ถ้าพูดถึงงานอนามัยแม่และเด็ก แต่เดิมการดูแลมารดาก่อนคลอด คลอด และหลังคลอด ถือว่าอยู่ในการดูแลของหมอตำแย ต่อมาก็อยู่ในความดูแลของผดุงครรภ์อนามัย และต่อมาเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และแพทย์เฉพาะทางสูติกรรม ตามลำดับ แต่ในส่วนของอำเภอเมืองพิษณุโลก สถานีอนามัยหรือศูนย์สุขภาพชุมชนไม่ได้ให้บริการฝากครรภ์มากว่าสิบปี มีเพียง 1-2 แห่ง ใน 25 แห่งเท่านั้นที่ยังมีหญิงตั้งครรภ์มาขอใช้บริการ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลเอกชน และคลีนิก ทำให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีฐานะทางการเงินดีสามารถเลือกใช้บริการได้ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาตามมาคือ
ดังนั้นด้วยวิสัยทัศน์ของหัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว ที่มองเห็นถึงความจำเป็นและศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในศูนย์สุขภาพชุมชนในเขตอำเภอเมือง จึงเห็นควรให้จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในหญิงตั้งครรภ์แบบครบวงจรขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ และทักษะในการตรวจครรภ์อย่างมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน สามารถวินิจฉัยอาการผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์และส่งต่อรักษาได้อย่างถูกต้อง มีแนวปฏิบัติในการส่งต่อ-ส่งกลับการรักษาระหว่างศูนย์สุขภาพชุมชนกับโรงพยาบาลพุทธชินราช ที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และพัฒนาให้มีคลินิกฝากครรภ์ที่ได้มาตรฐานในศูนย์สุขภาพชุมชนครบทุกแห่ง และเปิดให้บริการอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน
ซึ่งในส่วนของผู้รับผิดชอบโครงการเอง มีแนวคิดว่าทิศทางการพัฒนาควรเน้นด้านการพัฒนาวิชาการให้แก่บุคคลากรที่เกี่ยวข้องเป็นอันดับแรกเพื่อใช้เป็นแนวทางในการให้บริการ และการมีส่วนร่วมของ PCT ทีมทั้งบุคคลากรในโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพชุมชนเพื่อสร้างข้อตกลงในการส่งต่อที่เป็นทิศทางเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 1 สอบถามความต้องการของเจ้าของหน้าที่ในการฝึกอบรม
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ศสช. 57 คน พบว่า ไม่มีประสบการณ์หรือมีประสบการณ์ในการให้บริการฝากครรภ์มากกว่า 10 ปีขึ้นไปร้อยละ 74 และต้องการอบรมทบทวนทั้งด้านความรู้ ทักษะการฝากครรภ์ การสอนสุขศึกษา มากกว่าร้อยละ 80
ขั้นตอนที่ 2 วางแผนการจัดอบรม
ดังนั้นจึงได้จัดตารางการให้ความรู้ดังต่อไปนี้ คือ
ด้านการให้ความรู้ กำหนด2 วัน คือ
วันที่ 1 การฝากครรภ์ในรายปกติ โดย นพ.ดนัย สังขทรัพย์
การให้สุขศึกษา โดยคุณอรพินท์ บุญเอี่ยม พยาบาลวิชาชีพ 7 แผนกฝากครรภ์
วันที่ 2 การฝากครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยง(Hiegh Risk)
ภาวะเสี่ยงสูงในหญิงตั้งครรภ์ โดยนพ.ดนัย สังขทรัพย์
การดูแลและการส่งต่อสำหรับเจ้าหน้าที่ในศสช. โดย นพ. วิเศรษฐ วัชโรทน
การเยี่ยมหลังคลอด โดย คุณเพ็ญศรี พันธ์ทรัพย์ พยาบาลวิชาชีพ 7 หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติกรรมหลังคลอด
