ไอเดีย (Idea) ดี ๆ (D-D) นำมาฝาก


จดหมายข่าวทาง E-Mail จากคุณดังตฤณ

     ปกติแล้วผมจะได้รับจดหมายข่าวทาง E-Mail จากคุณดังตฤณ อย่างสม่ำเสมอ เผื่อใครอยากได้รับข่าวสารก็สมัครได้ตาม Link ข้างต้นครับ และสัปดาห์นี้ก็เช่นกันผมได้รับมาอีกครั้ง เห็นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ส่วนหนึ่งก็เพื่อแบ่งปันการได้รู้ อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อเก็บไว้ค้นคว้าทีหลัง เป็นเรื่องของ ไอเดีย (Idea) ครับ ผม Copy มาฝากไว้เลยดังนี้ครับ


(ภาพประกอบจาก http://www.lucasaguirre.com.ar)

ไอเดียเป็นนามธรรม
เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้
แต่จะรู้ได้ว่าใครมีไอเดียอย่างไร
ก็จากงานอันเป็นรูปธรรมจับต้องได้ของเจ้าของไอเดีย

นักเขียนการ์ตูนมักสื่อถึงอาการ "ปิ๊ง"
หรืออาการ "แว๊บ" เข้ามาของไอเดีย
โดยใช้หลอดไฟเป็นสัญลักษณ์
ซึ่งก็ตรงจริงในระดับหนึ่ง
คือความรู้สึกมันเหมือนในหัวสว่างวาบขึ้นมา

แต่เห็นรูปที่วาดโดยลูคัส (Lucas Aguirre) ข้างบนแล้ว
ก็รู้สึกว่าเขาสื่อได้ดีกว่าหลอดไฟแบบเดิมๆเยอะ
เพราะไอเดียดีๆที่เป็นรูปเป็นร่าง เป็นตุเป็นตะนั้น
ทุกคนคงเคยมีประสบการณ์
ว่าเหมือนการทะลักทลายของน้ำหลังเขื่อนแตก

มีการพยายามค้นคิดวิธีมากมาย
ที่จะทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งไอเดียดี
มองภาพของลูคัสภาพนี้แล้ว
ผมนึกออกอย่างหนึ่ง
ว่าไอเดียเหมือนน้ำ ที่ต้องการแรงดัน
ถ้าแรงดันมากพอจะพังทำนบไหว
ไอเดียก็เหมือนพุ่งจู๊ดทะลุออกมาจากกะโหลก
และถ้ามีน้ำมากพอ ก็จะพรั่งพรูไม่หยุด
ไม่ขอดแห้งโดยง่าย

น้ำมาจากไหน?
คำตอบคือน้ำมีอยู่แล้วในสมองของเรา
ประสบการณ์ ความรู้ ความคิดอ่านต่างๆนั่นแหละน้ำ
แต่วัตถุดิบในสมองมักโดนหมักดองกองไว้เฉยๆ
ต่อเมื่อพยายามเค้นคิดรวบรวมสิ่งต่างๆมาประสานกัน
จึงเป็นการส่งแรงดันให้เกิดสภาพทะลักทลายของสิ่งใหม่
และสิ่งใหม่นั่นแหละที่เราเรียกกันว่าไอเดีย

ไอเดียเป็นสิ่งที่ทำให้โลกเราไม่ย่ำอยู่กับที่
และมองในแง่ของกรรมวิบาก
ไอเดียเป็นมโนกรรมที่ทำให้คนๆหนึ่งเป็นตัวของตัวเอง
เขยิบห่างออกมาจากการเป็นผู้ผิดศีลข้อ ๒
ว่าด้วยการลักทรัพย์ โดยเฉพาะทรัพย์สินทางปัญญา
ขอให้สังเกตว่าคนที่มีไอเดียเป็นของตนเอง
จะไม่พยายามลอกเลียนใครแบบโต้งๆ
แต่จะเก็บเล็กประสมน้อยแล้วผลิตงานใหม่ออกมาไม่ซ้ำใคร
ซึ่งนิสัยทำนองนี้ก็จะเชื่อมโยง
ไปถึงการไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้อะไรมาแบบผิดๆไปด้วย

คนทั่วไปเชื่อว่าไอเดียเป็นเรื่องของพรสวรรค์
เป็นหน้าที่ของคนจำพวกหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษ
เป็นต้นแบบให้ก๊อปปี้ได้ทั่วๆ
ความจริงก็คือไอเดียเป็นเรื่องของมโนกรรม
เป็นเรื่องของศรัทธาในการฝึกฝน
และไม่ใช่เพ่งเล็งแค่ว่าไอเดียเราเวิร์กหรือไม่เวิร์ก
เพราะการเพ่งเล็งคับแคบแค่นั้น
จะก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น
และถอดใจทันทีที่ล้มเหลวในครั้งแรกๆ

การเริ่มต้นฝึกที่ดี
คือไม่เพ่งเล็งที่ผลสำเร็จ
แต่เพ่งเล็งที่ได้พยายามคิด
เมื่อให้ความสำคัญกับความพยายาม
ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้หัดเดินด้วยขาตนเอง
เมื่อก้าวแรกผ่านไป ก้าวที่สองตามมา
ก้าวที่สาม สี่ ห้าจะง่ายขึ้นเรื่อยๆครับ

หมายเลขบันทึก: 44395เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2006 23:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
หัดเดินด้วยขาของตนเอง..ก้าวที่หนึ่งอย่างมั่นคง  ก้วที่สอง  สาม  สี่ก็จะมีตามมาอีก....ดีมากเลยค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท