ปวดร้าว หนาวเหน็บ เจ็บร้อน...ไม่สบาย
เธอไม่เคยห่างหายไปแม้วันเวลาล่วงพ้นจนผ่านวัยเด็ก
ในมุมมองของเธอ...เราไม่เคยโตมากไปกว่าเด็กคนเดิมที่เธอเคยดูแลและใส่ใจ
หลายครั้ง..อาจมีบางคำออกจากปากที่ยังไม่มีวันสิ้นกลิ่นน้ำแห่งชีวิต น้ำที่กลั่นจากกายของเธอ.... ปากนั้นบอกเธอว่าหนูโตแล้วค่ะแม่ รู้สึกเองว่าเธอนั้นพูดกับบ่อยมากๆ .......อย่าขับรถเร็วนะลูก ระวังด้วยเวลาเดินทาง อย่ากินเปรี้ยวเดี๋ยวจะปวดท้อง ห่มผ้าด้วยเวลานอน ดึกแล้วถ้าหลับปิดแอร์ด้วย ตื่นเช้าออกกำลังกายด้วยจะได้แข็งแรง อย่าลืมตักบาตรตอนเช้านะ ฯลฯ หนูโตแล้วค่ะใจเราบอกเช่นนั้นอีกครั้ง
......จนวันหนึ่งที่ไข้สูง ปวดศรีษะจนแทบระเบิด สิ่งที่เห็นแม้จะไม่ได้บอกว่าไม่สบายมากน้อยอย่างไร คือสองมือที่หอบหิ้วของพะลุงพะลัง สารพัดของกินที่ชอบกินตอนที่ไม่ปวดหัวไม่มีไข้ สองมือที่คอยหยิบจับและทำให้ทุกอย่างสารพัด จนวันนี้วันที่เราบอกว่า หนูโตแล้วค่ะ ......เธอคนเดิมยังทำเช่นเดิมมือคู่เดิมยังเช๊ดตัวให้เหมือนวันที่ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆของเธอ ยังทำกับข้าวให้กิน ปากก็ยังถามว่าจะกินอะไรแม่จะทำให้.....นั้นคือสิ่งที่เด็กหญิงตัวเล็กของเธอเมื่อวันก่อนอยากบอกในวันที่เด็กหญิงคนนั้นบอกเธอว่าหนูโตแล้วค่ะแม่ ว่าหนูขอบคุณและรักแม่มากที่สุด รักที่แม่ให้ไม่เคยมีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นจริงๆค่ะ ซึ่งทำให้คิดและขอสรุปเองอย่างดื้อๆว่า คำว่า แต่ คนที่เป็นแม่คงพูดไม่เป็นใช่ไหม ค่ะ
ไม่เคยรักน้อยลงสักวินาที......
นี่คืออีกคำของคนเป็น "แม่"
คุณ miss somporn ค่ะ
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาช่วยต่อยอดความคิดดีๆอีก คงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนในโอกาสต่อๆไปค่ะ
แม่ เป็นเพียงคำสั้นๆที่มีความหมายลึกซึ่ง เป็นคำสำคัญในชี่
วิต