ต้นจัน ต้นอินจัน หรือ ต้นจันโอจันอิน อดีตความทรงจำที่ยังอยู่กับเรา


... เดินผ่านไปมาใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่มาก ๆ ต้นหนึ่งในวัด เมืองเกิด(ชื่อวัดราษฎรบำรุง) เดินผ่านวันละสองรอบ ไปและกลับโรงเรียน.... นี่คือ ความทรงจำที่งดงามเกี่ยวกับต้นอินจันนี้ ในวัยเด็ก

จากการอ่านและแสดงความคิดเห็นไว้ ที่นี่

"พี่นุชคะ มาอ่านได้ความรู้จริง ว่า ต้นจัน หรือ ต้นอินจันให้ผลได้สองแบบ...."

พาความคิดตัวเอง ทอดตัวไปในอดีต ถึงต้นไม้นี้

มีความหลังฝังใจวัยเด็ก เป็นความสุขเมื่อนึกถึง คล้ายเรานั่งชมภาพยนต์แล้วมีช่วงตอน  flash back กลับไปซีนหนึ่ง

ค่ะ ที่วัดในชลบุรีบ้านเกิดมีต้นอินจันนี้ ใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่มาก เราจะต้องเดินผ่านวัดนี้ เพื่อไปโรงเรียน เวลาเราเดินผ่านไปโรงเรียน มักเก็บผลเขาไปดอมดมเรื่อย

นั่งคิดทบทวน ทอดความคิดคำนึงไปในอดีต เห็นภาพราง ๆ เลือน ๆ ว่าเก็บได้แต่ลูกแป้น ๆ หอมอ่อน ๆ เรื่อย ๆ ถ้าเก็บนานหลายวันจะเริ่มช้ำ ไม่สวยหากยังหอมอยู่ ไม่เคยคิดทดลองกิน ทั้งที่วัยเด็ก เรา ก็ซุกซนคนหนึ่ง เพื่อนสมัยเด็กบางคนก็ว่ากินได้ อายุตอนนั้นแค่แปดเก้าขวบกระมังคะ เพราะเรียนอยู่ประถมต้น  

เมืองไทย โดยเฉพาะต่างจังหวัดเล็ก ๆ(เดี๋ยวนี้-ชลบุรีไม่เล็กแล้ว) น่าอยู่ เป็นเมืองปลอดภัย เราเป็นเด็กผู้หญิง สามารถเดินไปกลับระหว่างบ้านและโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งได้ ไม่น่ากลัวอะไร 

จำได้ว่า เลือกเดินเส้นทางนี้ทั้งที่มีหลายเส้นทาง เพราะจะได้เดินผ่านไปมาใต้ร่มเงาของต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งใหญ่มาก มีร่มเงาให้ได้อาศัยไม่ให้ร้อน  เป็นไม้ใหญ่ในจำนวนสามสี่ต้นภายในวัด(นึกชื่อเต็มออกแล้วค่ะ ชื่อวัดราษฎรบำรุง) เดินผ่านวันละสองรอบ ไปและกลับโรงเรียน

ใต้ต้นมักมีผลของลูกจัน ลูกแป้น ๆ สีเหลืองนวล ผิวเกลี้ยงเนียน บางครั้งได้ลูกอ่อนหน่อยจะสีเขียว เรียบเนียนสนิทเช่นกัน เรานึกว่ามีชื่อว่า ต้นลูกจันอย่างเดียว ในตอนเป็นเด็กคราวนั้น คิดไปถึงฝาแฝด อินจัน ให้สงสัยว่าทำไมฝาแฝดถึงชื่อ อินจัน เราไม่รู้จักลูกอินมาก่อน

เป็นของฝากที่ลูกสาวเลือกเก็บให้ แม่

เป็นของฝากที่เลือกลูกสวย ๆ หอม ๆ เก็บไปวางไว้บนโต๊ะทำงานคุณครูประจำชั้น ที่เรารักเคารพ ครูทักทายเราบ้างหรือเปล่า จำรายละเอียดไม่ได้ จำได้แต่ว่า วัยเด็กตัวเองเป็นเด็กเงียบ เงียบมาก ขี้อาย เรียบร้อย(จริง-ขอรับรองให้กับตัวเองค่ะ) คุณครูเลือก(คิดเอาเองว่าต้องใช้คำนี้ "เลือก")

คุณครูเลือกให้เป็นนักเรียนที่ต้องถอดรองเท้า คลานเข่าเข้าไปรินน้ำเย็นหยดด้วยน้ำยาอุทัยทิพย์ ซึ่งถังน้ำเย็นนี้ตั้งอยู่ในห้องพักคุณครูใหญ่ มาให้คุณครูดื่มช่วงเช้าหนึ่งแก้ว และช่วงบ่ายอีกหนึ่งแก้ว

เป็นของเล่นที่พี่สาวอย่างเราเลือก ลูกจันที่ไม่สวยนัก ให้น้องชายอายุอ่อนกว่าเราไว้เล่น

นี่คือ ความทรงจำที่งดงามเกี่ยวกับต้นอินจันนี้ ในวัยเด็ก

 

เมื่อเป็นผู้ใหญ่ ความทรงจำครั้งที่สองที่ได้ยินชื่อและเรื่องราวของ ต้นอินจันนี้คือ  

เมื่อกลางปีพศ.2549 น่าจะเป็นปลายเดือนมิถุนายน มีเพื่อนรุ่นพี่ ดั้นด้นค้นจนพบเจอว่าเรามาอาศัยและทำงานอยู่จังหวัดนครปฐม รุ่นพี่คนนี้นั่งรถไฟเป็นระยะทางไกลเพื่อมาพบหน้าพูดคุยกัน

เราไปรับที่สถานีรถไฟ แว่บแรกที่พบ หน้าตาพี่ดูสดชื่น ใบหน้าเปลี่ยนแปลงตามวัยไปบ้าง แต่เสียงพูดคุย บุคลิก คงเดิม เนื้อตัวต่างหากเล่าที่ดูว่า เจ้าตัวคงไม่สบายตัวนัก ต้องนั่งรถไฟไทยมาหนึ่งคืน ในสมองเราจึงผุดความคิดที่อยากพา พี่ ไปบ้านคุณหงุ่น เพื่อนสนิทมาก ๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เพื่อล้างหน้าล้างตา

ไปถึงบ้านคุณหงุ่น เธอเพิ่งได้รับต้นจันมา สูงเมตรเศษ ๆ ดูแข็งแรง ตอนนั้นมีคนล้อมมาให้เธอ แต่เธอเอื้อนเอ่ยยกให้เราเพราะที่บ้านเธอมีแล้ว และเธอรู้ดีว่า เราเป็นคนรักการปลูกและดูแลต้นไม้ เธอบอกว่าต้นจันนี้เป็นไม้ใหญ่ โตไปนานๆ ต้นจะใหญ่มาก

สามีเธอเดินมาสมทบแล้วเอ่ยเพิ่มเติมข้อมูลว่า ต้นไม้นี้ให้ผลสองแบบ เรียกต้นอิน-จัน ช่วยคะยั้นคะยอด้วยความเต็มใจ ว่า

"ถ้าหมอสะดวกวันไหน จะให้คนที่บ้านยกไปให้ และช่วยปลูกด้วย"

เราตอนนั้นยังไม่ได้ปรับพื้นที่ที่ดินตัวเอง ยังอาศัยอยู่บ้านหลวง ความอยากได้มีมาก แต่ความเป็นห่วงต้นไม้มีมากกว่าจึงต้องกล่าวปฏิเสธปนความเสียดาย และขอบคุณ

แนะนำให้เขายกให้คนอื่นไปก่อน

 

เรื่องราวของต้นอินจันที่พานพบเรื่องของเขา ครั้งที่สาม

เมื่อฤดูร้อนสองปีก่อน(พศ.2551) อากาศในไทยและนครปฐม ร้อน แห้ง และ แล้งมาก เห็นด้วยตาว่า ไม้เล็กและไม้กลางใหญ่กลางเล็ก แห้ง เฉา ยืนแห้งตายไปหลายต้น

ต้นไม้กลาง ๆ ต้นหนึ่ง สูงประมาณหนึ่งเมตร ถูกปลูกไว้ทดแทนต้นหูกวางใหญ่ยักษ์ที่โค่นล้มตายไปตามกาล ริมคลองเจดีย์บูชา กลางเมืองนครปฐม

หน่วยปลูกเขาปลูกไว้ที่บนทางเท้า

แต่ไม่มีใครมาดูแลเขายามแล้งสุดขีด

ต้นไม้นี้ มองผิวเผินใบคล้าย ๆ ต้นพิกุล เมื่อเข้าไปมองใกล้ ๆ เราเริ่มสงสัยว่าอาจเป็นต้นจัน ไม่แน่ใจโทรตามเพื่อนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้ให้มาช่วยกันดู และเพราะมีเรื่องให้เขาช่วยเราดูด้วยว่า ต้นไม้ต้นนี้ กำลังอาการหนัก ใบเริ่มแห้งกรอบ ร่วงหลุดจากกิ่งไปมาก จะตายจากความแล้งแล้วใช่ไหม จะช่วยเขาได้อย่างไร

เมื่อเพื่อนมาดู เขายืนยันว่าคือ ต้นจัน

"หายากแล้วนะ เดี๋ยวนี้"

เมื่อตรวจดูอาการ เห็นว่าแห้งมาก ๆ แล้วจริง จึงรีบช่วยกันรดน้ำบริบาล ดูแลกันสองสามสัปดาห์ จนเจ้าพ้นภัย รอดชีวิตมาได้

ตอนนี้ต้นจันริมคลองเจดีย์บูชานี้ ดูสวยสดงดงาม แข็งแรงดี

ยังจดจำความยินดี ปิติเล็ก ๆ ในใจ เมื่อแรกเห็นใบอ่อนผลิจากต้น สองสามปีก่อนที่ได้ช่วยกันกับเพื่อน พาเขารอด ดีใจ ปลื้มใจทุกครั้งที่เดินผ่าน

วันไหนขยันจะไปถ่ายรูปเขามาค่ะ 

 

 

เขียนบันทึกนี้แล้ว คิดในใจว่า

ต้นจัน ต้นอินจัน หรือ ต้นจันอินจันโอ เพียงคิดถึง

พาเอาอดีตความทรงจำที่งดงามในวัยเด็ก

พาเรื่องให้หวนคิดถึงความทรงจำยามวัยรุ่น 

และวัยผู้ใหญ่มาได้

 

ความทรงจำเหล่านี้จากอดีต ยังฝังตัว ติดอยู่กับความคิดในจิตใจเราจนปัจจุบัน

พาให้มีความสุข 

หวนคิดถึงบ้านเกิด

โรงเรียนที่เราเล่าเรียนแต่เล็ก

เพื่อนรุ่นพี่ ที่มีความทรงจำดี ๆ ต่อกัน

เพื่อนปัจจุบันเช่น คุณหงุ่น คุณ และพี่นุช พี่สาวแสนดีที่พบกันจากเวบโกทูโน(gotoknow.org)

และ

ชะรอยเราเองมีเรื่องผูกพันในทางดีกับต้นจัน ต้นอินจัน หรือจันอินจันโอ อยู่แน่ ๆ

เมื่ออ่านบันทึกพี่นุช พี่สาวแสนดีจบเมื่อคืน เขียนบันทึกจบในวันนี้

พรุ่งนี้ว่าง

ตามรอยหาต้นจัน มาปลูกสักหนึ่งต้น

คงสำเร็จนะคะ

 

 

ขอบคุณบันทึกพี่นุช ที่นี่ ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 449388เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2011 19:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

น้องหมอเล็กภูสุภา มีความหลังวัยเด็กที่งดงามนะคะ

การเป็นคนที่ชอบธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้มาตั้งแต่เด็กจึงทำให้มีความละเมียดละไมในอารมณ์ แต่งบทกวีได้ไพเราะ ถ่ายภาพก็งดงามมีชีวิต แถมชอบปลูกต้นไม้ด้วย พี่ได้แค่ชื่นชม ปลูกอะไรกับเขาไม่งอก ไม่งามค่ะ

ต้นจันริมคลองเจดีย์บูชาโชคดีมากค่ะที่มีคนใจบุญไปช่วยชุบชีวิตยามแล้ง ต้นไม้ไทยๆนี่พอเขาโตเต็มที่ก็มักแข็งแรงอยู่ไปได้แบบเทวดารักษาเลี้ยงดูนะคะ

ดีใจจังที่น้องหมอเล็กได้รำลึกถึงความหลังจากการมาอ่านบันทึกพี่และได้เขียนบันทึกของตัวเอง พี่คิดว่าการที่เราชอบเขียนเรื่องธรรมชาติ เขียนเล่าประสบการณ์เป็นการแบ่งปันทั้งความรู้และแง่มุมอ่อนโยนของชีวิต คลายเครียดตนเองและผู้อื่นที่ได้มาอ่านด้วยค่ะ

ต้องเป็นความผูกพันในดวงจิตตั้งแต่เด็กๆ จนเติบใหญ่ ต้นจัน จึงวนเวียนเข้ามาในชีวิตน้องหมอเล็กครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนต้องลงมือปลูกสักต้นแล้วค่ะทีนี้ โลกนี้ไม่มีบังเอิญ...

Ico48

จริงด้วยนะคะพี่นุช

น่าเขียนบทกวี ประกอบ..อีกแล้ว อิ อิ

 

ขอบคุณบันทึกพี่นุชที่ทำให้น้องคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่เปี่ยมสุข คิดถึงแบบ รู้ตัว มีสติ รับรู้ว่าเราคิดถึง ไม่ได้ผูกความคิดเข้าไปเป็น เราในอดีต

ทุกสิ่งผ่านไป ผ่านไปจริง

และอีกหลายสิ่งก็คงจะผ่านเข้ามา และผ่านไป จริง เช่นกัน

หากทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เกิดจาก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

 

เรารู้ เราคิดได้ แต่ ต้องรู้ว่า เรารู้ เราคิดอยู่ แล้วพอ

อืม ประมาณแบบนี้ที่พี่นุชกรุณาแนะนำไว้ นะคะ

 

คิดถึงพี่นุชเรื่อย ๆ ค่ะ ดูแลสุขภาพนะคะ

  • เช่นเดียวกันค่ะ...
  • ลำดวนก็หวนคิดถึงวัยเด็ก...
  • จึงขอให้สามีนำมาปลูกไว้สองต้น
  • ตอนนี้กำลังออกผล สุกหอมชื่นใจค่ะ

ลำดวนBlank วันนี้คิดถึงต้นไม้ จึงมาพบคุณลำดวนค่ะ

ดีจังปลูกไว้ตั้งสองต้น นะคะ



พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท