ระบบเศรษฐกิจชุมชน เมื่อมองจากภายนอกก็อาจเป็นเพียงการผลิตเพื่อบริโภคและขาย อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างปนกัน แท้ที่จริงแล้วระบบเศรษฐกิจในชุมชนในชนบทของไทย มีกิจกรรมที่จำเป็นต้องปฏิบัติแทรกอยู่ที่คนภายนอกจากต่างระบบวัฒนธรรมอาจมองไม่เห็น ก็คือการให้ แจกจ่าย ทำบุญ ทำทาน ในเบื้องต้นที่จำเป็นต้องมีเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางสังคม และฐานทรัพยากรแห่งการพึ่งพิงซึ่งกันและกัน ต่อจากนี้ก็จะเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อชดเชยทรัพยากรที่ยังจำเป็นต้องใช้ แต่ไม่มีในระดับครัวเรือนหรือชุมชน แต่ส่วนใหญ่จะเน้นในระดับชุมชนต่างถิ่นมากกว่า เพราะในชุมชนเดียวกันจะเป็นการแจก หรือทำทานมากกว่าการแลก การแลกนี้ถือเป็นระบบการขยายฐานทรัพยากรให้กว้างขวางขึ้นไปอีก ซึ่งทำให้เกิดการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะการและเปลี่ยนทำให้ได้เพื่อน อาจจะน้อยกว่าการแจก แต่ก็ดีกว่าการขาย การทำเช่นนี้เป็นระบบเดิมของชุมชนที่เข้มแข็งมาจากฐานราก ที่ทางเครือข่ายปราชญ์กำลังพัฒนาอยู่อย่างเอาจริง
เมื่อมีการพัฒนาเศรษฐกิจแบบค้าขายขึ้นมา ได้เป็นตัวบั่นทอนความเข้มแข็งของระบบฐานทรัพยากร มุ่งการขายให้ได้กำไรมากๆ ซื้อในราคาต่ำสุด ที่ต้องกดขี่ และเอาประโยชน์ให้ได้มากที่สุด คนที่ไม่มีอำนาจต่อรองก็มีแต่จะเสียเปรียบตลอดเวลา แม้จะขาดทุนก็ต้องยอมเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ประเด็นนี้เป็นสาเหตุแห่งความล่มสลายของระบบเศรษฐกิจ ที่มีอำนาจต่อรองน้อย ดังที่เป็นอยู่ในชนบทไทย ฉะนั้นการย้อนกลับมาพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริจึงเป็นช่องทางที่สำคัญที่จะทำให้เกิดความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจจากฐานราก และเข้มแข็งต่อเนื่องไปทั้งระบบ ถึงแม้จะมีการค้าเติมเข้ามาก็จะไม่ทำให้ระบบอ่อนแอ เพราะพึ่งตนเองได้และมีอำนาจต่อรอง ถ้าเสียเปรียบก็อาจจะไม่ขายก็ได้ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาบนฐานรากวัฒนธรรมไทย
ขอบคุณครับ ประเด็นสำคัญของผมก็คือ เราต้องพัฒนาจากแกนในออกมาหาแกนนอก ไม่ใช่ก้าวกระโดด จากทำกินแล้วก็เหลือขาย ซึ่งทำให้ระบบสังคมอ่อนแอ ขาดความเชื่อมโยงและพัฒนาการทางสังคม และฐานทรัพยากร ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความล้มเหลวในสังคมไทยปัจจุบัน
ระบบเศรษฐศาสตร์เป็นรูปโปสเตอร์
ก็ระบบการทำมาหากิน การเป็นอยู่ในระดับชุมชน ครับ
ว่าเขามีระบบอะไรบ้างที่ต้องพึ่งพิง
รวมปัจจัยต่างๆก็จะเป็นระบบที่ต่างกันในแต่ละชุมชน
นี่คือหลักการเบื้องต้นครับ