ประสบการณ์ในการ present งานภาษาอังกฤษให้ฝรั่งฟัง


เก็บมาเล่าเพราะคิดถึงอาจารย์ที่แสนดี...Professor Roger Taylor

อ่านบันทึกของอ.วิจารณ์เล่าเรื่องเพื่อนๆคุยถึงความหลัง สมัยไปเมืองนอกใหม่ๆ และปัญหาเกี่ยวกับการพูดแล้ว ติดใจที่อ.หมอวลีเขียนเล่าถึงตอนที่ต้อง present งานจากการอ่าน papers แล้วเอามาพูด ซึ่งซ้อมมาอย่างดี แต่เวลา present โดนอาจารย์บอกให้ไปตะโกนมาจากหลังห้อง เพราะพูดเสียงเบาไป เหมือนมาบ่นอะไรให้คนฟังฟัง

ทำให้ระลึกถึงอาจารย์ที่ปรึกษาที่แสนดีของตัวเอง คือ Professor Roger Taylor ท่านเป็น cardiologist ที่เกษียณแล้ว จำได้ว่าครั้งแรกที่ต้อง present ในงานประชุมวิชาการประจำปีของภาควิชา Medicine อาจารย์ขอให้ซ้อมพูดให้ฟัง พร้อมทั้ง slide Power Point พออ้าปากพูดไปได้แค่ slide ที่หนึ่ง ก็โดนอาจารย์ดุทันทีด้วยเสียงอันดังว่า "Anothai you have to speak louder and stronger. People have trouble with your accent because you're not a native speaker so you have to speak clearly and loudly" แล้วอาจารย์ก็แสดงให้ดูทันทีด้วยท่าทางแข็งขัน และเสียงดัง จนถึงบัดนี้ยังจำได้ไม่ลืมเลยค่ะ ทุกครั้งที่จะต้องไปพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าที่ประชุม ก็จะพยายามพูดให้เสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต้องลืมความสงบสำรวม เรียบร้อยแบบไทยๆของเราไปเลย

อาจารย์สอนเทคนิคให้ด้วยว่า ให้พูดช้าๆ และพูดประโยคไม่ยาวมาก ใช้วิธีให้ภาพบรรยายความมากกว่าการอธิบายเป็นคำพูด แต่ที่สำคัญที่สุดคือ "Clearly and Loudly"

หมายเลขบันทึก: 44693เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2006 22:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 20:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • เทคนิคอย่างนี้...สบม. สบายมากเลยค่ะ
  • เพราะว่าเสียงดังอยู่แล้ว
  • ว่าแต่ว่าถ้า.. accent ...ก็ยังไม่ได้..แล้วมันจะไหวเร้อ..คะ ?

accent ในที่นี้หมายถึงสำเนียงนะคะ คือเราออกเสียงเน้นที่ถูกต้อง ฝรั่งจะเข้าใจ เพียงแต่เขาจะรู้ว่านี่คือ Thai accent ยกตัวอย่างเช่น คำว่า proposal เราต้องออกเสียงว่า โพร โพส ซอล ไม่ใช่ พร้อพ โพร ซอล แบบที่เราชอบพูด เราต้องพูดให้ถูก แต่ยังไงๆเราก็จะพูดได้ไม่เหมือนเสียงฝรั่งจริงๆแน่ค่ะ นั่นคือเรามี Thai accent อยู่

ฝรั่งที่เขาคุยกับชาวต่างชาติมากๆ เขาจะรู้ได้เลยค่ะว่า เป็นภาษาอังกฤษ accent ไหน เช่น American, English, Singapore, Indonesian, German, French เราแต่ละชาติจะมีปัญหาในการพูดภาษาอังกฤษต่างๆกัน แต่จะคล้ายๆกันในแต่ละกลุ่ม เขาจะรู้ว่าชาวอินโดฯจะออกเสียงอะไรไม่ได้ ชาวสิงคโปร์จะมี "ล่ะ"ตามหลัง อะไรทำนองนี้แหละค่ะ  

ฝรั่ง native จริงๆจะมีปัญหากับ accent ของทุกชาติที่เขาไม่คุ้นอยู่แล้วค่ะ

 สวัสดีครับ .. แวะมาทักทาย
       A no .. I have to go ne !
       Don't forget la'.

คุณ Handy ขออนุญาตแซวนะคะ

สวัสดีครับ .. แวะมาทักทาย
       A no .. I have to go นิ !
       Don't forget หล่ะ'

ถูกต้องไหมคะ

อาจารย์โอ๋ช่วยหยิบ ศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวกับงาน KM มาออกสำเนียงให้ฟังหน่อยสิคะ ว่าควรอ่านว่าอย่างไร เช่น Appreciation, tacit knowledge, explicit knowledge ฯลฯ

เพราะว่า เวลาจะต้องออกสำเนียงจริงๆ จะได้ไม่เด๋อด๋ามากไปค่ะ ... ขอบคุณค่ะ (แหะ แหะ เชื่อมั่นว่า อ.โอ๋ ต้องช่วยได้แน่เลย)

ต่อไปเวลานำเสนอผมควรต้อง speak clearly and lounly เพื่อข่มความไม่มั่นใจของตัวเอง

ผมเคยได้รับเชิญไปนำเสนอ งานวิจัยระดับนานาชาติ แต่พลาดโอกาสไปเพราะ ไม่ว่าง + ความไม่มั่นใจในภาษาต่างด้าว อย่างแรงของผม

เสียดายครับ ต้องฝึกฝนตัวเอง เพราะตอนนี้ก็พูดสำเนียงภาษาอังกฤษ ออก accent กลุ่มชาติพันธุ์ทางเหนืออยู่ครับ  

(ภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว แต่ยาก... มาก)

ขอบคุณพี่โอ๋ครับ 

  • นึกถึงตัวเองว่า ถ้าต้องทำเหมือนชื่อบันทึกนี้เข้าบ้าง....
  • สงสัยมีอาการ "basin addict" (เอ..หรือว่าใช้คำว่า "bowl addict"./ติดอ่าง) กันบ้างละ!

เจอประสบการณ์นี้เหมือนกัน จริงๆแล้วไม่จำเป็นเฉพาะการ present นะคะใช้เมื่อพูดกับฝรั่งโดยทั่วไปก็ได้ ถ้าปกติเป็นคนเสียงเบาหรือพูดเบาเพราะกลัวพูดผิด ต้องปรับปรุงใหม่คือพูดให้เสียงดังฟังชัดขึ้น (clearly, loudly and maybe slowly) เพราะไม่งั้นเค้าจะฟังไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่

คุณหมอนนท์คะ...ได้แน่ค่ะ เดี๋ยวจะแกะจากปากสามหนุ่มที่บ้านมาให้ ในไม่ช้าค่ะ คิดว่าคงมีประโยชน์กับชาว GotoKnow ที่ต้องใช้นะคะ แต่โดยทั่วๆไปที่เห็นๆ มักจะเป็นคำที่พวกเราลิ้นไทยๆ อ่านกันได้ไม่ผิดนะคะ แต่จะเอามาลงให้ในบันทึกใหม่ค่ะ

ดีจังค่ะ อ.โอ๋ จะ รอ ร๊อ รอ ค่ะ ... จะเอาไว้คุยกับชาวไทยเรานี่ละค่ะ

ผมว่าเป็นเทคนิคที่ดีมากครับ ดูเหมือนง่ายแต่ทำยาก เพราะต้องรวบรวมกำลังใจและความกล้า แต่ถ้าใครกล้าเปล่งเสียงออกมาทั้ง Louder และ Stronger ชาวต่างชาติคง Clearly แน่นอนครับ

"ขอบคุณคุณโอ๋มากครับ"

ช่วยจินตนาการว่า ผมยืนตะโกนมาจากหลังห้องด้วยนะครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท