แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมโรงพยาบาลวังเวียง ประเทศลาว


ทีมที่มาจะประทับใจความสะอาดเรียบร้อยของสถานที่ในโรงพยาบาลบ้านตาก ซึ่งเราถือว่าเป็นจุดแข็งที่สำคัญของเราเพราะโรงพยาบาลเป็นที่เก็บรับเชื้อโรคมากมายแลใครๆก็ไม่ค่อยอยากมาและรู้สึกว่าสกปรก เราจึงต้องทำให้คนที่มารู้สึกว่าที่นี่สะอาดและปลอดภัยที่จะมาเยี่ยมเยียน

วันนี้ 26 กันยายน ก่อสิ้นปีงบประมาณ ทางโรงพยาบาลบ้านตากก็ได้รับเกียรติจากทีมงานของโรงพยาบาลวังเวียง นำโดยนายแพทย์เพ็ดสะมอน ผู้อำนวยการ นอกจากนี้ยังมีทีมงานจากกระทรวงสาธารณสุขลาวร่วมทีมมาด้วย มีสาธารณสุขอำเภอ นายแพทย์สาธารณสุขแขวงเวียงจันทร์(นายแพทย์สุพพะทัย) นำทีมมาและมีแพทย์ที่ปรึกษาจากเบลเยี่ยมร่วมด้วย โรงพยาบาลวังเวียงเป็นโรงพยาบาลของเมืองหรือรพ.อำเภอบ้านเรา ส่วนจังหวัดเรียกว่าแขวงมีโรงพยาบาลแขวง เมืองวังเวียง(อำเภอ)มีประชากร 46,000 คน มีสุขศาลา(อนามัย) 4 แห่ง มีแพทย์อยู่ 2 แห่ง แขวงเวียงจันทร์เป็นจังหวัด 1 ใน 18 จังหวัดของลาว มีประชากร 5 ล้านคนและมีมหานครเวียงจันทร์ เป็นเมืองหลวง รพ.วังเวียงมีแพทย์ 7 คน แพทย์ลาวเรียน 7 ปี แต่จบมารับเงินเดือนเท่ากับปริญญาตรี ซึ่ง ดร.พิสิฐหัวหน้าฝ่ายพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขลาวบอกว่าจะนำข้อมูลไปปรึกษารมว.ของเขาเพื่อปรับเงินเดือนเริ่มต้นของหมอลาวให้ได้ในระดับปริญญาโทเหมือนของไทย  เดี๋ยวจะกลับมาเล่าต่อครับ

             เช้าวันนี้ผมเริ่มงานตั้งแต่ 06.30 น.ด้วยการตรวจผู้ป่วยในหอผู้ป่วยหญิงมีคนไข้ทั้งหมด 31 เตียง ตรวจจนถึงเกือบ 9 โมงเช้า วันนี้จึงไม่สามารถไปส่งลูกชายคนโต(น้องแคน)ไปโรงเรียนได้ต้องให้คุณแม่เขาไปส่งแทน มีเคสยากๆอยู่ 4-5 รายที่ต้องพยายามหาการวินิจฉัยให้ได้ชัดเจน พอเสร็จก็ลงมากินข้าวเช้าและขึ้นไปทำงานอีกครั้งตอน 9 โมงเช้า ก็ต้องเร่งเซนต์เอกสารให้ฝ่ายบริหารเพื่อไปเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการสมุนไพร ประมาณ 9.30 น.ก็ได้ไปต้อนรับทีมงานจากโรงพยาบาลวังเวียง ก็ได้แนะนำจังหวัดตาก อำเภอบ้านตาก มีการแนะนำตัวกันก่อนพร้อมตกลงกันว่าจะดูงานอะไร แลกเปลี่ยนอะไรกันบ้าง ตกลงว่าให้ผมเล่าให้ฟังว่าเราพัฒนาโรงพยาบาลมาอย่างไรบ้างก็ใช้เวลาไปประมาณ 1.30 ชั่วโมง พอสัก 10.30 น.ก็มีการซักถามกันและพูดคุยกับทีมFacilitatorต่อ ผมก็ต้องขอตัวไปร่วมกับทีมจากสสจ.ตากและสถาปนิกจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อชี้สถานที่ก่อสรางอาคารพักพยาบาลของโรงพยาบาลจนเสร็จเกือบเที่ยงก็ให้หัวหน้าบริหารพาทีมชี้สถานที่ไปรับประทานอาหารกลางวัน ส่วนผมก็พาน้อๆหมอทั้ง 4 คน ไปร้วมรับประทานอาหารกลางวันกับทีมของสาธารณสุขลาวที่ร้านครัว 343ริมแม่น้ำปิง บรรยากาศดีแต่ลมไม่ค่อยพัดก็ร้อนไปหน่อย พอบ่ายโมงทานอาหารเสร็จก็แบ่งเป็น 2 ทีม ทีมแรกไปเยี่ยมชมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและสถานีอนามัยทุ่งกระเชาะ ส่วนอีกทีมหนึ่งกลับไปแลกเปลี่ยนกับแผนกต่างๆในโรงพยาบาลต่อ จนถึง 16.30 น. ก็มารวมกันที่ห้องประชุม มีการพูดคุยซักถามกันต่อจนถึง 5 โมงเย็นก็ถึงเวลาร่ำลา(ไม่ได้ร่ำสุรานะครับ)และถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกที่ด้านหน้าอาคารโรงพยาบาลและแยกย้ายกันด้วยบรรยากาศและความรู้สึกแห่งมิตรภาพและคาดว่าเราน่าจะได้ไปเยี่ยมชมที่โรงพยาบาลวังเวียงบ้างในอนาคตข้างหน้า

            ทีมที่มาจะประทับใจความสะอาดเรียบร้อยของสถานที่ในโรงพยาบาลบ้านตาก ซึ่งเราถือว่าเป็นจุดแข็งที่สำคัญของเราเพราะโรงพยาบาลเป็นที่เก็บรับเชื้อโรคมากมายแลใครๆก็ไม่ค่อยอยากมาและรู้สึกว่าสกปรก เราจึงต้องทำให้คนที่มารู้สึกว่าที่นี่สะอาดและปลอดภัยที่จะมาเยี่ยมเยียน เดิมเมื่อ 8 ปีก่อนก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่บ้านตาก เขาจะให้คนไข้ถอดรองเท้าเดินเข้าโรงพยาบาลเพื่อสะดวกในการทำความสะอาด ทำให้พื้นสะอาดง่าย พอผมมาอยู่ผมก็สังเกตว่ามีปัญหาเข็บคนไข้ยากเพราะรองเท้าเต็มทางขึ้นตึกไปหมด เริ่มมีปัญหารองเท้าหาย เจ้าหน้าที่ใส่รองเท้าแตะ(สำหรับบนตึก) ตำรวจทหารที่ใส่รองเท้าบู๊ตมาตรวจแล้วถอดรองเท้ายาก ผมก็เลยเสนอให้ยกเลิกการถอดรองเท้า ให้ใส่ขึ้นมาได้เลยเพราะผมมองเห็นปัญหาและคิดว่าการทำความสะอาดเป็นหน้าที่ของเรา ไม่ใช่หน้าที่ของคนไข้ อีกอย่างการที่เจ้าหน้าที่ใส่รองเท้าแตะแม้จะเป็นรองเท้าสะอาดเฉพาะบนอาคารแต่คนไข้เขาก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมเราใส่ได้ ผมเองก็รู้สึกในใจว่าศักดินาเกินไปไหม และอีกอย่างในห้องฉุกเฉินมักจะมีเลือดของผู้ป่วยหยดอยู่บ่อยๆ หากคนไข้คนอื่นไปเหยีบเลือดที่มีเชื้อดรคแล้วเขามีแผลเขาก็เสี่ยงต่อการติดโรคได้ เราเองก็ถกเถียงกันอยู่นานกว่าทีมเขาจะยอมใหใส่รองเท้ามาบนตึกได้ สามารถแก้ปัญหาต่างๆที่กล่าวมาได้และปรากฎว่าพื้นและอาคารก็สะอาดมากกว่าเดิมอีกด้วยเพราะโดยธรรมชาติคนไทยจะเกรงใจสถานที่พอเห็นเราทำพื้นสะอาดเขาก็จะดูแลรองเท้าที่เขาใส่มาให้สะอาดด้วย และที่ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือทำให้เจ้าหน้าที่แต่งตัวเรียบร้อยขึ้นพราะใส่รองเท้าเรียบร้อยกว่ารองเท้าแตะ ดูสมาร์ทกว่าเดิมเยอะ เมื่อตนที่อาจารย์หมอจากศิริราขมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลก็ชมเราว่าเป็นโรงพยาบาลที่สะอาดมาก พอมาอีกปีอาจารย์ก็แอบมาตอนพักเที่ยง ตอนที่เราลงไปกินข้าวกัน อาจารย์แอบไปดูทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน แล้วพอตอนบ่ายโมงอาจารย์ก็มาชมพวกเราว่าจากปีที่แล้วและปีนี้มาสองรอบความสะอาดไม่ได้ตกลงเลยและสะอาดที่สุดในบรรดาโรงพยาบาลที่เคยไปมา เมื่อปีที่แล้วท่านอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดตากก็แอบมาดูความสะอาดของโรงพยาบาลเราเพราะได้ยินชื่อเสียงมานาน โดยท่านแอบไปเข้าห้องน้ำผู้ป่วย แล้วท่านก็มาที่ห้องทำงานผมแล้วก็เล่าให้ผมฟังท่านก็ชมว่าสะอาดจริงๆขนาดห้องน้ำคนไข้ที่ตึกเก่ายังสะอาดเลย

            ทีมของสาธารณสุขลาวที่มามีแพทย์ผู้ชาย 6 คน มีแพทย์ผู้หญิงอยู่ที่สุขศาลา 2 คน มีหัวหน้าพยาบาลและทีมผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกมาด้วยซึ่งผมเองก็จำชื่อได้ไม่หมด มาทั้งหมด 19 คน มีคนไทยพยาบาลที่ไปเป็นผู้ประสานงานพัฒนาโรงพยาบาลตามโครงการของเบลเยียมนำทีมมากับผู้บริหารโครงการคือดร.แฟร๊งค์ แฮจิแมน เป็นโครงการปฏิรูประบบริการสาธารณสุขในแขวงเวียงจันทร์และขวงสุวรรณเขต ผู้ประสานเป็นพยาบาลชาวไทยชื่อคุณอุมากร สีทอง ตอนแรกเจอกันที่ขอนแก่นที่อาจารย์จิตเจริญHACCมข จัดนั้นผมนึกว่าเขาเป็นคนลาวแต่ทำไมพูดไทยชัดมาก มีผู้ประสานดครงการชาวลาวเป็นหมอชื่อดร.ด่างล้ำ มะหาโย จบแพทย์และจบปริญญาโททางด้านเวชศาสตร์ชุมชน ผมก็พบเป็นครั้งที่สองคราวก่อนที่ขอนแก่นเข้ากลุ่มเดียวกันแต่ไม่รู้ว่าเป็นคนลาวนึกว่าเป็นคนไทย มี ดร.พิสิด พูนสะวัด เป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขลาว เดิมเป็นศัลยแพทย์อยู่ที่หลวงพระบางตอนนี้ย้ายเข้ากระทรวง อีกท่านหนึ่ง(ทั้ง 3 ท่านนี้เป็นหมอรุ่นเดียวกัน ตอนนี้ไม่ได้เป็นหมอแล้วเปลี่ยนมาเป็นผู้บริหาร)คือดร.สุพพะทัย สอปะเสิด เป็นนายแพทย์สาธารณสุขแขวงเวียงจันทร์เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดเวียงจันทร์(ไม่ใช่นครเวียงจันทร์ที่เป็นเมืองหลวง) สำหรับผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังเวียงคือหมอเพ็ดสะมอน เป็นหมอรุ่นพี่ผมประมาณ 3 ปี เป็นหมอทั่วไป ทีมงานก็สนใจงานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลเพราะที่ลาวยังไม่มี พรพ. เขาเริ่มทำด้วยใจรักและอยากทำ ผมก็เน้นเรื่องกิจกรรม 5 ส ที่ไปสู่ผู้ป่วยและเร่าเรื่องการพัฒนาตามตัวแบบบ้านคุณภาพสร้างสุขของโรงพยาบาลบ้านตาก เขายังสนใจเรื่องการก่อสรางสถานีอนามัยของเราที่ดูใหญ่โตโอ่โถงมาก และคนที่จดและถามมากที่สุดคือหมอแฟร๊งค์ เท่าที่ผมสังเกตดูเวลามีฝรั่งมาดูงานประมาณ 3-4 รอบนี่ ดูจะถามมากกว่าคนไทยมาดูงานประมาณ 30 รอบ ซะอีก ในรายละเอียดอื่นๆเจ้าหน้าที่แต่ละจุดเขาก็จะได้แลกเปลี่ยนพูดคุยมากกว่าผมเพราะลงพื้นที่จริง ช่วงบ่ายผมไม่ได้ติดตามทีมเลยเพราะมีผ่าตัดคนไข้เสร็จบ่ายสองโมงครึ่ง ก็มีconsultไปดูผู้ป่วยในหอผู้ป่วย เจอกันอีกทีก็ประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว ผมคิดว่าการแลกเปลี่ยนในวันนี้ผู้ที่ได้ก็คือทั้งเจ้าบ้านและผู้มาเยือนนั่นเอง

      พรุ่งนี้โรงพยาบาลบ้านตากมีกิจกรรมสรางเครือข่ายสร้างสุข คือการสัมมนามัคทายกและโฆษกชุมชนเพื่อสรางเสริมสุขภาพ หากมีประเด็นที่ดีๆจะนำมาเล่าให้ฟังครับ เมื่อเดือนพฤษภาคมเราก็จัดสัมมนาสื่อมวลชนและสื่อพื้นบ้านสรางเสริมสุขภาพไปแล้ว เมื่อต้นเดือนกันยายนก็มีกิจกรรมโรงพยาบาลในฝันของหนู ที่นำนักเรียนตัวเล็กๆชั้นป.1-3 มาทำกิจกรรมในดรงพยาบาลและให้รู้จักโรงพยาบาลก็ยังไม่ได้นำมาเล่าให้ฟัง เอาไว้มีโอกาสจะนำมาเล่าเกี่ยวกับกิจกรรมของโรงพยาบาลที่มีอะไรใหม่ๆอยู่หลายด้านครับ

หมายเลขบันทึก: 4511เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2005 16:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 16:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
เพิ่งเห็นบล็อกและเพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองค่ะ

อยากไปอยู่เวียงจันทร์ อยากไปเป็นพยาบาลเวียงจันทร์ค่ะ

จบเทคนิคการแพทย์อยากไปเรียนต่อแพทย์ที่ประเทศลาวต้องทำยังไงบ้างครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

นศ.คณะสาธารณสุขศาสตร์

ผมเรียนสาสุข มหิดล ตอนนี้อยู่ปี3ครับ สาขาวิชาเอกอนามัยชุมชน

Summer นี้จะเป็นการทดลองฝึกงานโดยเราเป็นคนเลือกสถานที่เอง

2-3 เดือน แล้วผมอยากไปฝึกงานที่สปป.ลาว มีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ

กรุณาให้คำแนะนำผมด้วย อยากไปมากๆๆ โดยเฉพาะถ้าได้ไปฝึกในกลุ่ม

โครงการปฏิรูประบบริการสาธารณสุขในแขวงเวียงจันทร์และขวงสุวรรณเขต

ผมอยากเรียนรู้ทั้งงานเอกสารและงานเวชศาสตร์ชุมชน

ขอขอบพระคุณมากครับ

นศ.

นางสาวกัญญาภัค ผลจันทร์

ดิฉันเป็นพยาบาลสาวสวยค่ะ จากจ.สกลนคร ไทยแลนด์ มีคณะร่วมเดินทาง 10คน เพือนๆทุกคนไม่เคยมาเที่ยวประเทศลาวเลย อยากเจอเพื่อนคนลาวที่เป็นสายอาฃีพเดืยวกัน คือสายสาธารณะสุข เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักวิชาการ ฯลฯ หญิง or ชายก็ได้ อายุ ไม่จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การในการทำงานเกี่ยวกับระบบสุขภาพ ของ สปป.ลาว และ ของประเทศไทย

จะมาในช่วงต้นเดือน ก.ค 2554 มาจำนวน 2 วัน1 คืน หวังว่าจะได้รับการตอบรับจากท่าน Dr.Phichet เป็นอย่างดี

หวังว่าคงได้พบกันนะค่ะ

Nokyai

ผมยากทราบว่า มีพืนฐานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในไทยยากเรียนต่อแพทย์และทำงานที่ลาวเป็นไปได้มัยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท