มนุษย์มีศักยภาพที่จะพัฒนาจิตใจจากหยาบไปสู่ละเอียดจนถึงขั้นมีปัญญาอันบริสุทธิ์ได้ เฉกเช่นเดียวกับเมล็ดพืชแต่ละเมล็ดที่ต่างรอวันเติบโตขึ้นไปเป็นต้นไม้ใหญ่ ขณะที่เรามองดูเมล็ดพืชเม็ดเล็ก ๆ นั้น เราไม่สามารถมองเห็นใบ เห็นลำต้น หรือดอกผลต่าง ๆ ได้เลยว่าสิ่งที่จะผุดออกมานั้นจะเป็นเช่นไร แต่สิ่งที่ดำรงอยู่อย่างแท้จริงในเมล็ดพืชก็คือ “ศักยภาพ” ศักยภาพที่สามารถเติบโตกลายไปเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ผลิดอกออกผลเติบโตและให้ร่มเงาได้
ดังนั้นสิ่งเดียวที่เราทำได้ก็คือ การเฝ้าดูแลเอาใจใส่ ทะนุถนอมฟูกฟักด้วยการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่งใบที่เน่าเสีย ซึ่งทำให้เมล็ดพืชนั้นจะเติบโตไปเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สมบูรณ์ การดูแลเอาใจใส่ของเราก็เป็นดังการเกื้อกูลให้ “ศักยภาพ” นั้นได้เผยตัวมันเองสู่โลกและธรรมชาติ
ฉันใดก็ฉันนั้น เช่นเดียวกันในตัวมนุษย์ทุกผู้ทุกคนก็มี “ศักยภาพ” อยู่เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่ามนุษย์แต่ละคนต่างก็มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน มีสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัย การเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน แต่ศักยภาพในการเติบโตนั้นก็ยังดำรงอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน ดังนั้นจิตใจของมนุษย์ทุกผู้ทุกคนจึงสามารถพัฒนาและเติบโตจากหยาบไปสู่ละเอียดจนกระทั่งถึงขั้นมี “ปัญญา” เข้าใจโลกและชีวิตอย่างลึกซึ้งได้
แต่ “ปัญญา” นั้น มิใช่สิ่งที่มนุษย์มีมาตั้งแต่กำเนิด หากเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการอบรมบ่มเพาะเฝ้าทะนุถนอม เกื้อกูลให้ “ศักยภาพ” ที่มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดนั้น จะพัฒนาอย่างเต็มที่จนถึงขั้นมี “ปัญญา”
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราควรปฏิบัติต่อชีวิตของเราเองนั้นก็คือ “การดูแลเอาใจใส่” และพัฒนาด้วยการรักษาศีลและปฏิบัติธรรม อันเป็นการเปิดโอกาสให้ศักยภาพที่แท้จริงของเรานั้นได้เผยตัวออกมาตามวิถีทางธรรมชาติ ฝึกฝนอบรมจิตใจด้วยการทำใจให้สะอาด ประเสริฐและบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเศร้าหมอง ทำใจให้สงบจนเกิดมีสมาธิ เพื่อจะได้มีสติรู้ทันความคิดของตนเองอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดจะได้รับผลคือการมีความสว่าง รู้แจ้งเห็นจริงในทุก ๆ สรรพสิ่งตามความจริงของสิ่งนั้น ๆ นั่นก็คือ ความมี “ปัญญา” นั่นเอง
"บ่มเพาะ แตกหน่อ ต่อเติม เพิ่มพูน เพื่อการปรับใช้ในสถานที่ต่าง ๆ "
"ฝึกฝน ฝึกตน ฝึกคน เพื่อฝึกปฏิบัติ ภายใต้แสงแห่งตะวันเดียวกัน"
"ดูแล ใส่ใจ ไขปัญญหา พาใจสุข สนุกกับงานที่ทำ นำปัญญาญาณสู่กาลสมัย"
"ศักยภาพ ใหม่ของไทย เพื่อการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งวันพรุ่ง "
เขียนดีจังค่ะ...เชื่อมโยงได้ดีมาก เป็นธรรมชาติดี
ดูแลเอาใจใส่ตัวเองให้มีคุณค่า เพื่อพัฒนาให้ปัญญาเกิด "จากเมล็ดพันธ์เม็ดเล็ก ๆ จะเติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์" ยืนยัดอย่างทรนงในความเป็นคน แต่จะนุ่มนวลละมุนละไมยในความเป็นหญิง ด้วยตั้งมั่นในศีลธรรม "ต้นไม้แห่งปัญญา"
ชอบบันทึกนี้จัง...ให้ความรู้สึกที่หลากหลายดี
อาจนำเสนอกันคนละฐานคิดนะคะ...
ในทัศนะ...ของกะปุ๋มนะคะ...
ปัญญา...เกิดจาการที่มนุษย์เรานั้นเริ่มเรียนรู้...การเรียนรู้ที่ว่านั้น...ก็เริ่มจากการลืมตาดูโลก...การเรียนรู้ของมนุษย์นั้น...เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส.ทั้งห้า...สั่งสมความมีปัญญาเพิ่มมากขึ้นๆๆๆ....
....
ส่วนจิตที่ว่า...นั้น...ละเอียดขึ้น...ละเอียดขึ้น...จากการฝึกฝน...พัฒนาจิตที่หยาบ...ให้นิ่ง...และละเอียดขึ้น...
ด้วยความศรัทธาคะ...
กะปุ๋ม
"สาธุ... ท่านอาจารย์เมตตา...ครับ ฮาๆๆๆๆ....การฝึกฝนทำให้เกิดปัญญาในตน...แต่ผมเพิ่งหัดเดินครับ...เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการ km แต่การปฎิบัติก็เป็นคนชอบเดินทางอยู่บ่อย ๆ ครับ .....1 เดือน เรียกว่าเดินสายตลอดครับ ก็อย่าหาว่า รู้น้อยหรือรู้มากนะครับ ก็นำเอาสิ่งที่รู้มาร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกัน นั้นคือฐานคิดของ gotokrowครับ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปฏิบัติได้ในท้องถิ่นครับ