ลักษณะเชิงกลยุทธ์ของการวิจัยเชิงคุณภาพ
วันนี้ขอสรุปเนื้อหาที่อาจารย์นันทิยา หุตานุวัต มอบหมายให้ไปอ่านตำรา "ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ" (ชาย โพธิสิตา: 2549) ในหัวข้อ "ลักษณะเชิงกลยุทธ์ของการวิจัยเชิงคุณภาพ" ดังนี้
1. เป็นการวิจัยที่ทำในสถานการณ์ที่เป็นธรรมชาติ (Natural Setting)
- เป็นการศึกษาพฤติกรรมหรือปรากฏการณ์ในขณะที่สิ่งเหล่านั้นกำลังดำเนินอยู่ตามสภาพธรรมชาติ นักวิจัยจะเฝ้าสังเกตและจดบันทึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและดำเนินไปแบบ "สดๆ"
- สถานการณ์นั้นต้องไม่ถูกแต่งเติมเสริมแต่ง (จัดฉาก)ตามความต้องการของนักวิจัย
- วิธีการได้มาของข้อมูลควรมีลักษณะปลายเปิดให้คำตอบปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติและลักษระเฉพาะของผู้ให้ข้อมูลแต่ละคน
2. ใช้แนวทางอุปนัย โดยเริ่มจากสิ่งที่จำเพาะเจาะจงหรือข้อมูลจากประชากรเพื่อนำไปสู่ข้อสรุป หรือ การตั้งสมมติฐานควรตั้งขึ้นมาจากข้อมูลมากกว่าที่จะตั้งจากทฤษฎีที่มีอยู่ก่อน
3. เน้นการทำความเข้าใจแบบองค์รวม ( Holistic Perspective) เป็นการทำความเข้าใจปรากฏการณ์ที่ศึกษาอย่างเป็นองค์รวม ที่สิ่งต่าง ๆ มีความสัมพันธ์แบบหลายมิติต่อกัน ภายในบริบทที่ระบบนั้นเป็นอยู่ โยค้นหาว่าภายในระบบนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง และส่วนประกอบเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
4. ใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นหลัก ( Qualitative Data) เป็นข้อมูลทุกรูปแบบที่เป็นข้อความ (text) อยู่ในรูปของคำพูด หรือที่ไม่ได้อยู่ในรูปของตัวเลข และเครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์ที่สามารถสื่อข้อมูลได้ และที่มาของแหล่งข้อมูล ก็ได้จากการทำงานในภาคสนาม (fieldwork) และที่สำคัญนักวิจัยควรใช้ทั้งข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณประกอบกัน เพื่อให้บรรลุถึงความเข้าใจในประเด็นที่ศึกษาอย่างรอบด้านและเป็นองค์รวม
5. นักวิจัยเชิงคุณภาพติดต่อโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย (Direct contact with Participants) คือการเข้าใปมีความสัมพันธ์โดยตรงกับกลุ่มประชากรเป้าหมายของการวิจัย นักวิจัยจะได้สร้างความคุ้นเคยและความไว้วางใจจากกลุ่มประชากร ซึ่งส่งผลดีต่อการเข้าถึงข้อมูลและคุณภาพของข้อมูล
ยังมีอีกหลายข้อ จะนำเสนอต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ไม่มีความเห็น