วัฒนธรรมท้องถิ่น : ชีวิตสามเณร 5


เทียวทางเหวิ่งเหิงมามันค่ำอย่าเทียวกินหมากหว้ามันสิซ้าค่ำทาง...นางเอย

          วัดที่ผมอยู่ช่วงที่เป็นสามเณรนั้น...มีความสงบร่มรื่น...มีมะม่วงนานาชนิด...วันหนึ่งขณะผมกวาดลานวัด...มีเสียงตก...ปุ๊ก...เหลียวไปดู...ลูกนกครับ...ผมจะเข้าไปจับ...ลูกนกพยายามหนี

แม่นก...ส่งเสียงร้อง...และบินเฉี่ยวที่หัวผมไป...มา...ผมตั้งใจจะช่วยนำลูกนกนำขึ้นสู่รังของมัน...อนิจจา...มันไม่ให้ผมช่วย...มันหายเข้าไปในหญ้ารกชัฏ...ผมยังรู้สึกเสมอเมื่อ...เห็นเจ้านกน้อย..ทั้งหลาย...เราพรากแม่...พรากลูกหรือเปล่า...หนอ...ทำให้ตัวเราเองก็พเนจร...ไป...ในเส้นทางอันยาวไกล...ใคร...ช่วยเฉลยให้ที...

         วันหนึ่ง...สมภารวัดพร้อมพระเณร...ไปงานบุญที่บ้านอื่น...ยามค่ำคืน...เทียวทางเหวิ่งเหิงมามันค่ำอย่าเทียวกินหมากหว้ามันสิซ้าค่ำทาง...นางเอย...ที่ริมรั้ววัดด้านประตูออกไปป่าช้า...มะม่วงกำลังพอกินเริ่มจะสุกบ้างแล้ว...คืนนั้น...ราว  3 ทุ่มเศษ  มีเสียงดังมาจากต้นมะม่วง  ผมแอบไปดูในความมืด...เห็นขโมย  2  คน  กำลังหักกิ่งเอามะม่วงอยู่

             ผมจึงปลอมตัวเป็นสมภาร...คือท่านตัวเล็ก...เดินเสียงดังเพราะสวมใส่รองเท้าตราดาว...ท้ายมันยื่นออกมา...ท่านเดินเสียงดังเป็นจังวะ...แต๊บ..ๆๆ ผมเลียนแบบท่านเดินจากที่พักลงบันไดแล้วเดินตรงไปยัง...ขโมย...ผมตั้งใจจะรักษาสิ่งของในวัดแทนสมภารครับ ฮา ๆ

 เอิก ๆ  มือผมถือตระเกียงให้ไฟส่องหน้าไว้...ได้ผล...พวกมันกระโดดลงจากต้นมะม่วง

อย่างไม่คิดถึงชีวิต...แล้ววิ่งหนีไป...ทิ้งของกลางไว้ครับ...

            คือแถวบ้านเหล่านี้...มีการขโมยควาย...และของเล็ก ๆน้อย ๆ  จะมีการปล้นบ้านกำนันก็นาน ๆจะมีสักครั้งครับ...เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยนี้...ห่างกันไกล...โจรสมัยก่อนยัง

มีธรรมอยู่ในหัวใจบ้าง...หรือคุณมีความเห็นเป็นอย่างไรครับ...

           โปรดติดตามตอนต่อไป...ด้วยความปรารถนาดี

จาก...umi

หมายเลขบันทึก: 45590เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2006 12:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • เห็นด้วยครับ
  • ไม่ใช่โจรโดยสันดานคล้ายกับเป็นมือสมัครเล่นครับ
  • เทียวทางบ่สุดเส่นอย่าถอยหลังให่เขาเหยียบ คันสิตายให่ไปตายหน่าพู้นเขาจั๊งหย้องว่าหาญ
  • อยู่ดีมีแฮงเด้อครับ

ท่านอาจารย์ umi...

เรื่องนก..กะปุ๋มก็เคยได้ยินนะคะ...

พี่ที่เป็นนักจิตวิทยา...ท่านหนึ่งขณะนั่งฝึกสมาธิ..ที่บ้านพัก...นั้นมีนกสองตัวบินมาติดที่หน้าต่าง...แต่พี่เขาไม่รู้...ไปเห็นอีกทีนกก็ตาย...แล้ว...

...

และทุกวันนี้...พี่ท่านที่ว่านี้...ก็ยังอยู่ไกลจากบ้านมาก...ยื่นเรื่องย้ายกลับ..ภูมิลำเนาเดิม...ก็ยังไม่สำเร็จสักที...เธอจึงบอกว่า...เป็นผล..จากการที่เราไม่ได้เดินออกมาดูนกเมื่อได้ยินเสียง...ในตอนนั้น...ผลจึงมาตกในตอนนี้หรือเปล่าน้อ...ก็ไม่แน่ใจนะคะ...

ขอบคุณคะ

กะปุ๋ม

 

 

สวัสดีครับ  คุณบวร

ขอบคุณมาก ๆกับสำนวนผญาบ้านเฮา...ผมบันทึกอาศัยจากจำมาครับผม...ฮา ๆ เอิก ๆ...อีกสำนวนคนโบราณสอนลูกหลานไว้ว่า...

อันว่าการเวียกหย้าว          ให้ซ้อมต่าวตำตัก

ให้เก็บผักหักฟืน             บุกป่าบืนบกน้ำ

ตกกะเทีนว่าได้เดินทางแล้ว  อย่าถอยหลังให้คนฮุ่ม

แหนงท่อตายหน้าพุ้น     ให้คนย่องว่าหาญ..นางเอย.

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi

สวัสดีครับ  คุณกะปุ๋ม

ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเติมเต็ม...เรื่องนกพรากฮัง...

เป็นกรณีหนึ่งที่น่าศึกษา...ในเรื่อง...เวรกรรม..ครับ

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท