บันทึกการถอดบทเรียน
การจัดการความรู้ : Share&
learn ประจำปี 2554 คณะแพทยศาสตร์
กลุ่มที่2 ด้านการวิจัย: “R2R2P:
จากห้างสู่หิ้ง….คืนสู่ห้าง”
วันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เวลา 13.00-16.00
น.
หัวข้อ “R2R2P:
จากห้างสู่หิ้ง….คืนสู่ห้าง”
1. ข้อมูลผู้มาถอดบทเรียน
ผู้นำเล่าเรื่อง คือ ศ นพ. สมบูรณ์ เทียนทองและ ศ พญ.
วิภา รีชัยพิชิตกุล
ผู้มาเล่า success story จำนวน 5
ท่านได้แก่
- นางสาวพรเพ็ญ ปทุมวิวัฒนา
พยาบาลชำนาญการพิเศษ
รักษาการผู้ตรวจการแผนกการพยาบาลสูติ-นรีเวชกรรม
งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์
จังหวัดขอนแก่น
- รศ. ดร. เบญจมาศ พระธานี นักแก้ไขการพูด ภาควิชาโสต
ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นางสาวสุธันณี สิมะจารึก ตำแหน่ง
วิสัญญีพยาบาลชำนาญการพิเศษ
ภาควิชาวิสัญญี คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นางลดา สรณารักษ์ ประธานคณะกรรมการวิจัย
โรงพยาบาลขอนแก่น
- ภก. กุลอนงค์ เกิดศิริ เภสัชกร
โรงพยาบาลมหาสารคาม
- ดร. อมรรัตน์ ร่มพฤกษ์ คลังเลือดกลาง คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้เข้าร่วมถอดบทเรียน
พยาบาลจากหอผู้ป่วยต่าง
ๆ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมหาราช
นครราชสีมา นักวิชาการการศึกษา
วิสัญญีพยาบาล
ผู้บันทึกการถอดบทเรียน (Notaker
)
- นางอุบล จ๋วงพานิช พยาบาลชำนาญการพิเศษ
หัวหน้าหอผู้ป่วยเคมีบำบัด 5 จ. แผนกการพยาบาลบำบัดพิเศษ
งานบริการพยาบาลโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นางสาวพรนิภา หาญละคร พยาบาลชำนาญการพิเศษ
หน่วยโรคเอดส์ งานบริการพยาบาลโรงพยาบาลศรีนครินทร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นางสาวเกศนี บุณยวัฒนางกุล พยาบาลชำนาญการพิเศษ
ศูนย์การพยาบาลรายกรณี งานบริการพยาบาล
โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- นางประกาย พิทักษ์ พยาบาลชำนาญการพิเศษ รักษาการฯ
หัวหน้าหน่วยระบาดวิทยาโรคติดต่อ งานเวชกรรมสังคม
โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2. บันทึกขั้นตอน และวิธีการถอดบทเรียน
- ขั้นตอนและวิธีการถอดบทเรียน โดย ผู้นำเล่าเรื่อง ศ. นพ.
สมบูรณ์ เทียนทอง
ให้ผู้เล่าเรื่องราวที่ประสบผลสำเร็จแนะนำตัวเอง
และตัวแทนผู้เข้าร่วมถอดบทเรียนที่นั่งแถวหน้าแนะนำตัวเองอีก 3
ท่าน
- ผู้นำเล่าเรื่อง
นำเข้าสู่การถอดบทเรียนโดยตั้งคำถามให้ผู้เล่าเรื่องราวที่ประสบผลสำเร็จในการทำวิจัย
R2R ว่าที่ทำวิจัยในครั้งนี้เริ่มต้นได้อย่าง
ปัญหาที่นำมาทำการวิจัย R2R คืออะไร
- ผู้นำเล่าเรื่องสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการเล่าเรื่อง
เน้นย้ำให้ผู้เข้าร่วมถอดบทเรียนให้เข้าใจและตั้งประเด็นคำถามให้ผู้เล่าเรื่องราว
ให้เล่าต่อถึงประโยชน์ของการทำงานวิจัย R2R
- ประเด็นการสนับสนุนช่วยเหลือการทำวิจัย ทุนสนับสนุนการวิจัย
การตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่ประสบผลสำเร็จแล้ว
3. บันทึกบรรยากาศการถอดบทเรียน
- บรรยากาศของการถอดบทเรียน หัวข้อ
“R2R2P: จากห้างสู่หิ้ง….คืนสู่ห้าง” ในครั้งนี้
เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เป็นกันเอง สบาย ๆ อบอุ่น
ผู้นำเล่าเรื่องราวการทำวิจัยจากงานประจำ สรุปประเด็นที่ได้เป็นระยะ
ๆ
ผู้เล่าเรื่องราวการทำวิจัยของตนเองแต่ละท่านเล่าอย่างมีความสุข
ภาคภูมิใจที่ได้ทำวิจัยในครั้งนี้
แต่ละท่านที่นำมาเรื่องของตัวเองมาเล่าเรื่องนั้น ไม่เบื่อ ชวนติดตาม
มีเสียงหัวเราะและคำชื่นชมเป็นระยะ
ผู้เข้าร่วมถอดบทเรียนมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำวิจัยที่เพิ่งเริ่มต้นทำ
กำลังทำวิจัย อยู่ระหว่างการขอทุน ขอจริยธรรม
ทำวิจัยเรียบร้อยแล้วขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรอการเขียนบทความที่จะส่งตีพิมพ์
- สถานที่ห้องที่ใช้ ห้องที่ใช้เป็นห้องเรียนกลุ่มย่อย
เก้าอี้ไม่พอกับจำนวนผู้เข้าร่วม
การจัดที่นั่งเป็นลักษณะของการนั่งล้อมวง จำนวน 4 รอบวง
ผู้เข้าร่วมกลุ่มมีจำนวนมากกว่าที่ได้สมัครไว้
ทำให้บางท่านไม่มีโอกาสได้เล่าเรื่องราวของตนเอง
- ระยะเวลา ใช้เวลาในการถอดบทเรียนตามกำหนด
เวลาที่ให้แต่ละท่านเล่าเรื่องราวมีข้อจำกัด
เนื่องจากจำนวนผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
การแนะนำตัวไม่ได้ครบทุกท่าน
และมีผู้เข้าร่วมเล่าเรื่องราวบางท่านยังมีประเด็นที่ตัวเองอยากจะเล่า
และถ่ายทอดอีกมากมายที่ยังนำมาเล่าไม่หมด
3. ดำเนินการถอดบทเรียน
3.1 ประสบการณ์จากทำงานของนักวิจัย R2R
การได้มาของหัวข้อการทำวิจัยR2R จาก
- ผู้วิจัยพบปัญหาในการทำงาน
พบความยุ่งยากขั้นตอนในการปฏิบัติ งานที่ทำอยู่มีความซ้ำซ้อน
ใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติ
-
เป็นปัญหาที่เริ่มจากผู้วิจัยมองเห็นปัญหาที่จะเป็นอันตรายหรือเกิดความเสียหายต่อการรักษาของผู้ป่วย
ผู้ป่วยขาดการติดตามการรักษา
- ใช้กระบวนการสังเกต อย่างละเอียดแล้วนำทดลองปฏิบัติ
หาวิธีการที่ดี เหมาะสมก่อน
- ใช้กระบวนในการคิด พัฒนาจากงานที่ทำอยู่เป็นประจำ
ให้มีคุณภาพมากขึ้น
- ใช้โปรแกรมสารสนเทศมาพัฒนาร่วมกับกระบวนการรักษาผู้ป่วย
- ผู้วิจัยสำรวจปัญหา ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย รวบรวม
วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ นำมาออกแบบให้ง่านต่อการบันทึกการรักษา
บันทึกการพยาบาล แล้วจึงมาทำแนวทางปฏิบัติ นำไปใช้ ประเมินผลการใช้
ได้ประโยชน์ จึงขยายเครือข่าย
3.2 กระบวนการวิจัย วิธีการทำงาน
ที่ทำให้ประสบผลสำเร็จในภาพรวม (How to)
- มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีจิตวิญญาณที่อยากจะทำวิจัย
- มีแรงบันดาลใจจากการดูแลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยาก
ผู้ป่วยขาดการติดตามรักษา
- ศึกษาค้นคว้า หาวิธีการที่เหมาะสม
ใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพมาดูแล และเก็บข้อมูล
- ทดลองปฏิบัติ
ปรับปรุงแก้ไข พัฒนางานที่ทำ
เป็นการเรียนรู้ทุกกระบวนงานด้วยตนเอง (learning by doing)
กระบวนการกลุ่ม
- มีทีมที่เป็นสหสาขาวิชาชีพ แพทย์ พยาบาล
คณะกรรมการร่วมทำวิจัย
จึงจะทำให้การทำวิจัยได้ง่ายขึ้นได้แนวปฏิบัติที่ชัดเจน
นำไปใช้กับผู้ป่วย และขยายเครือข่าย
- มีแหล่งช่วยเหลือ มีพี่เลี้ยง
- การขอทุนสนับสนุน
ฝ่ายวิจัยพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ
รวมทั้งในเรื่องของการตีพิมพ์ผลงานวิจัย
ฝ่ายวิจัยรับเรื่องไปขยายผลต่อเพื่อที่จะจัดเวทีวิชาการเครือข่ายสำหรับนักวิจัยโดยเฉพาะ
3.3 ผลงานที่ได้รับจากการดำเนินงาน
การทำวิจัยได้แก่
-
การพัฒนาระบบเฝ้าระวังการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา
งานเภสัชกรรรมผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลมหาสารคาม
ได้โปรแกรมคู่ยาที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา โดยพัฒนาจากโปรแกรมการสั่งยา
โปรแกรมการจ่ายยาผู้ป่วยนอก
โปรแกรมเฝ้าระวังการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา
และแบบรับคำปรึกษาของผู้ป่วยที่ได้รับยาที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา
ได้คู่มือแนวทางการปฏิบัติที่จะทำให้ผู้ป่วยทราบความผิดปกติและต้องรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
เพื่อหาแนวทางในการแก้ไข และเฝ้าระวัง
รวมถึงการเน้นย้ำให้ผู้ป่วยทราบ ผู้ดูแล ผู้รักษา
สามารถจดจำการได้รับยาที่เกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน
และอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
รวมถึงการแจ้งแก่บุคลากรทางการแพทย์ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา
เพื่อป้องกัน หรือเฝ้าระวังความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
-
คลังเลือดกลางประสบปัญหามีเกร็ดเลือดไม่เพียงพอจึงได้พัฒนาวิธีการที่จะทำให้มีเกร็ดเลือดเพียงพอใช้
ผลจากการดำเนินงานพบว่ามีเกร็ดเลือดเพียงพอที่จะใช้
ผู้ป่วยรับเลือดได้ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ลดปัญหาการหมดอายุของ
เกร็ดเลือดได้ ลดจำนวนบุคลากรที่จะต้องปฏิบัติงานนอกเวลา
ลดระยะเวลานาการเตรียมเกร็ดเลือด
-
การบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วย (pain
service)อย่างเป็นระบบ มาพัฒนาคุณภาพการพยาบาลในผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่มีปัญหาความเจ็บปวดจนสามารถลดความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยที่มาผ่าตัดในโรงพยาบาลศรีนครินทร์
และผู้ป่วยได้รับยาระงับปวด
การดูแลอย่างต่อเนื่องหลังผ่าตัดจากวิสัญญีพยาบาล
และพยาบาลจากหอผู้ป่วย
-
การส่งเสริมการเลี้ยงลูกที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง
6 เดือนแรกหลังคลอดในทารกที่มารับการฝึกให้นมแม่ในหอผู้ป่วยหลังคลอด
(2ข.) โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ผลงานที่และนำมาใช้คือ แนวทาง(Guideline)
ในการดูแลทารกที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่รวมทั้งทารกที่มีความพิการของศีรษะและใบหน้าในโรงพยาบาลศรีนครินทร์
-
โปรแกรมฝึกพูดในผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติของการออกเสียง
ทำให้ผู้ป่วยสามารถไปฝึกที่บ้านด้วยตนเองได้
ผู้ป่วยไม่ต้องมาโรงพยาบาลบ่อย ผลที่ได้คือ นักแก้ไขการพูด
ผู้ปฏิบัติงาน ทำงานเป็นทีม
ฝึกตามแนวทางที่ทำไว้ มีวิดิทัศน์ทำให้ประหยัดเวลา
ฝึกเป็นกลุ่ม ไม่ต้องอธิบายซ้ำๆ ลดระยะเวลามาโรงพยาบาล
ลดต้นทุนในการรักษา องค์กรและระบบสาธารณสุขของประเทศ
หน่วยบริการตติยภูมิที่ให้บริการผู้ป่วยเสียงแหบได้อย่างทั่วถึง และ
บริการผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
- R2R ทำให้เกิดนวัตกรรม
มีimpact นี่คือคุณค่าของงานวิจัยR2R ถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง
แต่งานงานวิจัยR2R ที่ดีก็สามารถตีพิมพ์ ว่าR2R
ที่มีปัญหาวิจัยชัดเจน วิธีการดำเนินการ ชัดเจน
การตีพิมพ์ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ถ้าเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลของพยาบาลจากงานประจำก็อาจจะไม่ใช่
อาจใช้ระเบียบวิธีวิจัยไปด้วย อาจเชิญแพทย์ แพทย์ใช้ทุน
อาจารย์แพทย์ไปร่วมช่วยทำจะได้ทำงานวิจัย R2R
ได้ง่ายขึ้น
การเขียนงานตีพิมพ์นั้นอาจต้องปรับแก้หลายรอบ ต้องอดทน
ในระดับเริ่มต้นก็อาจตีพิมพ์ในระดับประเทศ
และสามารถนำไปประกอบการขอชำนาญการ เลื่อนขั้นได้
และก็ขอเชิญชวนให้พยาบาลมานำเสนองานวิจัยR2R
ในงานประชุมวิชาการประจำปีเตือนตุลาคมนอกจากนี้ยังได้ปรึกษากับรองคณบดีฝ่ายวิจัย
คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าควรจะมีเครือข่ายวิจัย
R2R
3.4 ระบุปัจจัยแห่งความสำเร็จ
- มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ
มีจิตวิญญาณที่อยากจะทำวิจัย ทำวิจัยอย่างมีความสุข
ไม่เครียดผู้ใช้บริการ ผู้ปฏิบัติเกิดความสุข เกิดความภาคภูมิใจ
โดยมีแรงมีแรงบันดาลใจจากการดูแลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยาก
ผู้ป่วยขาดการติดตามรักษา
- การทำวิจัย R2R ทำเป็นทีมร่วมกับทีมสหสาขา
มีผู้ร่วมวิจัยหลายระดับ จึงจะทำให้ประสบผลสำเร็จ ถ้าวิจัยนั้นมีแพทย์
อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมทีมด้วย จะได้ช่วยในเรื่องของคุณภาพการวิจัย
การเขียน ภาษาอังกฤษได้ ได้แนวปฏิบัติที่ชัดเจน นำไปใช้กับผู้ป่วย
และขยายเครือข่าย
- ทุกคนสามารถทำวิจัยได้
โดยมีระบบพี่เลี้ยงที่ทำวิจัยเก่งแล้วดูแลมีแหล่งช่วยเหลือ
มีพี่เลี้ยง มีที่ปรึกษา
3.5 ระบุอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน
และสาเหตุที่ทำให้การวิจัยไม่ประสบความสำเร็จ
- อุปสรรคของการทำวิจัย R2R
ที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์
เนื่องจากการเขียนและภาษายังไม่ได้ตามที่วารสารหรือแหล่งที่ตีพิมพ์
กำหนด ไม่มีผู้ช่วยเหลือให้คำแนะนำ
- การส่งขอจริยธรรม ใช้ระยะเวลา และต้องตอบคำถาม
แก้ไขงานที่ทำหลายครั้ง
- การขอทุนสนับสนุนวิจัย แหล่งทุน
4. ผลจากการถอดบทเรียน
4.1
สิ่งที่มีคุณค่าที่เกิดการเรียนรู้นอกจากตัวความรู้ ในครั้งนี้
ดังนี้
-
แนวคิดในการสร้างเครือข่ายในการทำวิจัยจากงานประจำ R2R
ร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลขอนแก่น
โรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา
เพื่อช่วยเหลือนักวิจัยน้องใหม่
ให้เกิดการเรียนรู้การทำวิจัยให้ประสบผลสำเร็จ
การเขียนบทความเพื่อส่งตีพิมพ์เผยแพร่โดยมีระบบพี่เลี้ยงที่เป็นนักวิจัย
R2R ที่ประสบผลสำเร็จ
-
พัฒนาคุณภาพงานที่ทำอยู่เดิมให้ดียิ่งขึ้น
เริ่มจากงานที่เป็น CQI นำมาจัดทำให้เป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ดี
มีการติดตามผลเป็นระยะ ให้เห็นความต่อเนื่องอย่างชัดเจน
ได้แนวทางการปฏิบัติใหม่ที่ดี และเกิดประโยชน์กับผู้ป่วย องค์กร
ลดค่าใช้จ่าย ลดขั้นตอนความยุ่งยากในหารปฏิบัติงาน
-
การทำวิจัยทำให้เกิดการเรียนรู้ กระบวนการคิด
การทำงานงานที่ทำอยู่เกิดการพัฒนาตนเอง (learning by doing)
การทำงานที่ทำอยู่ประจำ เกิดการฝึกฝน การเรียนรู้สิ่งใหม่
ๆ การค้นคว้าวิชาการ เป็นการสร้างคุณค่าให้งาน
การวิจัยที่ทำนำมาสู่ความภาคภูมิใจ
สามารถนำไปขอผลงานทางวิชาการได้ องค์กรได้ชื่อเสียง
วิจัยR2R นำมาใช้ปฏิบัติในการทำงานจริง ๆ
เปิดประโยชน์กับคนไข้ ผู้รับบริการมีความสุข
นำไปเผยแพร่ ขยายผล สร้างเครือข่ายในการทำงาน
*************************************************************************************
ศ.พญ.วิภา รีชัยพิชิตกุล
อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์
และประธานกรรมการฝ่ายวิจัย
- ประเด็นการขอทุนวิจัยและการช่วยเหลือในการตีพิมพ์ R2R
เป็นการแก้ปัญหาหน้างาน ซึ่งยิ่งใหญ่กว่า
บางงานอาจตีพิมพ์ได้เช่นกัน และเวทีนำเสนอ R2R ก็มีมาก
ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาทุนวิจัย R2R อยากให้ทุนวิจัย
การขอทุนส่วนใหญ่ไม่เกินแสน ค่าใช้จ่ายไม่มาก ก็ขอมาได้
สิ่งที่สามารถขอได้เช่น ชุด VCD ส่วนอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว
จะของบไม่ได้ ค่าจ้างตัวนักวิจัยเองไม่มี ถ้าจัดกิจกรรมกลุ่ม
สามารถเบิกค่าอาหารว่าง อาหารกลางวันได้
- R2R ทำให้เกิดนวัตกรรม มีimpact นี่คือคุณค่าของ
งานวิจัยR2R ถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่งานงานวิจัยR2R
ที่ดีก็สามารถตีพิมพ์ ว่าR2R ที่มีปัญหาวิจัยชัดเจน
วิธีการดำเนินการ ชัดเจน การตีพิมพ์ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ถ้าเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลของพยาบาลจากงานประจำก็อาจจะไม่ใช่
อาจใช้ระเบียบวิธีวิจัยไปด้วย และอาจเชิญแพทย์ แพทย์ใช้ทุน
อาจารย์แพทย์ไปร่วมช่วยทำจะได้ทำงานวิจัย R2R
ได้ง่ายขึ้น
- การเขียนงานตีพิมพ์นั้นอาจต้องปรับแก้หลายรอบ และต้องอดทน
ในระดับเริ่มต้นก็อาจตีพิมพ์ในระดับประเทศ
และสามารถนำไปประกอบการขอชำนาญการ เลื่อนขั้นได้
และก็ขอเชิญชวนให้พยาบาลมานำเสนองานวิจัยR2R
ในงานประชุมวิชาการประจำปีเตือนตุลาคมนอกจากนี้ยังได้ปรึกษากับรองคณบดีฝ่ายวิจัย
คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าควรจะมีเครือข่ายวิจัย
R2R
-ขอขอบคุณ คุณประกาย ที่สรุปให้อีกครั้งค่ะ
แก้ว...