วันนี้ได้พบกับผู้ป่วยเป็น DM ใหม่ ชื่อนายเจษ อายุ 42 ปี มีญาติแนะนำให้มารักษาเบาหวานที่ รพ.เทพธารินทร์ เนื่องจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ คุณเจษรู้สึกว่าร่างกายผอมลงจนเพื่อนทัก น้ำหนักลด 6 ก.กใน 1 ปี ร่วมกับมี อ่อนเพลียง่าย ปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน กระหายน้ำมาก บางครั้งจะมีอาการหน้ามืดในช่วงบ่าย
จากการพูดคุยได้ข้อมูลมาว่า นายเจษเป็น DM มาประมาณ 5 ปี แต่ 2-3 ปีหลังไม่ได้ไปพบแพทย์และทานยาไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีกรรมพันธุ์เป็นเบาหวานด้วย เคยทำงานหนักที่สนามกอล์ฟ เริ่มงานตั้งแต่ตี 5 เลิกงานดึก ทำให้รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาและไม่ครบทั้ง 3 มื้อในบางวัน อาศัย ดื่มนมมากกว่า 1 ลิตรต่อวัน โดยมื้อแรกเป็นนมผสมคอนเฟลก 1 กำมือ
มื้อที่ 2 จะทานช่วงบ่าย 2- 3 เป็นพวกอาหาร
ฟาสต์ฟู้ด ข้าวเหนียวส้มตำ
มื้อที่ 3 จะทานดึกประมาณ 4-5 ทุ่ม เป็นพวกมาม่า โจ๊กคัพ
และยังมีประจำรายการอื่นๆอีก พวกน้ำอัดลมอย่างน้อย 2 กระป๋องต่อวัน ไอศกรีมหวานเย็น 4-5 แท่งต่อวัน ที่สำคัญจะชอบดื่มเบียร์กับลูกน้องแทบทุกวัน
ดูผลLABวันนี้พบว่า HBA1c=16.6 BS=291 Cholesterol=342 ถือว่ามีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน หากปล่อยให้ีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเป็นเวลานานๆ
ถ้ายังไม่รีบรักษาและควบคุมดูแลสุขภาพตนเอง
ดิฉันได้แนะนำคุณเจษไปว่า หัวใจสำคัญในการรักษาเบาหวาน คือ การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และกินยาสม่ำเสมอ
เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น ซึ่งดิฉันดูแล้วว่าเขามีความตั้งใจและพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยเสนอว่า
ประการแรก-ถ้าเป็นไปได้อยากให้งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ เพราะแอลกอฮอร์จะยับยั้งไม่ให้ตับสร้างกลูโคส ตับจะไม่สามารถนำกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานได้ แอลกอฮอร์บางชนิด เช่น ไวน์หวาน และเหล้าบางชนิด มีส่วนประกอบของCHOมาก อาจทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้ อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอร์มากเกินจะทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะไตรกลีเซอร์สูงอยู่ด้วย
ประการที่สอง-ปรับเรื่องการรับประทานอาหาร จะเห็นได้ว่า นายเจษรับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการและไม่เคยควบคุมอาหารเลย
ดิฉันได้ให้หลักง่ายๆ คือ เลือกรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการ
ของร่างกาย จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และรู้จักการเลือกรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วน และสัมพันธ์กับยาที่ใช้ รับประทานอาหารให้ตรงเวลาซึ่งจะช่วยควบคุมเบาหวานได้
จากนั้น 2 อาทิตย์ ดิฉันก็ได้พบคุณเจษอีกครั้ง ครั้งนี้เขาดูสดชื่นบอกน้ำหนักขึ้นเกือบ2กิโลกรัม 1วันหลังมาหาหมอเขาบอกว่า จะนอนเกือบทั้งวันเต็มๆจนเกือบไม่ได้ลุกมาทานข้าว ดิฉันจึงสอบถามว่า ได้มีการปรับการรับประทานอาหารอย่างไรบ้าง เขาบอกส่วนใหญ่จะทานข้าวต้มสลับกับข้าวสวย มื้อละ 2 ส่วน
กับข้าวจะเป็นพวกแกงจืด ผัดผักน้ำมันน้อย จะทานแต่เนื้อปลาและผักเป็นส่วนใหญ่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ น้ำอัดลม
และไอศกรีม แต่ช่วงกลางคืนยังมีหิวบ่อย จะดื่มนมถั่วเหลือง หรือขนมปังทาแยม 2 แผ่น ระหว่างมื้อจะทานผลไม้
ครั้งนี้ดิฉันจึงเน้นให้คุณเจษ เลือกทานโปรตีนที่มีคุณภาพดี เช่นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ นม เพื่อควบคุมระดับไขมันในเลือด
ให้ทานผลไม้ระหว่างมื้อได้ วันละ 3 มื้อ มื้อละ 1 ส่วน ดื่มนม 1-2 ชม.ก่อนนอนแทนมื้อจุกจิกก่อนนอน
รายคุณเจษนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับนักกำหนดอาหารมือใหม่อย่างดิฉัน ในการที่จะโน้มน้าวเพื่อให้คำแนะนำ
เกี่ยวกับแบบแผนการบริโภคที่้เหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาล,ไขมัน ให้ใกล้เคียง
กับคนปกติมากที่สุดและให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดิฉันคอยติดตามผู้ป่วยรายนี้ต่อไป สิ่งสำคัญคือต้องให้ผู้ป่วยได้เลือกแนวทางที่ตนเองสามารถปฏิบัติได้ง่าย แล้วดิฉันจะ up date ความคืบหน้าต่อไป อย่าลืมนะค่ะ กำลังใจจากคนใกล้ชิดสำคัญเสมอ...
สุวิชชา เทพลาวัลย์
ไม่มีความเห็น