ปลูกป่า ทำนา ประมง และปลูกผัก ชีวภาพ 100% (make money from thin air)
รายได้ไร่ละ 300,000 ต่อปี ไม่น่าหนีไปไหน
วิธีการคือท้องนาพื้นที่ 1 งาน กว้าง 20x20 ม. ให้ ขุดคูน้ำลึกรอบคันนาด้านในกว้างสัก 1 ม. ลึก 1 ม. แล้วเอาดินไปถมทำคันนาให้กว้าง 1.5 ม. สูงจากระดับท้องนาสัก 0.6 ม. . (ตามปริมาณดินที่ขุดได้)
หลักการคือ บนคันนาเราจะปลูกไม้ยืนต้น ในคูน้ำเลี้ยงปลา ในนาปลูกข้าวและผัก โดยมีคูน้ำเป็นแหล่งชลประทานไปในตัว
ที่ดินตรงกลางนั้นให้แบ่งเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน หน้ากว้างประมาณ 4 8 4 ระหว่างรอยต่อของ 4 กับ 8 ให้ขุดคูน้ำทะลุถึงคูรอบนอก ..ทำเช่นนี้เพื่อการชลประทานในการรดน้ำผักภายหลังการทำนา
ดังนั้นพื้นที่ 1 งานตอนนี้เป็นคันนา คูน้ำ ไปเสียประมาณ 30% เห็นจะได้ แต่อย่าตกใจ นี่แหละที่จะทำให้เราสบาย เหนื่อยน้อยลง 3 เท่าแต่กำไรมากขึ้น 100 เท่า (ประสิทธิผลเพิ่ม 300 เท่า)
พอเริ่มเข้าหน้าฝน พค. มิย. น้ำฝนเริ่มตก และไหลลงคูโดยรอบ เก็บสะสมน้ำไว้เรื่อยๆ ปลาย กค. น้ำจะเต็มคูและเริ่มนองเข้านา เราจะปลูกข้าวที่ปลายกค. อาจจะล่าไปหน่อยแต่ไม่น่าเป็นไร ดีเสียอีก ช่วงนั้นเมล็ดวัชพืช งอกหมดแล้วก็สบายขึ้นอักโขในการจัดการวัชพืช (เม็ดหญ้าส่วนใหญ่งอกก่อนและระหว่างเดือนมิย...ที่มา..กรมวิชาการเกษตร)
ช่วง พค. มิย. กค. เราปลูกอะไรนำร่องได้มากหลาย เช่น ถั่วต่างๆ ข้าวโพดฝักอ่อน ผักอื่นๆ โดยน้ำที่ขังอยู่ในคูก็เอามาช่วยรดได้ในยามที่ฝนทิ้งช่วง ถั่วน่าจะดีเพราะช่วยบำรุงดิน แต่ผักก็เย้ายวน เพราะรายได้ดี (และนั่นคือเหตุผลทำไมขุดคูขวาง...ก็เพื่อที่จะเอาแพลอยน้ำไปสูบน้ำฉีดรดได้ทั่วนาภายใน 20 นาที ผมออกแบบแพยนต์นี้ไว้แล้ว มันง่ายมาก และลงทุนน้อยมาก ทำเป็นบูมแผ่ออกสองข้าง รดน้ำได้อย่างทั่วถึง และรวดเร็วมาก ประหยัดน้ำด้วย ถ้าฝนทิ้งช่วงก็เอาไปรดให้นาข้าวได้ด้วย)
....คนถางทาง (สค. ๕๔)
วิธีการคือท้องนาพื้นที่ 1 งาน กว้าง 20x20 ม. ให้ ขุดคูน้ำลึกรอบคันนาด้านในกว้างสัก 1 ม. ลึก 1 ม. แล้วเอาดินไปถมทำคันนาให้กว้าง 1.5 ม. สูงจากระดับท้องนาสัก 0.6 ม. . (ตามปริมาณดินที่ขุดได้)
อยากเห็นภาพจังเลยครับ
เรียนอาจารย์
อย่างนี้ขอเพิ่มเติมเป็น
"ระบบน้ำวนเเบบปิด" ก็น่าจะเป็นหมุนเวียนเติมออกซิเจนไปด้วยในตัวเลยครับ
และเสริมความมั่นคงทางอาหาร ด้วยไม้ผล ไม้ยืนต้นไว้ปลูกบ้าน ริมเเปลงนา
น้ำหมุนวนคงยากครับ เพราะทั้งหมดมันระนาบเดียวกันหมด
ผลไม้ก็ปลูกได้ครับ แต่ต้องระวังเรื่องการ "บังแดด" ด้วย ผมถึงคิดว่าไผ่น่าจะดี แต่ยังมีไม้ที่ใบโปร่ง กว่าไผ่อีกมากหลาย เช่น เลี่ยน ใบบาง แต่โตไวมาก
เพิ่มเติมด้วยการทำท้องร่องให้ต่างระดับครับ น่าจะช่วยได้
อย่างเเปลงนาที่ทำ ทำแบบขั้นบันได ใช้ต้นกำลังฉุดตัวเดียวน้ำวนได้ทั้งเเปลง
ความลาดชันในประเทศไทยภาคกลางคือ 10,000 เมตร ได้ 1 เมตร
นาแปลงหนึ่งยาว 20 เมตร ดังนั้นความลาดชันแตกต่างระหว่างหัวนากะปลายนา เมื่อเทียบัญญัติไตรยางค์แล้ว จะมีความสูงต่างกัน 2 มม. เท่านั้นเองครับ
ภายใน 2 มม. เราคราดกันแทบตาย เพื่อให้มันเสมอกัน เสร็จแล้วทำเทือกเพื่อให้เรียบ เพื่อให้น้ำท่วมเท่ากัน
ผมจึงไม่เข้าใจครับว่า ทำ "ขั้นบันได" ได้อย่างไร และทำไปทำไม
แล้วสมมติว่าพอทำได้แล้ว จะเอาพลังงานจากไหนไปสูบน้ำจากที่ต่ำไปสู่ที่สูง
พลังงานกังหันลมที่เราเคยใช้กันมากมีก็ไม่เหลือแล้วอีกด้วย เห็นมีแต่ไปเยินยอฝรั่งเนเธอแลนด์ว่าเป็นแดนกังหันลม ทั้งที่ไทยเรานี่แหละ ที่แดนกังหันลมตัวจริง
แต่วันนี้เป็นแลนด์คูโบต้าไปหมดแล้ว อิอิ
เรียนคุณสุภัทราครับ...เรื่องการทำคูนาด้านใน ผมได้เขียนไว้บ้างแล้ว มันทำได้ครับ มีข้อดีข้อเสีย ...ที่เขียนมาทั้งหมดแสดงว่า คุณสุภัทราคิดตามได้ดีมากครับ ผมต้องการคนที่คิดแบบนี้มาช่วยกันระดมสมองมากๆ
บางที่ผมว่าผมคิดร้อยเที่ยว อย่างดีแล้ว ก็ยังมีช่องโหว่จนได้ เพราะมีคนท้วงที่ดีๆ ..แต่ขอยืนยันว่าสิ่งที่คุณสุภัทราคิดมานั้นผมไม่ได้ลืม ได้คิดทวนไว้ก่อนนี้แล้ว ถ้าจะตกไปบ้างก็คือด้านรายละเอียด
เพราะผมเป็นนักคิดมากกว่า นักทำ แต่ก็คิดก็ได้ฟังนักทำเขาว่ากันมานานแล้วนะครับ ไม่ได้ยกเมฆเสียทั้งหมด อิอิ
สวัสดัครับอาจารย์
*ผมเป็นเกษตรหน้าใหม่ เพิ่งลงมือทำนาปีนี้เองครับ
*ผมทำตามแบบฃาวบ้านเขาทำกัน แต่ไม่ใฃ้สารเคมีครับ
*พอลงมือทำก็เจอน้ำท่วม สองครั้งแล้ว 50 -50 ครับ(ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย)
*เห็นบทความอาจารย์ น่าสนใจ เป็นการเพิมคุณค่าของการทำนาให้มากขึ้น
*คงต้องทำแบบคุณสุภัทรา คือมีคันนาเพิมอีกชั้นครับ และต้องทีทางให้รถไถเข้า-ออกได้
*และทำน้ำวนของคุณต้นกล้า เข้าท่านี อาจเชื่อมเข้าแปลงที่ 2 -3 ได้
*ขอบคุณครับความคิดีัๆ