เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔

๓๑   กรกฎาคม ๒๕๕๔

เรียน เพื่อนครู ผู้บริหารและผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๒๕  กรกฎาคม ๒๕๕๔  เช้านี้ได้มอบท่านรองฯ ไปเป็นประธานเปิดการประชุมในโครงการพัฒนาครู เพราะอ่อนกำลังจากการเดินทางเมื่อวันเสาร์และการเรียนเมื่อวาน  เข้าสำนักงานเขตเกือบ ๙ นาฬิกา ชวนนายอำเภอเมืองปทุมธานีไปพบท่าน ผอ.กิจจา ชูประเสริฐ โรงเรียนปทุมวิไล เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก กลับเข้าเขตแวะเยี่ยมกลุ่มอำนวยการและกลุ่มบริหารงานการเงินและทรัพย์สิน เขาเพิ่งซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความดันมาใหม่ เพื่อบริการทั้งเจ้าหน้าที่และผู้มาติดต่อราชการ อย่างน้อยเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าสุขภาพเป็นอย่างไร ผลการตรวจน้ำหนักขึ้นกว่าเดิม ๕ กก. ความดันโลหิตตัวบนขึ้นไป ๑๓๖ จากเดิม ๑๒๐ ตัวล่างอยู่ประมาณ ๘๐ กว่า ๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติค่อนไปทางสูง หัวใจเต้นอยู่ที่ ๘๐ ครั้งต่อนาทีถือว่าเร็วไป ข้าราชการบำนาญที่มาติดต่อราชการก็ชอบวัดความดันเหมือนกัน ต่อไปจะซื้อเพิ่มไว้ที่สโมสรอีกชุด  เวลา ๑๑ .๓๐ น. ให้เต้ยขับรถไปส่งที่กระทรวงศึกษาธิการ มาแวะทานข้าวกลางวันที่ร้านข้าวแกงโรงบียร์ฮอลแลนด์ ถนนวันนี้การจราจรค่อนข้างโล่ง ถึงกระทรวงเที่ยงครึ่ง ไปห้องท่านผู้ตรวจฯ บัณฑิตย์  ศรีพุทธางกูร สักพักทีมงานเก่าที่ไปสืบข้อเท็จจริงกรณี ป.บัณฑิต ของ ม.อีสาน มากันตามนัดขาดไปเพียง ๑ จึงช่วยกันพิจารณาหนังสือสั่งการของท่าน รมว.ศธ. ที่เพิ่งสั่งลงมา เห็นพ้องต้องกันว่า พวกเราได้ดำเนินการจนครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว รายละเอียดที่สั่งการมาใหม่ ต้องให้กรรมการสอบสวนไปดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเอา เพราะขืนทำไปก็จะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มอบหมายเลขานุการไปจัดทำบันทึกเสร็จเมื่อใดก็จะมาลงชื่อให้  มาแวะคุยกับท่านผู้ตรวจฯ กิจสุวัฒน์  หงส์เจริญ เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเขตเพราะท่านถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ที่หาตัวจับยาก ได้เวลาเดินทางกลับเขต  ได้นำถั่วอบของบาหลีตราพระอาทิตย์มาให้เลขานุการแบ่งกันชิม เป็นถั่วที่ใช้แรงกายแรงใจแบกคอนมาด้วยความยากลำบากระยะทางกว่าสองพันกิโลเมตร ไม่ได้ใส่กระเป๋าใบใหญ่โหลดลงท้องเครื่องบิน เพราะซื้อที่สนามบินใส่เป้สะพายหลัง ทั้งหนักทั้งเหนื่อย   บ่ายมีแฟ้มงานให้อนุมัติอนุญาตพอสมควร ส่วนใหญ่ผู้รักษาราชการแทนได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว เขาเพียงเสนอให้ทราบ ดูแล้วเรียบร้อยดีก็ไม่ต้องสั่งการเพิ่มเติม

วันอังคารที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔  ตื่นเช้ามืดเพราะบริษัททัวร์นัดหมายให้ไปสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตเบลเยี่ยม ตั้งอยู่ที่ตึกสาทรทาวน์เวอร์ ชั้น ๑๗  ให้เต้ยมารับตั้งแต่ ๖ โมงเช้า แต่พาหลงกันไปฝั่งธนบุรี กว่าจะหาทางกลับได้ก็เสียเวลาไปพอสมควร อาคารนี้เคยมาครั้งเดียวตอนฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีที่ถูกฟ้องว่า กฎ ก.ค.ไม่ชอบด้วยกฎหมายในฐานะผู้ร้องสอด เมื่อก่อนศาลปกครองเช่าตึกนี้เป็นที่ทำการ  ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ถนนแจ้งวัฒนะในที่ทำการของตนเองแล้ว  เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์มารออยู่ ๑ ท่านและกำลังนำเอกสารมาสมทบอีก ๑ ท่าน เมื่อตรวจเอกสารให้เรียบร้อยอีกครั้งแล้ว จึงเริ่มจับบัตรคิว ถามทัวร์ว่าทำไมเลือกมาขอวีซ่าของเบลเยี่ยม เขาบอกว่าคนมาขอ วีซ่าไม่มากไม่ต้องรอนาน ได้เวลาเจ้าหน้าที่เรียกไปสอบถามรายวัตถุประสงค์และรายละเอียดในการไปครั้งนี้ ก็บอกเขาไปตามตรง ดีที่ติดโครงการซึ่ง สกสค.จังหวัดส่งมาให้ไปด้วย เขาจึงซักถามไม่มาก ผลจะออกมาอย่างไรยังไม่ทราบเหมือนกัน ความรู้สึกหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อขอวีซ่าไปประเทศตะวันตก ดูเขาจะกีดกันหรือกลัวว่าเราจะไปตั้งรกรากทำมาหากินที่บ้านเขา ไม่เหมือนเวลาเขามาบ้านเรามันง่ายเหมือนปอกกล้วย(น้ำว้าสุก)  ขากลับมาแวะห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วานเพื่อหาซื้อโน้ตบุคหรือไอโคเนียหรืออะไรก็ได้ที่หน้าจอไม่เกิน ๑๒ นิ้ว เพื่อสะดวกในการพกพาที่สามารถพิมพ์งานได้ ดูเน็ตได้ เดินดูไปมาก็มาตัดสินใจลงที่  ipad2 ของค่าย Apple มาเครื่องหนึ่ง ทั้งที่ไม่ค่อยจะมีรายละเอียดกับเครื่องรุ่นนี้เลย ซื้อเครื่องแล้วต้องซื้ออุปกรณ์พ่วงอีกหลายอย่าง ราคาค่อนข้างแพง  แต่คงสะดวกในการใช้งานเวลาสัญจรไปในที่ห่างไกล เพราะโน้ตบุคหนักเกินไป ส่วนประโยชน์ใช้สอยยังไงก็ยังสู้โน้ตบุคไม่ได้ บ่ายกลับสำนักงานเขต นั่งทำงานแฟ้มเอกสารที่ห้องสโมสร เพราะเย็นแล้วไม่อยากขึ้นไปชั้น ๓ อีก

วันพุธที่ ๒๗  กรกฎาคม  ๒๕๕๔  เช้าทำงานแฟ้มเอกสารต่าง ๆ  มีหนังสือร้องเรียนเข้าใหม่ส่งมาจากกระทรวง ๒ เรื่องดูแล้วเป็นเรื่องของครูเรากับการทำหน้าที่ด้านวิชาชีพ เรื่องแรกผู้ปกครองฟ้องไปว่าครูไม่สนใจสอนให้การบ้านเด็กน้อยไป เวลาตรวจก็ให้นักเรียนผลัดกันตรวจ ข้อร้องเรียนเรื่องนี้เป็นการร้องเรียนในขณะที่ครูกระทำการในฐานะครูวิชาชีพ ซึ่งปกติผู้มีใบวิชาชีพทั้งหลาย ย่อมมีอิสระและดุลพินิจในการตัดสินใจจัดการเรียนการสอน ทั้งนี้ ต้องมีข้อแม้ว่าการกระทำดังกล่าวต้องเป็นไปเพื่อการพัฒนาผู้เรียนตามความเหมาะสม และดุลพินิจนั้นต้องมีเหตุมีผลอธิบายได้ ผู้บริหารโรงเรียน หรือบุคคลอื่นจะใช้ดุลพินิจแทนไม่ได้ เรื่องนี้คงทำได้เพียงส่งข้อร้องเรียนไปให้เจ้าตัวทราบและพิจารณาเอาเอง เรื่องที่สอง โรงเรียนยึดโทรศัพท์มือถือของนักเรียน ผู้ปกครองมาขอคืนก็ไม่ให้ เรื่องโทรศัพท์มือถือ เป็นทรัพย์ของนักเรียนหรือผู้ปกครอง การที่โรงเรียนยึดถือไว้ คงจะสามารถอธิบายเหตุผลได้ ส่วนการส่งมอบคืนก็คงจะทำในโอกาสต่อไป คงไม่ตั้งใจจะริบของกลาง สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ โทรศัพท์มือถือ เป็นกฎต้องห้ามที่โรงเรียนกำหนดให้นักเรียนต้องถือปฏิบัติหรือไม่ คำว่ากฎ หมายความว่าจะต้องประกาศเป็นการทั่วไป ให้ทราบล่วงหน้า ใครฝ่าฝืนจะมีโทษอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ต้องเข้าใจผู้ปกครองด้วยว่า เขาเป็นห่วงลูก การซื้อโทรศัพท์มือถือให้ก็เพื่อสะดวกในการสื่อสารนัดหมายหรือแจ้งเหตุอย่างทันการณ์ หากโรงเรียนจัดช่องทางสื่อสารให้ผู้ปกครองสะดวกในการติดต่อกับลูกในมาตรฐานเดียวกัน เชื่อว่าคงได้รับความร่วมมือและปัญหานี้ก็จะหมดไป  ก่อนเที่ยงเพื่อนร่วมรุ่นมัธยมต้นคุณบรรจบ สงฤทธิ์ จากสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์จังหวัดปทุมธานีมาหา เพราะมีราชการแถวนี้พอดี ชวนกันไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารกันเอง คลองบ้านพร้าว  บ่ายประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองย้ายผู้บริหารสถานศึกษา มีผู้บริหารระดับรองผู้อำนวยการโรงเรียนขอย้าย ๑ ราย และผู้อำนวยการโรงเรียนขอย้ายอีก ๑ ราย เพื่อไปลงในโรงเรียนที่มีตำแหน่งว่าง  ในระดับรองฯ ไม่มีปัญหาเพราะเป็นไปตามเกณฑ์ปกติ แต่ในระดับผู้บริหารโรงเรียนเนื่องจากเวลาปฏิบัติงานในโรงเรียนปัจจุบันไม่ถึงปี คณะกรรมการกลั่นกรองจึงขอไปดูข้อเท็จจริงที่โรงเรียน ในวันนี้เลย ผมนั่งทำงานที่ห้องไม่ได้ไปด้วย สักพักกลับกันมา โดยสรุปยังไม่เหมาะสมที่จะเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขต ให้อนุมัติการย้ายในครั้งนี้  ประเด็นหนึ่งที่น่าคิดและต้องพิจารณาอย่างจริงจัง คือ ผู้บริหารไม่ค่อยอยู่โรงเรียน ท่านอาจมีข้อราชการภายนอกมาก เท่าที่ทราบขณะนี้มีอยู่ ๒ - ๓ แห่ง มีเวลาจะไปทำงานแทนให้เป็นบางวันและคิดว่าจะอยู่เต็มวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป   เย็นนี้มีประกาศว่าสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต วันนี้ เวลา 16.37 นาฬิกา ณ ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราช สิริพระชันษา 85 พรรษา เจ้าฟ้าพระองค์นี้ผมมีโอกาสเข้าเวรตามเสด็จประมาณ ๔๐ ครั้ง ตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ - ๒๕๓๘ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี (24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 — 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554) เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติ ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง ก่อนที่สมเด็จพระบรมชนกนาถจะเสด็จสวรรคตในอีกหนึ่งวันต่อมา พระนาม เพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี นั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้ในพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวยังโปรดให้ใช้คำนำหน้าพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ออกคำนำหน้าพระนามเป็น สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ และคำนำหน้าพระนามนี้ยังใช้จนถึงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ พระองค์ก็นับเป็นพระกุลเชษฐ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กรกฎาคม  ๒๕๕๔  เช้าเข้าสโมสรทักทายเพื่อนครูที่มาประชุมเรื่องการเสริมสร้างคุณธรรมในสถานศึกษา มีท่าน ศน. สุวิทย์  พันธุ์ผัก เป็นเจ้าของเรื่อง ประมาณ ๐๙.๐๐ น. เดินทางไปโรงเรียนวัดเทียนถวาย เพื่อรับมอบห้องสมุดจากองค์การเภสัชกรรมที่สนับสนุนงบประมาณ ๕ แสนกว่าบาทช่วยปรับปรุงจนได้มาตรฐาน ตามโครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษาของเยาวชนไทย ปีการศึกษา ๒๕๕๔  ซึ่งได้รับความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ รับเป็น   แวะ รพ  ไปถึงก่อนเวลาจึงนั่งคุยกับคุณสมบูรณ์ ปานย้อย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเรื่องการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน ไปถึงเรื่องพระเครื่องทางใต้ ที่ท่านมีความรู้มากกว่าผมเสียอีก  สำหรับผู้บริหารโรงเรียน ผอ.นิเวศน์  เกิดปราชญ์ ครูบอกว่าเมื่อวานน็อกเข้าโรงพยาบาลเพราะเส้นเลือดหัวใจตีบไป ๓ เส้น นับว่าเป็นโรคที่ทันสมัยสำหรับผู้บริหารโดยแท้ ท่านรองฯ กรองทอง จะโนภาษ ได้ทำหน้าที่แทนด้วยความเรียบร้อย มีอาหารกลางวันเลี้ยงแขกที่มากันที่ห้องประชุมของโรงเรียน  ขากลับมาแวะโรงพยาบาลกรุงสยาม เซนต์ คาร์ลอส  เพื่อเยี่ยมไข้ท่าน ผอ.นิเวศน์ เกิดปราชญ์ อาการดีขึ้น หมอให้พักเพื่อฉีดสีดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป บ่ายทำงานที่ห้องเป็นแฟ้มงานต่าง ๆ  เย็นผู้บริหารโรงเรียนประมาณ ๑๐ ท่านมาเยี่ยมที่สโมสร

วันศุกร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔  เช้านี้นั่งทำงานเอกสารที่ห้อง เป็นวันแรกที่รัฐบาลมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้ไว้ทุกข์ต่อเนื่องไป ๑๕ วัน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีโทร.มาหาบอกว่าให้ช่วยติดต่อผู้บริหารโรงเรียนท่านหนึ่งให้ไปเคลียร์เงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่จังหวัดหนึ่ง เพราะครูผู้ค้ำประกันกำลังเดือดร้อน  เที่ยงชวนท่านรองฯ ประพฤทธิ์ บุญอำไพ และฝ่ายเลขานุการไปทานข้างแกงปักษ์ใต้ที่มาเปิดใหม่เลยเขตไปนิดหนึ่ง ไม่ได้กินแกงเทโพลูกกระท้อนนานแล้ว วันนี้ได้กินอีกครั้ง อาหารอย่างอื่นก็พอใช้ได้   บ่ายอาจารย์สมเกียรติ พิกุลแก้ว โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ แวะมาหา เคยเรียนปริญญาตรีวิชาเอกเคมีด้วยกันมาที่ประสานมิตร วันนี้มาประชุมพิจารณาผลงานทางวิชาการ บ่นให้ฟังว่าพยายามลุ้นเต็มที่แล้ว ด้วยมารยาทก็ไม่ได้ถามผลว่าเป็นอย่างไร เย็นนี้ฝนตกหนักมากเป็นผลพวงมาจากอิทธิพลพายุโซนร้อนนกเต้นในทะเลจีน เข้าไปดูผลการสอบตุลาการศาลปกครองชั้นต้น มีผู้สมัคร ๖๐๐ คน สอบผ่านข้อเขียน ๑๒ คน เป็นพนักงานคดีปกครอง ๑๐ คน บปค. รุ่น ๑ ได้ ๒ คน ในรุ่น ๒ ที่กำลังอบรมไปสอบกัน ๓๗ คน ไม่ผ่านแม้แต่คนเดียว  หากผมไปสอบก็คงไม่ผ่านเช่นกัน คิดว่าน่าจะเปิดสอบใหม่เร็ว ๆ นี้ จะไปลองวิชาดูสักตั้ง  สัปดาห์ที่ผ่านมาเฮลิคอปเตอร์ทหารตกที่แก่งกระจานถึง ๓ ลำ เป็นข่าวใหญ่  ทำให้นึกถึงเรื่องขำขันของฝรั่งอเมริกันที่เปรียบเทียบให้เห็นว่า คำพูดนักการเมือง เชื่อไม่ได้ ซึ่งท่านวิชัย ชื่นชมพูนุท รองประธานศาลปกครองสูงสุดเล่าให้ฟัง  เริ่มว่ามีการส่งทีมคณะกรรมาธิการของรัฐสภาไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในการสัมปทานเหมืองแร่ในถิ่นกันดาร ปรากฏว่าขาดการติดต่อกันไป  รัฐก็ส่งทีมไปค้นหาแบบเดียวกับที่เราส่งเฮลิคอปเตอร์ไปค้นหาที่แก่งกระจาน ก็ไปพบชาวบ้าน สอบถามได้ความว่าทีมสำรวจตกลงมาจากถนนบนไหลเขา  คณะค้นหาถามว่าพวกเขาไปไหนแล้ว ชาวบ้านบอกว่าได้ช่วยกันฝังศพเรียบร้อยแล้ว  คณะติดตามถามว่าตายกันหมดเลยหรือ ไม่มีรอดบ้างหรือไร  ชาวบ้านบอกว่าที่ยังพูดได้ก็มีแต่คำพูดของนักการเมืองเชื่อถือไม่ได้ เขาบอกว่าเขาไม่ตายเราไม่เชื่อ เราจึงนำไปฝังหมดทุกคน

กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