นพ.ดนัย สังขทรัพย์ สูติ-นรีแพทย์
คุณเพ็ญศรี พันทรัพย์ หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติกรรมหลังคลอด
วิทยากรที่เชิญมาสอนทุกท่าน ให้ความร่วมมือดีมาก ๆ มีการเตรียมการสอนมาอย่างดี โดยเฉพาะ นพ. วิเศรษฐ วัชโรทน ได้รับการประเมินดีมาก ส่วนคุณอรพินท์ และคุณเพ็ญศรี เป็นการสอนที่มาจากใจ การสอนที่นำแนวปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมาบอกต่อ และเปิดโอกาสให้ปรึกษาทางโทรศัพท์มือถือ ขอขอบพระคุณแทนพี่น้องชาว PCU มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เรียนถามอาจารย์เพิ่มเติมคะว่ามีแนวทางการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงอย่างไร
ปีที่แล้วเคยจัดทำโครงการการเชื่อมโยงเครือข่ายการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในภาพของ cup ให้กับรพ. ชุมชนที่สนใจ โดยมีประเด็นของรร.พ่อแม่เป็นพื้นฐาน เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับข้อมูลด้านสุขศึกษาได้ครบถ้วนไม่ว่า จะไปฝากครรภ์ที่ใดก็ตาม รายละเอียดจะอยู่ที่ blog/โรงเรียนพ่อแม่ ค่ะ
ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ
อยากรู้เกี่ยวกับ
อ.ปิยะเนตร นามสกุลจำไม่ได้
หัวหน้าพยาบาลสูตินารีค่ะ
ขอประวัตินะค่ะ
อยากรูว่ามากเลยค่ะ
ว่ามีพี่น้องกี่คน
อยากรู้ประสบการด้วยค่ะ
ใครรู้บอกแพนด้วยนะค่ะ
ขอบคุนมากๆนะค่ะ
ดิฉันเป็นคนหนึ่งค่ะที่ประทับใจโรงพยาบาลนี้มากเพราะว่าดิฉันคลอดลูกที่โรงพยาบาลนี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากบุคลากรของที่นี่และที่สำคัญทำให้ดิฉันรับรู้ว่านมแม่มีประโยชน์มากแค่ไหนที่ร.พ.นี้สอนการดูแลลูกทุกอย่างจริงๆไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำให้ลูก,การเช็ดตัวให้ลูกและที่สำคัญคือการให้นมลูกที่ถูกวิธีเมื่มมีอุปสรรค์ปัญหาไม่ว่าจะหัวนมแตกเนื่องจากท่าให้นมไม่ถูกวิธีทางร.พ.นี้ก็ช่วยแก้ปัญหาซึ่งตัวดิฉันเองก็ประสบปัณณหาหัวนมแตกเนื่องจากให้ลูกดูดนมไม่ถูกวิธีจนท้อไปเลยค่ะเพราะว่ามันเจ็บมากแต่ที่นี่ก็สอนและช่วยรักษาจนหายกลับมาให้นมลูกได้จนถึง1ขวบค่ะเมื่อเปรียบเทีบยกับโรงพยาบาลเอกชนอื่นๆแล้วเค้าไม่เคยปลูกฝังให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เลยบางคนให้นมลูกไม่เป็นก็มีข้อแตกต่างระหว่างร.พ.เอกชนกับร.พ.พุทธ1.รพ.เอกชนไม่เคยสอนให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง..2.รพ.เอกชนเมื่อลูกคลอดออกมาแล้วอำนวยความสะดวกด้วยการนำลูกไปเลี้ยงให้แต่ทางรพ.พุทธให้แม่ฝึกเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง2ชั่วโมงหลังคลอดเพื่อให้แม่ได้ใกล้ชิดกับลูกน้อยได้ไวที่สุด...มันทำให้ทัศนคติที่ดิฉันมีต่อรพ.พุทธชินราชเปลี่ยนไปทันทีค่ะตอนนี้ภูมิใจมากที่เราสามารถบอกใครๆได้ว่าดิฉันเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งตอนนี้ลูกชายดิฉันอ้วนท้วนสมบูรณ์และพัฒนาการไปได้เร็วมากเมื่อเรีบยเทัยบดับเด็กที่อายุ 1 ขวบ4เดือนเท่ากันและแข็งแรงมากขอบคุณรพ.พุทธค่ะขอบคุณจริงๆ ( กระทู้นี้ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆทั้งสิ้นแต่ดิฉันอยากบอกกับทุกคนว่าอย่ามองโรงพยาบาลนี้แต่ภายนอกที่นี่มีอะไรดีมากกว่าที่คุณคิด )