จาก weekly meeting สคส. วันนี้ บางช่วงบางตอนในที่ประชุมได้พูดถึงการจัดการความรู้ในโรงเรียน ทำให้ดิฉันนึกถึงเมื่อครั้งที่เคยทำงานส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนชนบท จะว่าไปแล้วการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ก็ถือเป็นเครื่องมือจัดการความรู้อย่างหนึ่งที่มุ่งไปที่เด็กโดยเฉพาะ โครงงานวิทยาศาสตร์ที่ทำง่ายและเป็นที่นิยมทำกันในโรงเรียนเหล่านั้นคือโครงงานประเภทสำรวจ เป็นโครงงานที่เด็กๆ ได้สำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างสนุกสนานเนื่องจากได้ปฏิบัติจริง ซึ่งสามารถสำรวจได้ทั้งในโรงเรียนและในหมู่บ้าน แต่การสำรวจนั้นเด็กๆ ต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์คือ ต้องมีการวางแผนสำรวจว่าจะสำรวจจุดใดบ้างระยะเวลานานแค่ไหน ออกแบบการบันทึกผลการสำรวจเพื่อให้ได้ผลครบถ้วน และสุดท้ายคือการสรุปและวิเคราะห์ผลการสำรวจ
ตัวอย่างโครงงานสำรวจ การสำรวจสิ่งมีชีวิตในลำน้ำสายหลักที่เป็นแหล่งอาหารของคนในหมู่บ้าน การสำรวจสมุนไพรพื้นบ้านในการรักษาโรคจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน หรือแม้แต่การรวบรวมพันธุ์พืชในหมู่บ้านโดยการเขียนชื่อสามัญที่คนในหมู่บ้านเรียกกันควบคู่ไปกับการหาชื่อวิทยาศาสตร์ของพันธุ์พืชนั้น เป็นต้น โครงงานเหล่านี้นอกจากจะเป็นการจัดการความรู้ในระดับปัจเจกคือในตัวเด็กเองแล้ว หากโรงเรียนมีการทำโครงงานลักษณะนี้เกิดขึ้นมากมายคงถือได้ว่าเป็นการจัดการความรู้ระดับโรงเรียนได้
การจัดการความรู้โดยการใช้โครงงานวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ ครูต้องเข้าใจขั้นตอนและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พอสมควรจึงจะสามารถถ่ายทอดไปยังเด็กได้ถูกต้อง หากแต่ครูวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษาในโรงเรียนชนบทเท่าที่ดิฉันเคยสัมผัสแทบจะไม่มีครูที่จบวิทยาศาสตร์เลย ทำให้การทำโครงงานวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นน้อยในโรงเรียนเหล่านี้เพราะทุกสิ่งในโรงเรียนจะเกิดขึ้นได้ล้วนมาจากครูทั้งสิ้น แต่หากมองในโรงเรียนใหญ่ๆ หรือโรงเรียนเอกชนที่มีบุคลากรเพียบพร้อม แล้วนำโครงงานวิทยาศาสตร์ไปใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการจัดการความรู้ในโรงเรียนที่มุ่งผลไปที่เด็ก ดิฉันคิดว่าเด็กๆ คงจะได้รับประโยชน์ไม่ใช่น้อยและโรงเรียนนั้นคงประสบความสำเร็จในการจัดการความรู้ไปด้วย
ดีมาก