พอมีความรู้เรื่องทักษะเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 21(21st Century Skills)จากเวทีครูเพื่อศิษย์ ซึ่งจะเกิดด้วยการเรียนรู้แบบโครงงานหรือPBL(Project Based Learning) ผมนึกถึงงานอย่างหนึ่งซึ่งเคยให้นักเรียนทำ ไม่ใช่การเรียนในห้อง ไม่ใช่งานนักเรียน แต่เป็นงานครูที่ให้นักเรียนช่วย ก่อนสมศ.จะมาประเมินภายนอกรอบ 3 ประทับใจการช่วยงานของนักเรียนครั้งนั้น ผมให้ม.6/1 จัดบอร์ดในห้องครับ
เหตุที่ไหว้วาน 6/1 เพราะห้องนี้มีฝีมือทางศิลปะหลายคน 4-5 คนเคยได้รับถึงรางวัลชนะเลิศการแข่งขันงานประดิษฐ์"ใบตอง"ระดับประเทศมาแล้วด้วย อีกอย่างรู้ว่าห้องนี้มีน้ำใจ ช่วยงานโรงเรียนต่างๆด้วยจิตอาสา รับผิดชอบสูง รู้จักห้องนี้ดี เพราะเมื่อครั้งอยู่ชั้นม.5 ผมทำหน้าที่เป็นครูประจำชั้นเอง
มีโปสเตอร์สวยๆที่ได้มาจากสสวท. 6-7 แผ่นครับ เป็นสื่อการเรียนรู้วิชาชีววิทยา เรื่อง ใบ ดอก การถ่ายละอองเรณู การเกิดและการงอกของเมล็ด เซลล์พืชและสัตว์ “ครูจะให้พวกเราช่วยกันจัดบอร์ดที่ห้องให้หน่อย ว่างกันตอนไหน ไปหาครูนะ” เอ่ยปากกับนักเรียนทั้งห้องเมื่อเจอในเช้าวันหนึ่ง และวันนั้นเองชั่วโมงสุดท้ายมากันเกือบครบ ขาดบางคนที่ไปเรียนนักศึกษาวิชาทหารเท่านั้น
ผมยกโปสเตอร์ทั้งหมด กระดาษชาร์ต แถบริบบิ้น และอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการตกแต่ง ซึ่งเบิกงานพัสดุมาจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมบอกความต้องการ “ครูอยากติดโปสเตอร์เหล่านี้บนบอร์ดทั้งหมดในห้อง ยังไงก็ได้ ไม่ต้องสวยอะไรมาก เอาให้เสร็จในชั่วโมงเลย” ตั้งใจจะให้แปะกระดาษชาร์ตเป็นพื้นบอร์ด แล้วก็ติดโปสเตอร์ลงไปเท่านั้น จึงคะเนว่าชั่วโมงเดียวก็พอ
นักเรียนทั้งหมดราว 20 คน ใช้สายตาปรึกษากันอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่มีการพูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ จากนั้นต่างก็แยกย้าย ลงไม้ลงมือ คร่ำเคร่งกับงานที่แต่ละคนได้รับมอบหมายทันที บางคนจัดเตรียมแปะติดกระดาษชาร์ตเป็นพื้นบอร์ด ซึ่งทั้งห้องมีถึง 3 บอร์ด หลายคนช่วยพับและตัดกระดาษเป็นชิ้น รูปทรงแปลกตา กลุ่มนี้ตัดรูปร่างนี้ อีกกลุ่มตัดอีกรูปร่างหนึ่ง ผมถามครับ ได้รับคำตอบว่าจะนำแต่ละชิ้นมาประกอบเป็นดอกไม้เพื่อประดับในภายหลัง อีกกลุ่มหนึ่งตัดโปสเตอร์แต่ละแผ่นแยกเป็นส่วนๆ ผมเองถึงกับตะลึงครับ เพราะเห็นว่าโปสเตอร์เหล่านั้นก็สวยดีอยู่แล้ว น่าจะแปะติดได้เลย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปดอกนะครับ ประเดี๋ยวจะเสียความตั้งใจกันหมด
ก่อนนั้นนักเรียน 2-3 คนบอกกระดาษชาร์ตที่ครูเตรียม สีสันไม่ได้เรื่อง สีไม่เข้ากัน เด็กๆไม่ได้บอกครูด้วยคำพูดอย่างนี้ แต่ความหมายคืออย่างนี้ โอ! ผมเลือกสีมาเองกับมือ(ฮา) เริ่มเอะใจตั้งแต่ตรงนั้นเลยครับ ก็แค่แปะๆ สีอะไรก็ได้(กระมัง) จะได้เสร็จ
“เอาสิ! อย่างนั้นนำไปเปลี่ยนที่ห้องพัสดุ เลือกสีเองเลย เรียนอาจารย์ว่าครูขอเปลี่ยน” บอกเด็กๆไปอย่างนั้นครับ มาถึงตรงนี้เริ่มอยากรู้แล้ว นักเรียนจะจัดบอร์ดให้สวยงามได้อย่างไร
ผมสอนห้องนี้ทุกเทอมมาตั้งแต่ม.4 กิจกรรมในชั้นเรียนต่างๆที่จัดให้ ไม่เคยเห็นนักเรียนแบ่งงานกันเร็วและรู้หน้าที่แต่ละคนดีขนาดนี้ คงเป็นเพราะทำงานร่วมกันมานาน และงานช่วยครูครั้งนี้ น่าจะเป็นงานถนัดพวกเขาด้วย
สังเกตพบและน่าประหลาดใจอีกเรื่องหนึ่งคือ หัวหน้างานหรือหัวโจก คนสั่งและประสานกลุ่มเพื่อนให้ทำโน่นทำนี่จะมีอยู่ 2-3 คน ซึ่งได้แก่กลุ่มที่วิพากษ์ความเหมาะสมของสีกระดาษชาร์ตนั่นเอง ผมแปลกใจลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้นำนั้น ปกติการเรียนในชั้น เธอไม่เคยแสดงบทบาทนี้ให้เห็นเลย ผลการเรียนที่ผ่านมาในรายวิชาผมหรือชีววิทยา ติด“0” ยังไม่ได้แก้ก็มี งานที่ให้ทำในวิชาเรียน เธอมักไม่ส่งหรือส่งไม่ทันเวลา แต่ขณะนี้เธอเป็นผู้นำและนำอย่างเข้มแข็งเสียด้วย เป็นครูจะเห็นกรณีอย่างนี้เสมอ อย่างหนึ่งไม่เก่งเลย ขณะที่อีกอย่างกลับเก่งมาก ครูต้องเร่งสังเกตลูกศิษย์ตัวเองให้พบ เพื่อจะส่งเสริมสนับสนุนเขาได้ถูกทาง
วันรุ่งขึ้น บอร์ดทั้ง 3 บอร์ดเสร็จเรียบร้อย สวยงามกว่าที่คาดหวังไว้มาก ใช้เวลาทั้งหมดสัก 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ เฉลี่ยบอร์ดละ 1 ชั่วโมง การทำงานครั้งนี้ หลังบอกความต้องการไปแล้ว มิได้แนะอะไรนักเรียนอีกเลย ทำเพียงสังเกตและให้กำลังใจเท่านั้น เป็นความตั้งใจครับ ลูกศิษย์ผมทำงานโดยแบ่งงานเป็นระบบมาก พูดคุย และตัดสินใจร่วมกันตลอด โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำนั้น
หลังเวทีเสวนา“ครูเพื่อศิษย์” ผมนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเข้าใจว่าที่เราเรียกกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานหรือPBLนั้น คงไม่ได้หมายถึงเฉพาะการจัดการเรียนการสอนในห้อง หรือการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรเท่านั้น โดยเฉพาะหลายคนติดภาพโครงงานว่า ต้องทำเอกสาร 5 บท บทนำ เอกสารที่เกี่ยวข้อง วิธีดำเนินการ ผล และสรุปอภิปราย หรือต้องนำเสนอด้วยการทำแผงโชว์ เหมือนการประกวดที่เพื่อนครูเราคุ้นตา กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานหรือPBLไม่น่าจะหมายความแค่นั้น แต่น่าจะรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ที่คุณครูจัดให้ลูกศิษย์ได้คิดวางแผน ลงมือทำ สรุป นำเสนอ จนถึงบอกข้อดีข้อเสีย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในครั้งต่อไป อาทิ แค่การจัดบอร์ดโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนคิดเองทำเองอย่างแท้จริงตามที่กล่าวมา อย่างนี้ก็ฝึกทักษะได้ตั้งหลายอย่างแล้ว
ชั่วโมงนี้ในทุกสัปดาห์ เราจะมาพูดคุยและทำโครงงานชีววิทยาร่วมกัน โครงงานของครู อาจไม่ใช่อย่างที่นักเรียนนึกภาพ ทำแผงโครงงานโชว์ ทำเอกสารเล่มหนาเผยแพร่ เอาแค่ว่า เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับชีววิทยาสักอย่าง ค่อยทำไป คิด ศึกษา ค้นคว้า อาจต้องทดลอง พอปลายเทอม เราจะสรุปความรู้ให้ได้คนละ 1 เรื่อง เท่านี้ก็พอ ได้ตามหลักการแล้ว เป็นการศึกษาหาความรู้ด้วยตัวของเราเอง
(ที่มา : ซ่อมเสริมด้วยโครงงาน)
ลองพิจารณารายละเอียดดูก็ได้ ว่าเหตุการณ์นี้นักเรียนได้ฝึกทักษะ(21st Century Skills)อะไรบ้าง ทักษะด้านการเรียนรู้นวัตกรรม(Learning and Innovation Skills) ซึ่งประกอบด้วย 4 ทักษะ น่าจะเกือบครบ ได้แก่ การริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม(Creativity and Innovation) การคิดอย่างลึกซึ่งและการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving) การสื่อสารและการร่วมมือ(Communication and Collaboration) สำหรับทักษะชีวิตและการประกอบอาชีพ(Life and Career Skills) ก็น่าจะเกือบครบทุกทักษะอีกเช่นกัน ได้แก่ ความยืดหยุ่นและปรับตัว(Flexibility and Adaptability) การริเริ่มและเป็นตัวของตัวเอง(Initiative and Self-direction) ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม(Social and Cross-Culture) การเป็นผู้สร้างหรือผลิตและความรับผิดชอบเชื่อถือได้(Productivity and Accountability) ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ(Leadership and Responsibility)
ทักษะที่ฝึกแถมนักเรียนห้องนี้มีอยู่แล้วอย่างเด่นชัด จนครูประทับใจ เป็นเรื่องการสื่อสาร เกือบ 20 คน แต่ปรึกษากันเร็วมาก ก่อนจะแยกไปทำหน้าที่ได้ทันที อย่างนี้ไม่ธรรมดา สื่อสารด้วยใจเลยหรือเปล่าหนอ อีกทักษะหนึ่งคือ ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ นักเรียน 2-3 คนโดดเด่นจริงๆ วางแผน มอบหมาย และประสานกลุ่มเพื่อนตลอด สำหรับคนอื่นถ้าไม่เป็นผู้นำตนเองหรือขาดความรับผิดชอบ สมาชิกช่วยงานคงอยู่ไม่ครบ รุ่งขึ้นคงไม่พร้อมหน้า สุดท้ายบอร์ดคงไม่สำเร็จหรือไม่สวยงาม
วานนักเรียนช่วยจัดบอร์ดธรรมดาๆ แต่หลายอย่างเหลือเกินที่ได้เรียนรู้ แค่ให้โอกาสลูกศิษย์คิดเองทำเองครับ
นักเรียนมีความร่วมมือกันทำงาน วางแผนอย่างเป็นระบบ ผลสำเร็จของงานจึงสวยงามมีคุณภาพค่ะ
แสดงว่าคุณครูวางรากฐานของการทำงานระบบกลุ่มได้อย่างดีเยี่ยม
ชื่นชมมากมายค่ะ
สวัสดีครับท่านอาจารย์ ธนิตย์ ครูเพื่อศิษย์
เรียนรู้จากนักเรียน ผู้นำตามธรรมชาติ มักค้นพบจากเวที มีหลายครั้งที่คนอยากทำงานอยู่ข้างหลังมากกว่า ออกหน้าเวที
สังเกตุจากงานในหมู่บ้านที่ต้องออกปากบอกแขกช่วยแบกหาม จะมีคนที่เสียงดัง หน้าแดง แรงไม่ออก แต่คอยบอกคอยกำกับเป็นให้เป็นไปตามที่ทุกคนต้องการ
ทั้งฉลาดสอนและเป็นการนำเอากิจกรรมที่คุ้นเคยกันอยู่ทั่วไปมาให้ประสบการณ์เด็กอย่างมีกุศโลบายจริงๆครับ
*** ชอบขอให้เด็กๆ ได้คิด-สร้างสรรค์งาน....โดยอิสระ แต่อยู่ในกรอบของ Theme เพื่อไม่ให้หลงทิศทาง โดยไม่ได้หวังว่าจะนำผลงานนั้นไปใช้ประโยชน์ต่อครู ผลของงานที่ได้ " รังสรรค์อย่างงดงาม มีชีวิต-ชีวา และมีสาระความรู้ที่หลากหลาย " ส่วนเอกสาร 5 บท นั่นมักจะถูกร้องขอเพื่อเป็นผลงานให้กับหน่วยงานค่ะ ***
ดีใจจังค่ะที่เห็นเยาวชนร่วมมืออย่างสรัางสรรค์เช่นนี้ บนโอกาสที่ครูเปิดให้ นำไปสู่ความชื่นชม และแนวทางการเรียนที่นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ขอให้กำลังใจค่ะ ;)
+ สวัสดีค่ะ อ.ธนิตย์
+ อ่านแล้วมีความสุขมากค่ะ...อ่านไปยิ้มไปเลยค่ะ
+ ขอบคุณมากค่ะ
" ครูต้องเร่งสังเกตลูกศิษย์ตัวเองให้พบ เพื่อจะส่งเสริมสนับสนุนเขาได้ถูกทาง"
+ ประทับใจมากค่ะ
ขอบคุณครับ สำหรับประสบการณ์ดีๆ นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การพํฒนาร่วมกันครับ
ÄÄÄ..มาขอแสดงความยินดีกับ..ผู้ให้..โอกาศ..กับเด็ก..ที่คิดเองทำเอง..เจ้าค่ะ..(อ่านแล้วแอบฝันว่า...คงจะมีมาขึ้นเรื่อยๆใน..โรงเรียนเมืองไทย..)..ประสพการณ์นี้เคยได้รับเหมือนกัน..ตอนได้มา"ทำงาน"กับนักศึกษาคุรุศิลปศาร์ตในมหาวิทยาลัยเบอรลินHDK.FB6.ในสถานะครู.. จึงไม่ประหลาดใจแม้ว่า..สามสิบปีให้หลัง.."ความคิดนี้..ให้โอกาศ..เด็ก.คิดเอง ทำเอง"จะเป็น จุดเริ่ม..ในบ้านเราบ้าง..ในวงการ..ศึกษา..โรงเรียนและมหาวิทยาลัย....ขอบคุณค่ะ คุณ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ...
สวัสดีค่ะอาจารย์
ได้อ่านได้เห็นแล้วปลี้มแทนค่ะ บางทีเด็ก ๆ เค้าอาจพร้อมที่จะทำ แต่รอโอกาสจากคุณครูอยู่ก็ได้ค่ะ พอได้โอกาสก็เต็มที่ สิ่งที่ได้มากกว่าผลงานน่าจะเป็นที่ "กระบวนการกลุ่ม" นะคะ เห็นเทคนิคการจัดการเรียนรู้ของคุณครูแล้วชื่นชมค่ะ ชื่นชม
ชอบที่อาจารย์ได้นำประสบการณ์มาสรุปท้ายด้วย 21st century skill คะ ได้ความรู้ไปด้วย