นโยบายสาธารณะและการวางแผน (อ.สมบัติ)
กรอบแนวคิดเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ
ความหมายและแนวความคิด
1.1 Ira Sharkansky
นโยบายสาธารณะ คือ กิจกรรมที่กระทำโดยรัฐบาลซึ่งครอบคลุมกิจกรรมทั้งหมดของรัฐบาล
1.2 Thomas R. Dye
เรา อาจกล่าวได้ว่านโยบายสาธารณะเป็นผลผลิตของระบบการเมืองและนโยบายสาธารณะจะ ส่งผลกระทบทางใดทางหนึ่งต่อวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชน อาทิเช่น สิ่งที่รัฐบาลเลือกที่จะกระทำหรือไม่กระทำเกี่ยวกับปัญหาต่างๆเช่นปัญหา มลพิษ ปัญหาเศรษฐกิจ ป็นต้น
องค์ประกอบของนโยบายสาธารณะ
สรุป นโยบายสาธารณะ หมายถึง กิจกรรมของรัฐบาลที่เลือกจะกระทำหรือไม่กระทำโดยมุ่งถึงค่านิยมและผล ประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นสำคัญโดยเน้นข้อบัญญัติที่ชอบด้วยกฎหมาย
ความสำคัญของนโยบายสาธารณะ
1.ความสำคัญต่อผู้กำหนดนโยบาย
รัฐบาลที่สามารถกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับ ความต้องการของประชาชน และสามารถนำนโยบายไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จะได้รับความเชื่อถือ และความนิยมจากประชาชน ส่งผลให้รัฐบาลดังกล่าวมีโอกาสในการดำรงอำนาจในการบริหารประเทศยาวนานขึ้น
2 ความสำคัญต่อประชาชน
นโยบาย สาธารณะเป็นผลผลิตทางการเมืองเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ดังนั้นประชาชนสามารถแสดงออกซึ่งความต้องการของพวกเขาผ่านกลไกทางการเมือง ต่างๆเช่น ระบบราชการ นักการเมือง ความต้องการดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่ระบบการเมืองไปเป็นนโยบายสาธารณะ เมื่อมีการนำนโยบายไปปฏิบัติและได้ผลตามเป้าประสงค์ ก็จะทำให้ประชาชนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ประเภทของนโยบายสาธารณะ
2.นโยบายมุ่งเน้นเนื้อหาสาระและนโยบายมุ่งเน้นขั้นตอนการปฏิบัติ
3. นโยบายมุ่งเน้นการควบคุมโดยรัฐและนโยบายมุ่งเน้นการควบคุมตนเอง
4.นโยบายมุ่งเน้นการกระจายผลประโยชน์ และนโยบายมุ่งเน้นการกระจายความเป็นธรรม
5. นโยบายมุ่งเน้นเชิงวัตถุ และนโยบายมุ่งเน้นเชิงสัญลักษณ์
6. นโยบายมุ่งเน้นลักษณะเสรีนิยมและ นโยบายมุ่งเน้นลักษณะอนุรักษ์นิยม
7. นโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าสาธารณะ และนโยบายมุ่งเน้นลักษณะสินค้าเอกชน
ตัวแบบนโยบายสาธารณะ
1.ตัวแบบชนชั้นนำ
หลักการ
คุณลักษณะสำคัญ
ต.ย. พรบ. ให้คุ้มครองและห้ามฟ้องร้องบุคคลผู้ปฏิบัติการเกี่ยวกับมาตรา 17 แห่งรัฐธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2508
1.ตัวแบบดุลยภาพระหว่างกลุ่ม
คน ในสังคมประกอบด้วยกลุ่มอิทธิพลและกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มอิทธิพล มุ่งเรียกร้องการพิทักษ์ความเป็นธรรมของสังคม กลุ่มผลประโยชน์มุ่งรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของตนเพื่อป้องกันการละเมิด “นโยบายที่เกิดขึ้นจึงเป็นผลผลิตของดุลยภาพระกลุ่มโยตรง”Arther F. Bently “การเมืองนั้นเปรียบเสมือนระบบที่มีแรงผลักดันที่กระทำปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกันในการกำหนดนโยบายสาธารณะ”
คุณลักษณะสำคัญ
ต.ย. พรบ อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 พรบ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
1. ตัวแบบเชิงระบบ
คุณลักษณะที่สำคัญ
ภาย ใต้กรอบแนวคิดเชิงระบบ นโยบายสาธารณะคือ ผลผลิตของระบอบการเมืองซึ่งเกิดจากอำนาจในการจัดสรรค่านิยมหรืออำนาจในการ ตัดสินใจนโยบายของระบบการเมือง
- ความต้องการของประชาชน ที่มีต่อระบบการเมือง เช่น ความต้องการด้านการศึกษา สาธารณสุข สวัสดิการ สวัสดิภาพ การคมนาคม
- การสนับสนุนของประชาชน ที่มีต่อระบบการเมือง เช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย การชำระภาษี “ระบบการเมืองจะดำรงอยู่ไม่ได้ถ้าหากขาดการสนับสนุนจากประชาชน”
ต.ย. พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
2.ตัวแบบสถาบัน
“ ความสัมพันธ์ของนโยบายสาธารณะและสถาบันราชการจะดำเนินไปอย่างใกล้ชิด คือ นโยบายจะไม่มีผลเป็นนโยบายสาธารณะจนกว่านโยบายนั้นจะได้รับความเห็นชอบถูกนำ ไปปฏิบัติ และบังคับใช้โดยสถาบันราชการที่รับผิดชอบ สถาบันราชการมีบทบาทในการกำหนดคุณลักษณะนโยบายสาธารณะ 3 ประการ
1. สถาบันราชการเป็นผุ้รับรองความชอบธรรมของนโยบายกล่าวคือ นโยบายของรัฐถือว่าเป็นข้อผูกพันทางกฎหมายที่ประชาชนต้องปฏิบัติตาม
2. นโยบายสาธารณะมีลักษณะคลอบคลุมทั้งสังคมทั้งนี้เพราะนโยบายสาธารณะมีผลต่อประชาชนทั้งสังคม
3. รัฐบาลเท่านั้นเป็นผุ้ผูกขาดอำนาจการบังคับใช้ในสังคมคือ มีแต่รัฐบาลเท่านั้นที่สามารถลงโทษผู้ฝ่าฝืนนโยบายหรือกฎหมายของรัฐ
Henry ได้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างของสถาบันทางการเมืองและนโยบายสาธารณะตามตัวแบบสถาบันดังภาพนี้
5.ตัวแบบกระบวนการ
a. การจำแนกปัญหา : การ พิจารณาปัญหาจากการเรียกร้องของประชาชน ที่ต้องการให้รัฐแก้ไขว่าเป็นลักษณะใด เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาไร้ที่ดินทำกิน ปัญหาชุมชุนแออัดจะต้องนำมาวิเคราะห์ระบุสาเหตุของปัญหา
b. การจัดทำทางเลือกนโยบาย : การ กำหนดวาระสำคัญของการอภิปรายนโยบาย เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหานำไปสู่ทางเลืองนโยบายต้องพิจารณาทางเลือกหลาย ๆ ทางเลือกนำทำเลือกมาวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน ความคุ้มค่าในด้านต้นทุนผลประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่
c. การให้ความเห็นชอบของนโยบาย : ขั้น ตอนสำคัญในการตัดสินใจนโยบายว่าจะเลือกทางใดต้องคำนึงถึงผลที่เกิดและความ สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนและต้องผ่านความเห็นชอบจากสถาบัน นิติบัญญัติ
d. การนำนโยบายปฏิบัติ : การกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบ จัดสรรงบประมาณ สนับสนุนการนำนโยบายไปปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์
e. การประเมินผลนโยบาย : การศึกษาดำเนินงานของโครงการและการประเมินผล
- สิ่งแวดล้อมของการนำนโยบายไปปฏิบัติ
- ทรัพยากรหรือปัจจัยนำเข้า
- กระบวนการนำนโยบายไปปฏิบัติ
- ผลผลิตของนโยบาย
- ผลลัพธ์และผลกระทบของนโยบาย
- ข้อเสนอแนะและข้อปรับปรุง
6. ตัวแบบหลักเหตุผล
ปัจจัยในการใช้ตัวแบบหลักเหตุผล
1. ต้องมีระบบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
2. จะต้องจัดเก็บข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ ให้ครอบคลุมครบถ้วน เที่ยงตรง
3. ต้องมีนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญ
4. ต้องมีงบประมาณในการลงทุนเพื่อเป็นต้นทุนจม
ปัจจัยที่มีผลต่อตัวแบบหลักเหตุผล
1. ต้องกำหนดคุณค่า วัตถุประสงค์ และเกณฑ์การตัดสินใจให้ชัดเจน
2. ต้องแสวงหาทางเลือกใหม่ ๆ และกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมทางเลือกที่สร้างสรรค์
3. ประมาณค่าเบื้องต้นในผลที่คาดหวังของการตัดสินใจ และผลของทางเลือกต่าง ๆว่าควรใช้กลยุทธ์เพื่อให้มีความเสี่ยงน้อย
4. ถ้า เลือกกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงน้อยควรใช้กลยุทธ์เปรียบเทียบความสำเร็จที่ จำกัด ถ้าเลือกกลยุทธ์เพื่อนวัตกรรมต้องพิจารณาผลที่เป็นไปได้ของทางเลือกต่าง ๆ
5. ใช้ประโยชน์จากความเห็นของนักวิเคราะห์ที่หลากหลาย
6. วิเคราะห์ความสมเหตุสมผลและความเป็นไปได้กรณีที่เป็นรูปธรรมชัดเจน
กรณีศึกษา โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง
7. ตัวแบบการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วน
ฐานคติ นโยบายสาธารณะที่มีลักษณะการกระทำที่ต่อเนื่องจากอดีตเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากเดิมเพียงบางส่วนหรือส่วนน้อย
คุณลักษณะของตัวแบบ
ความเหมาะสมของนโยบาย
กรณีศึกษา นโยบายเกี่ยวกับการบริหารองค์การต่าง ๆ ของรัฐ นโยบายเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณรายปี
การก่อรูปนโยบาย
เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการนโยบายสาธารณะ คือ ก่อรูป กำหนดทางเลือก นำไปปฏิบัติ ประเมินผล
ลักษณะและความสำคัญของปัญหานโยบาย
1. ระดับปัจเจกบุคคล
บุคคลจะรับรู้สภาพปัญหานโยบายต้องเผชิญกับเงื่อนไข 2 ประการคือ
- เมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างแบบแผนของพฤติกรรมที่คุ้นเคยกับความคาดหมายของสิ่งแวดล้อมของบุคคล
- ข้อมูลของความขัดแย้งถูกนำมาสู่ความสนใจของสถาบัน
2. การรับรู้ระดับสถาบัน
จะ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการรับรู้สภาพปัญหาของปัจเจกบุคคลดังกล่าว คือ เมื่อปัจเจกบุคคลวิเคราะห์ปัญหาเป็นที่ยอมรับสภาพปัญหาว่ามีอยู่จริงก็นำ เข้าสู่การพิจารณาของสถาบัน
การพิจารณาคุณลักษณะและความสำคัญของนโยบายจำแนกได้ดังนี้
1. ความสำคัญของนโยบาย จำแนกได้ 3 ประการ
- การรับรู้สภาพปัญหานโยบาย
- สถาบันที่เกี่ยวข้องกับปัญหานโยบาย
- ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ปัญหาและสถาบันที่เกี่ยวข้อง
2. ความแปลกใหม่ของปัญหา
3. การพิจารณาต้นทุนและผลประโยชน์ของการแก้ปัญหา
4. ความซับซ้อนของนโยบายทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
5. ภาพลักษณ์ของผู้ได้รับผลกระทบ
6. ค่านิยมของรัฐบาลในการพิจารณาปัญหา
วงจรประเด็นปัญหาของนโยบาย
1. ขั้นก่อเริ่มต้นปัญหาของนโยบาย
2. สัญญาณเตือนภัยจากปัญหาที่เริ่มก่อตัวขึ้น
3. การระบุต้นทุนในการแก้ปัญหา
4. การเสื่อมถอยของความสนใจของสาธารณชนที่มีต่อปัญหา
5. ขั้นตอนสุดท้ายของปัญหา
- การกำหนดวาระการพิจารณานโยบาย ผลประโยชน์ทางการเมือง หน่วยงานที่รับผิดชอบ ความต้องการของประชาชน
- การกำหนดวัตถุประสงค์ของนโยบาย
การกำหนดทางเลือกและการตัดสินใจในนโยบาย
การกำหนดทางเลือกนโยบายพิจารณาได้จากปัจจัยดังนี้
1 คุณลักษณะของทางเลือกนโยบาย ประกอบด้วย การสร้างสรรค์ นวัตกรรม
2. การแสวงหาทางเลือกนโยบาย
3. การกลั่นกรองทางเลือกนโยบาย
4. การตรวจสอบทางเลือกนโยบาย
**ข้อดีของการเปรียบเทียบทางเลือก กระตุ้นให้เกิดความคิดในการดัดแปลงทางเลือกนโยบายเพื่อให้ได้ทางเลือกที่เหมาะสมยิ่งขึ้น***
ทฤษฏีการตัดสินใจทางเลือกนโยบาย
1. ทฤษฏีหลักการเหตุผล มุ่งเน้นการตัดสินใจที่บรรลุเป้าประสงค์สูงสุด
ประกอบด้วย
1. ผู้ ตัดสินใจต้องเผชิญกับปัญหาที่สามารถจำแนกออกจากปัญหาอื่นได้ หรืออย่างน้อยต้องสามารถพิจารณาเปรียบเทียบกับปัญหาอื่นได้อย่างมีความหมาย
2. ผู้ ตัดสินใจมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ เป้าประสงค์(goals) ค่านิยม(values) หรือวัตถุประสงค์ (objectives) ที่ผู้ตัดสินใจต้องคำนึงถึงและสามารถทำให้การพิจารณาปัญหามีความชัดเจนและ จัดลำดับตามความสำคัญของแต่ละกรณี
3. การตรวจสอบทางเลือกต่างๆในการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน
4. การตรวจสอบผลลัพธ์ทั้งทางด้านต้นทุน ผลประโยชน์ ข้อได้เปรียบ ข้อเสียเปรียบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง
5. การเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นของทางเลือกแต่ละทาง
6. ผู้ตัดสินใจจะเลือกทางเลือกและผลลัพธ์ของแต่ละทางเลือกที่จะต้องตอบสนองต่อ เป้าประสงค์
2. ทฤษฏีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วน
ทฤษฎีนี้ เป็นทฤษฎีที่มีลักษณะของการพรรณนาความเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจของรัฐบาล
- การตัดสินใจโดยใช้ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วน เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง หรือการเพิ่มเติมจากนโยบายที่มีอยู่อย่างจำกัด
1. การ พิจารณาในการเลือกเป้าประสงค์หรือวัตถุประสงค์ และการวิเคราะห์เชิงประจักษ์ จะกระทำโดยพิจารณาร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากกว่าการที่จะแยกพิจารณาในแต่ละ ประเด็น
2. ผู้ตัดสินใจจะพิจารณาเฉพาะทางเลือกบางทางเลือกที่จะใช้ ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะแตกต่างไปจากนโยบายเดิมเพียงเล็กน้อย
3. การประเมินผลทางเลือกแต่ละทางเลือก จะกระทำเฉพาะเพื่อพิจารณาผลลัพธ์ที่สำคัญของทางเลือกบางทางเลือกเท่านั้น
4. สำหรับปัญหาที่ผู้ตัดสินใจกำลังเผชิญอยู่นั้น ผู้ตัดสินใจจะต้องทำการนิยามปัญหาใหม่อย่างต่อเนื่อง
5. ทฤษฎีนี้ถือว่าไม่มีการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวหรือทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องเพียงทางเดียว
6. การ ตัดสินใจโดยพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วนเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วย ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคจากวิธีการอื่นๆ และนำไปสู่สภาพปัจจุบันที่ดีกว่า รวมทั้งช่วยแก้ไขความไม่สมบูรณ์ทางสังคมให้เป็นรูปธรรมมากกว่าการพิจารณา เป้าประสงค์ของสังคมในอนาคต
* Etzionl เห็นว่า “ การตัดสินใจโดยพิจารณาการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วนจะสะท้อนให้เห็นผล ประโยชน์ของกลุ่มและองค์การที่มีอำนาจสูงสุดในสังคมแต่กลุ่มผลประโยชน์ของ ประชาชนที่ด้อยสิทธิ์และกลุ่มที่ไม่มีบทบาทจะถูกละเลย”
3. ทฤษฏีผสมผสานระหว่างทางกว้างและทางลึก
ทฤษฏี ผสมผสานระหว่างทางกว้างและทางลึกจะเปิดโอกาสให้ผู้ตัดสินใจสามารถใช้ประ โยชน์จากทฤษฏีหลักการเหตุผลและทฤษฏีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วนขึ้นอยู่ กับสถานการณ์ที่แตกต่างทฤษฎีและทฤษฏีการผสมผสานระหว่างทางกว้างและทางลึกมีความเหมาะสมสำหรับผู้ตัดสินใจนโยบายที่มีขีดความสามารถต่างกัน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกนโยบาย
1. ค่านิยม ค่านิยมองค์การ ค่านิยมด้านวิชาชีพ ค่านิยมส่วนบุคคล ค่านิยมด้านอุดมการณ์
2. ความสัมพันธ์กับนักการเมือง
3.ผลประโยชน์ของเขตเลือกตั้ง
4. มติมหาชน
5.ประโยชน์ของสาธารณะชน
รูปแบบ
ไม่มีความเห็น