ของเหลวไหลจากที่สูงก็ต้องไหลไปในที่ต่ำ หรือที่ลุ่มเป็นธรรมดา น้ำเป็นของเหลว โคลนก็เป็นของเหลวเช่นกัน ปัญหาน้ำท่วมน่านเริ่มจากวันที่ 19 สิงหาคม 2549 มีปริมาณน้ำฝนตกพื้นที่จังหวัดน่าน บริเวณต้นน้ำมากถึง 250 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลบ่ามาพร้อมกับโคลนจำนวนหนึ่งท่วมหลายพื้นที่ ทางราชการประกาศพื้นที่เสียหาย จำนวน 11 อำเภอและอีก 1 กิ่งอำเภอ การท่วมของแม่น้ำน่านครั้งนี้เท่าที่เห็นด้วยสายตาตัวเอง เห็นว่าบริเวณเขตเทศบาลเมืองน่าน เสียหายจำนวนมาก สำหรับพื้นที่อำเภอท่าวังผาได้ชมจากโทรทัศน์และเห็นภาพข่าวในอินเตอร์เน็ต ยังไม่ได้เดินทางไปเห็นด้วยสายตาเร็ว ๆ นี้จะเดินทางไป
เมื่อเย็นวันที่ 24 สิงหาคม 2549 พบสตรีท่านหนึ่งที่วิทยาลัยสารพัดช่างน่าน เธอไปรับรถจักรยานยนต์พร้อมกับลูก ๆ หลาน ๆ ที่ซ่อมเสร็จ เธอเล่าว่า มีอาชีพเปิดร้านเสริมสวย ความเสียหายครั้งนี้ทำให้เธอเครียด ไม่ได้รับสิ่งของแจกเลย ยังได้ต่อว่ากับทางเจ้าหน้าที่อีก เพราะเธออยู่ลึกกว่าของแจกจะถึงเธอก็หมด เจ้าหน้าที่จะแจกสำหรับผู้เดือดร้อนต้น ๆ ซอย และของแจกจำนวนหนึ่งผ่านทางผู้นำ เธออยู่ไกลเมื่อผู้นำประกาศพวกที่อยู่บ้านใกล้ผู้นำจะมารับ กว่าที่เธอจะไปถึงสิ่งของที่มีผู้บริจาคมาจากมูลนิธิ สมาคม องค์กรสาธารณกุศลหมดอีก แม้แต่เสื้อผ้าก็ได้ที่สวมใส่อยู่นอกนั้นเสียหายหมด รวมถึงอุปกรณ์ทำกินที่เธอใช้ทำมาหากิน รู้สึกสลดใจ !!!
ก่อนหน้าน่านสร้างกระแสปลูกยางพารา ทดแทนไร่ข้าวโพด ไร่ข้าวโพดชาวบ้านจะปลูกบริเวณดอย ที่สูงชัน เคยได้ยินจากผู้รู้ เราเองไม่ได้เป็นผู้มากประสบการณ์ เล่าว่า เคยมีปัญหาจากการปลูกยางพาราบนดอยจะทำให้ดินไหลเลื่อนภายหน้า ไม่มีใครกล้าต้านกระแสที่เขาอยากรวย
จนเมื่อวันที่ 22-23 มิถุนายน 2549 มจ.ภัศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เสด็จจังหวัดน่าน ทรงสนทนากับเกษตรที่ปลูกยางพาราไว้บนดอยว่า ไม่มีพืชอื่นแล้วหรือ ? ( นายเสถียร ชาติพงศ์ ให้ข้อมูลว่าปัญหาโคลนถล่มที่ อ.ฉวางฯ เกิดจากปัญหายางฯ ที่เจ้าของตัดต้นยางเดิมแล้วทำลายราก ๆ ในดินเป็นโพรงอุ้มน้ำกลายเป็นโคลนถล่มสร้างความเสียหายจนเกิดเหตุการณ์สลดใจ !!! ) วันที่ 1 กรกฏาคม 2549 ท่านเสด็จน่านอีกพร้อมกับปลัดกระทรวงเกษตร ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เราทราบมาว่าวันที่ 24 มิถุนายน 2549 มจ.ภีศเดช รัชนี มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลถวายรายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับเรื่องการปลูกยางพาราบริเวณดอย ด้วย
จึงวิงวอนและขอพึ่ง ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเสนอให้ผู้รู้โปรดอย่าดูดาย เพราะว่า น่านภายหน้าจะได้ไม่มีเหตุสลดซ้ำจากการลื่นไหลของดินโคลน สำหรับปริมาณน้ำมากจากฝนตกพอทำใจได้ แต่หากของเหลวเป็นดินโคลนไหลจากเหนือน้ำเข้ามาแทนที่น้ำหลับตานึกดู จะเกิดเหตุสลดใจ !!! ขึ้นมากที่สุด.
ขอบคุณครับที่นายบอน! มาลงข้อความให้กำลังใจชาวน่าน
มีข้อมูลกำเนินยางพาราในไทย ตามลิ๊งค์ต่อไปนี้ http://gotoknow.org/blog/ima493409/46550