Blog แอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ บนระบบอินเทอร์เน็ต ตัวผมเองเคยเข้าไปอ่าน blog ของคนรู้จักหลายคน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ (มากกว่าร้อยละ 90) เขาก็เป็นสมาชิกกันที่ www.blogger.com แหล่งชุมนุมชาว blog ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอินเทอร์เน็ต อ่านไปหลายๆ ครั้งเข้า ก็เริ่มรู้สึกชอบใจในแนวคิดของแอพพลิเคชั่นนี้ และอยากมี blog เป็นของตัวเองบ้าง ผมเป็นคนชอบ "คิด" มากกว่า "เขียน" และมีความเชื่อว่าถ้า "คิด" มากๆ สมองได้ทำงาน จะทำให้ไกลจากโรคอัลไซเมอร์ (ผมกลัวโรคนี้มากกว่าการมีอายุไม่ยืนเสียอีก)
การอยากมี blog เป็นของตัวเองของผมเจออุปสรรคที่แปลก (แต่ผมก็ชอบนะ) ผมเข้าไปที่เว็บไซด์ www.blogger.com เพื่อจะสมัครสมาชิก แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดบราวเซอร์ของผมแสดงหน้าตาตัวอักษรเป็นภาษาญี่ปุ่น ทำให้ผมอ่านไม่ออกว่าจะสมัครสมาชิกต้องทำอย่างไร คลิกตรงไหน หลังจากใช้เวลาอย่างระยะหนึ่งเพื่อหาสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น (แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม) ผมก็ได้อ่านเจอการประชาสัมพันธ์ของชุมชนแห่งนี้ หลังจากเข้ามาศึกษารายละเอียดต่างๆ ก็พบว่า มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่คนไทยกลุ่มหนึ่งมีความต้องการสร้าง knowledge base โดยอาศัย blog เป็นเครื่องมือ เพื่อ "ดึง" เอาความรู้ที่อยู่ในรูปของ "ความคิด" มาเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ "เห็น" "จับต้อง" และ "แบ่งปัน" กันได้ ต้องขอขอบคุณผู้สร้างสรร ทีมงานทุกคนที่ช่วยกันทำให้เกิดขึ้นมาได้ โดยส่วนตัวผมเห็นว่า เขาเหล่านั้นได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติแล้ว หวังว่าสักวันหนึ่งผมอาจทำได้บ้าง
Knowledge Base เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมชอบ "คิด" กลวิธีที่ทำให้ประเทศเกิดใหม่ สามารถล้ำหน้ากว่าประเทศที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า ก็คือ ความรู้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คนในประเทศเห็นความสำคัญของความรู้และรวบรวมให้เป็นรูปธรรมได้ เมื่อนั้นจึงจะเรียกได้ว่าเรามีเครื่องมือที่จะแข่งขันกับผู้อื่นๆ
ผมประสบความสำเร็จในการสมัครสมาชิกที่ชุมชนนี้ แน่นอนว่าคุณคงรู้ตั้งแต่อ่านบรรทัดแรกแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ขอเพิ่มเติมว่า นี่เป็น blog แรกของผม และหวังว่าจะเป็น blog เดียวของผม หลังจากนี้ผมจะ "คิด" ให้ดังกว่าในอดีต
** Thank you and Welcome everyone who want to know a little thing from me...
เพิ่งเข้ามาวันนี้เองค่ะ..โดยบังเอิญ..ยอมรับว่าการใช้knowledge base โดยผ่าน blog มีประโยชน์มหาศาล เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้อันไม่รู้จบ
คิดว่าโอกาสหน้าก็จะหา blog เป็นของตัวเองบ้าง