตั้งแต่ลูกรู้ความ เข้าใจเหตุผล
เมื่อเราคิดว่า พอ
เราให้ส่วนที่เกินความต้องการของเราเผื่อแผ่ออกไปที่คนอื่นบ้าง
คนอื่นคงได้ใช้เกิดประโยชน์
เช่นบริจาคเป็นเงินทุนการศึกษาแก่เด็กยากจนขององค์กรที่เราดูแล้วว่า น่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ
ผลกำไรที่งอกจาก การเผื่อแผ่ออกไป คืนกลับมาหาเราโดยไม่รู้ตัว และมากเกินกว่าต้นทุนด้วยซ้ำไป
เรา หมายถึงพ่อและแม่ของลูก อธิบายแก่ลูกว่า อาจไม่ได้กลับคืนมาที่ตัวเราโดยตรง แต่ กลับคืนมาที่สังคมที่เราอยู่
เช่น เด็กที่ขาดโอกาสในการศึกษาได้รับการศึกษา โตขึ้นหรือเมื่อจบการศึกษาเขาจะเป็นคนที่มีคุณภาพ ประกอบกิจการงานอันเกิดคุณูปการแก่สังคม ประเทศ ซึ่งก็ส่งผลแก่ประเทศไทย แก่ครอบครัวเราซึ่งเป็นหน่วยย่อยของสังคมใหญ่อย่างประเทศอีกทอดหนึ่ง
หรือที่เห็นเป็นรูปธรรมครั้งหนึ่งเช่น แม่ให้ลูกอ่านเรื่องเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเรียนจบแพทยศาสตร์จากเงินของมูลนิธิที่พ่อและแม่เคยบริจาค
แม่เคยได้ยินพ่อเล่าให้ลูกฟังว่า
"รู้หรือไม่ว่า แม่ของลูก เขาเคยได้รับทุนการศึกษาสมัยเด็ก ๆ ในฐานะเด็กที่เรียนดีแต่ฐานะยากจน มาก่อน"
"และแม่เขาพยายามเขียนเรียงความประกวด ชิงทุนการศึกษา"
...
เราไม่อาย อยากเล่าให้ลูกฟังซ้ำหลาย ๆ หนด้วย
ซึ่งเป็นจุดจุดหนึ่งที่อยากได้นำมาจัดกิจกรรมแบบเดียวกันนี้ในโรงเรียนเล็ก ๆ ของจังหวัดนครปฐม
เกิดเป็น โครงการเด็กดีศรี...
และกำลังริเริ่ม โครงการเขียนเรียงความดีดีมีรางวัล
...
ปิดเทอมนี้เราสามคนไม่ได้ว่ายน้ำในสระด้วยกัน เพราะพ่อกับลูกเลือกไปเรียนเทนนิสพร้อมกัน
แต่สมัยที่แม่สอนว่ายน้ำให้ลูกตั้งแต่ลูกยังเล็ก แม่จำได้ว่าเคยเล่นต่อสู้กับลูกในน้ำด้วยการใช้สันมือและท่อนแขน ผลักน้ำเข้าสู้กัน
ลูกเป็นคนสังเกตเห็นว่า ปริมาณน้ำที่เราใช้วักเข้าหาตัวและใช้แขนผลักออกนั้นมันต่างกัน
ลูกบอกแม่ว่า
ตอนเอามือวักน้ำเข้าหาตัว น้ำปริมาณเพียงนิดหนึ่งจะกระทบตัวแล้วกระเด็นออกไป
แต่ถ้าเอาท่อนแขนผลักน้ำออกจากตัว ให้เป็นวงกว้าง ๆ น้ำที่เป็นวงกว้างแผ่รัศมีออกจากตัวเราไปนั้น สักพักน้ำส่วนหนึ่งนั้นจะตีวงสะท้อนกลับมาเข้าหาตัวผู้ผลัก ด้วยปริมาณน้ำที่มากกว่าการวักน้ำเข้าหาตัวเรา
และน้ำส่วนนั้นจะวกกลับมาหาเราเสมอ
....
อรุณสวัสดิ์ตอนสาย ๆ ค่ะ
ภูสุภา
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
เป็นบันทึกที่ให้ข้อคิดได้ดีมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกที่มีคุณค่าบันทึกนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
สังเกตและเปรียบเทียบได้อย่างแยบยลดีจังคะ -- ไม่ได้ว่ายน้ำนานแล้ว แต่คิดตามก็ จริงด้วย :-D
ฟังเรื่องที่คุณพ่อเล่า ลูกน่าจะภูมิใจที่คุณแม่เป็นคนอดทน สร้างตัว ด้วยสมองและสองมือ แล้วยังมีกตัญญูตอนแทนกลับสังคมด้วยคะ
ตอนเอามือวักน้ำเข้าหาตัว น้ำปริมาณเพียงนิดหนึ่งจะกระทบตัวแล้วกระเด็นออกไป
แต่ถ้าเอาสันแขนผลักน้ำออกจากตัว ให้เป็นวงกว้าง ๆ น้ำที่เป็นวงกว้างแผ่รัศมีออกจากตัวเราไปนั้น
สักพักน้ำส่วนหนึ่งจะกลับมาหาตัวผู้ผลัก ได้ปริมาณน้ำที่มาก
กว่าการวักน้ำเข้าตัว และน้ำส่วนนั้นจะวกกลับมาหาเราเสมอ
ครบรอบหนึ่งปีพอดี สำหรับบันทึกเก่านี้
ขอบคุณน้องศิลา ค่ะ
เดี๋ยวพี่เพิ่มคำสำคัญ happy family ค่ะ
วันนี้ออกเดินเที่ยวลอนดอนกับเพื่อนกรีกโดยไม่ใช้เงินแม้สตางค์แดงเดียว
เกิดความคิดเขียน ย่ำลอนดอนอย่างย่อมเยา ประมาณนี้ค่ะ