ผักปลอดสารพิษที่โรงพยาบาล


ผักปลอดสารพิษที่โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน
อ่านบันทึกของอาจารย์วิจารณ์ พานิช  แล้ว นึกถึงเมื่อตอนที่ดิฉันได้มีโอกาสฟังอาจารย์พูดเรื่อง KM ประมาณปี 2545 เนื่องจากฟังครั้งแรก จึงไม่เข้าใจ  แต่มันก็โดนใจ ทำให้ดิฉันรู้จัก หาหนังสือมาอ่านเพิ่ม อ่านเพิ่มเติมในอินเทอร์เนต  จากนั้นก็มีโอกาสได้ฟังที่งาน TMI ครั้งหนึ่ง และที่ HA-Forum อีกครั้งหนึ่ง แม้ดิฉันจะฟังเรื่องเดิมหลายรอบ ฟ้งทีไรดิฉันก็มีความสุขทุกที ฟังเรื่องเดิม แต่สิ่งที่ดิฉันได้ไม่เท่าเดิม ไม่เหมือนเดิม.... จากที่ดิฉันฟังอาจารย์ครั้งแรก กลับมา รพ. ดิฉันก็สรุป ได้ 3 หน้ากระดาษ A4 ดิฉันขยายผลด้วยการแจกให้คนในองค์กรอ่าน ทีละหน้า หลายคนอ่านแล้วบอกว่า ไม่รู้เรื่อง ดิฉันก็บอกว่า ถ้างั้นอ่านต่อหน้า อ่านหน้า 2 ยังไม่เข้าใจ ถ้างั้น อ่านต่อหน้า 3 ก็ทำให้ คนในองค์กรรู้จักความว่าการจัดการความรู้ แต่ไม่เข้าใจ  แต่ก็สามารถชักชวนน้อง ๆ หลายคนรู้จัก เข้าอ่านเพิ่มเติมใน KMI.or.th บางคนบอกว่า อ่านแล้วก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี แต่ดิฉันไม่ละความพยายาม ทุกครั้งที่มีการประชุม ของโรงพยาบาล ดิฉันเป็นพยาบาล แต่รับผิดชอบ IT ของ รพ. ขนาด 30 เตียง จึงมีหน้าที่เตรียม slide powerpoint ให้ ผอก.ซึ่งต้องประชุมคณะกรรมการบริหารทุกเดือน และทุกครั้งที่มีการประชุมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล  ดิฉันจะแทรกเข้าทุกครั้ง เนื่องจากดิฉันเป็นผู้ประสานงานคุณภาพ รพ.ด้วย จึงใช้ KM มาเป็นเครื่องมือ แต่ไม่ได้บอกคนอื่น ๆ ว่า ตอนนี้เราทำ KM  นะ เพราะไม่อยากให้คนที่ยึดติดกับศัพท์ทางคุณภาพงง เมื่อประมาณ มี.ค. 2549  จังหวัดร้อยเอ็ดมีการประชุม เรื่อง KM ได้วิทยากรจากทางภาคเหนือ  ดิฉันรู้สึกชื่นใจที่มีเจ้าหน้าที่ รพ.หลายคนของ รพ. หลังประชุมเสร็จ ระหว่างเดินทางกลับ รพ. เขาบอกว่า ฟังดู รพ.ของเราก็ทำ KM อยู่แล้วไม่ใช่หรือ เพียงแต่เราทำแบบไม่รู้ตัว  รพ.ที่ดิฉันอยู่จะอยู่แบบเรียบง่าย ผอก.มีนโยบายว่า อย่าทำอะไรให้ยุ่งยากซ้ำซ้อนผิดธรรมชาติ ให้ทำแบบเรียบง่าย ประหยัดและมี คุณภาพ  ที่ รพ.จะให้ อสม.เข้ามาช่วยงานที่ฝ่ายบริการชุมชน วันละ 1-2 คน จากทุกหมู่บ้านหมุนเวียนกันมา เนื่องจากบุคลากรงานบริการชุมชนไม่เพียงพอ เคยมีผู้นิเทศตำหนิว่า ทำแบบนี้ทำไมไม่มีประโยชน์ ผอก. ก็ไม่สนใจคำตำหนิ ปีต่อมาก็ยังทำเหมือนเดิมไม่ล้มเลิก ต่อมาก็มีคนบอกว่า ดีจังเลย ประหยัด น่าจะสรุปเป็นตัวเลขว่าประหยัดเงินได้มากน้อยแค่ไหน.... ผอก.บอกว่าที่ทำเช่นนี้ไม่ใช่ต้องการประหยัด แม้แต่เงินเบี้ยเลี้ยงที่ให้เขา ผอก.ก็บอกทุกคนว่าห้ามพูดว่าค่าตอบแทนให้บอกว่าช่วยค่าน้ำมันรถ เพราะมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ ไม่ควรเอาเงินมาเป็นคุณค่า แต่คุณค่าที่ได้จากการทำเช่นนี้มันประเมินค่าไม่ได้เลย และเมื่อต้นปี มีอสม.ที่ทำปลูกสวนผักปลอดสารพิษสำเร็จ ผอก.ก็พูดก้บ อสม.ว่า อยากปลูกที่หน้า รพ. ช่วยไปสอนให้หน่อย อสม.ก็มาช่วยชาว รพ. ปลูกที่ รพ. ทำให้คนของ รพ.รู้ว่าปลูกผักต้องผสมผสานพืชหลาย ๆ ชนิด บางคนก็ห้วเราะว่าจะได้กินกันหรือเปล่า ตอนนี้ พริก มะเขือยาว ใบแมงลัก ตะไคร้ สะระแหน่ กล้วย มะละกอ เป็นอาหารของชาว รพ. และผู้ป่วยที่มา รพ. บางคนก็ขอเก็บกลับบ้านไปทำกับข้าวด้วย เมื่อเดือนที่ผ่านมา จึงเอาป้ายมาติดว่า แปลงสาธิตปลูกผักปลอดสารพิษ ขณะนี้หน้าฝนกำลังเขียวสวยดี
คำสำคัญ (Tags): #การเรียนรู้
หมายเลขบันทึก: 45392เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2006 08:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 18:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ดีจังเลยครับ  คุณพิมลทำได้ผลแล้วกับเพื่อน  แต่ผมกำลังพยายามอยู่ครับ เข้ารู้จัก KM แล้ว แต่ยังไม่เข้าใจครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท