การเป็นนักเขียนที่ดี มาจากการเป็นนักอ่านที่ดีก่อน อ่านแล้ววิเคราะห์/สังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ในตนเอง และเมื่อนำไปปฏิบัติจะเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น


การเริ่มเขียนก็เหมือนการเริ่มหัดทำกับข้าว ครั้งแรก ๆ อาจจะไม่อร่อย

          รับปากกับอาจารย์นิพัธไว้ว่าจะเขียน blog มานาน  แต่จนแล้วจนรอด ก็แทบไม่มีงานเขียนออกมา เพราะติดอยู่ที่ฉันเป็นนักปฏิบัติจริง ๆ พยายามที่จะเป็นนักวิชาการ และเป็นนักวิจัย งานที่เขียนออกมาแล้ว ไม่มีแหล่งอ้างอิงที่สามารถสืบค้นได้ หรือการเขียนที่คนอ่านนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ก็ไม่อยากเขียน(เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าคนไทยอ่านหนังสือกันน้อยมาก อยู่อันดับค่อนไปทางที่โหล่ของสถิติโลก) ดังนั้น การเขียนจึงเป็นสิ่งที่ยากมาก ๆ เพราะการเป็นนักเขียนที่ดีมาจากการเป็นนักอ่านที่ดีก่อน อ่านและวิเคระห์/สังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ในตัวเอง และเมื่อนำไปปฏิบัติจะยิ่งเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น สำหรับฉันเอง ฉันคิดเข้าข้างตนเองว่าฉันก็เป็นนักอ่านเหมือนกัน แม้บางครั้งฉันจะยืมหนังสือไปหนุนหัวนอน (ให้หนังสือมันออสโมซีสเข้าไปในหัวแทนการอ่าน) และฉันก็นำไปปฏิบัติจนเข้าใจเป็นอย่างดี "แล้วจะรออะไรละ เขียนเลยสิ" แต่.....ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งไล่จับความคิดที่กระจัดกระจายนำมาเรียบเรียงเป็นภาษาเขียนที่อ่านแล้วเข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการสื่อ อ่านแล้วรู้สึกดี ๆ หรือได้ประโยชน์บ้าง ฉันเปรียบตัวเองเหมือนแม่ครัวที่เปิดตู้เย็นและมองอาหารสดที่มี พร้อมกับนึกไปว่าจะทำกับข้าวอะไรดี ที่มีรสชาดอร่อย ฉันและสมาชิกในบ้านชอบกิน มันติดอยู่นิดเดียวตรงที่ฉันแทบไม่เคยทำกับข้าวเลย แต่ฉันเป็นนักชิมนะ และรู้ว่าจะต้องใส่เครื่องปรุงอะไรบ้าง ฉันคิดว่าฉันเตรียมเครื่องปรุงครบแล้วด้วย หรือถ้าไม่ครบฉันจะหามาเพิ่มทีหลัง เอาละ ฉันคิดว่าฉันจะเริ่มทำซะที ครั้งแรก ๆ ไม่กล้ารับรองความอร่อย แต่ฉันจะพยายาม และกับข้าวที่ฉันไม่มั่นใจในการปรุงฉันจะพยายามฝึกทำและไปค้นตำรามาอ่านเพิ่มเติม อย่าลืมรอชิม และเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

 

 

หมายเลขบันทึก: 44403เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2006 00:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
   การทำอาหารต้องอาศัยการฝึกทำบ่อยๆ ทดลองสูตร และชิมไปเรื่อยๆ อีกหน่อยก็ได้มาตรฐานที่สามารถนำเสนอได้อย่างภาคภูมิใจ จะช่วยชิมฝีมือนะคะ
     แค่อ่านดูบันทึกนี้ก็รู้แล้วหล่ะว่า ความคิดของอ้อยไม่กระจัดกระจายแล้ว พร้อมที่จะสื่อสิ่งดีๆ ให้กับใครต่อใครได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์การทำงาน อ้อยปรุงออกมาบ่อยๆนะ อาหารสมองก็คือความคิดที่ถ่ายทอดมาเป็นตัวหนังสือนี่แหละ เราว่าทุกคำมีคุณค่า ทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางความคิด และในที่สุดก็จะเชื่อมโยงทางจิตใจด้วย ซึ่งจะทำให้การทำงานเป็นทีมเช่นงานของเราบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีความสุข

ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ ขอบคุณค่ะพี่นู๋  รู้สึกมีกำลังใจในการเขียนขึ้นมากเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท