คู่มือเลี้ยงลูกฉบับสังคมไทย


แม่ยุคนี้ส่วนใหญ่บอกว่าเลี้ยงลูกแบบเก่าผสมใหม่

               บรรยากาศวันแม่ชวนให้คิดอยากคุยเรื่องแม่ๆ  ต้องออกตัวก่อนว่าตัวเองไม่ได้เป็นแม่   แต่เคยทำงานเกี่ยวกับแม่ๆลูกๆมาหลายปี  ได้พบได้สัมผัสแม่มาหลายรูปแบบ   ทำให้รู้ซึ้งว่าไม่ว่าจะเป็นแม่แบบไหนทุกคนรักลูกสุดหัวใจ

                         เคยทำวิจัยเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกของแม่ยุคนี้   ส่วนใหญ่บอกว่าเลี้ยงแบบเก่าผสมใหม่   แบบเก่าก็คือเคยถูกเลี้ยงมายังไงชอบใจตรงไหนก็เก็บมาใช้   ส่วนแบบใหม่ได้มาจากหนังสือตำราว่าด้วยการเลี้ยงลูก

                                ที่ยังสงสัยและค้างคาใจอยู่ก็ตรงวิธีเลี้ยงแบบเก่า  ตอนวิจัยเสียดายไม่ได้เจาะลึกลงไปว่าแบบเก่าที่ว่านี้มีวิธีไหนบ้าง  และ มีประโยชน์ต่อเด็กอย่างไรตอนเติบโตเป็นผู้ใหญ่    มานึกทบทวนว่าแม่เลี้ยงเรามาอย่างไร  เห็นว่าหลายวิธีไม่เป็นที่นิยมในยุคนี้แต่เมื่อโตจึงรู้ว่ามีประโยชน์มากมาย   อย่างเช่น   เด็กยุคเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ววันหยุดไม่ต้องเรียนพิเศษอะไรมากมาย    ที่บ้านมีพี่น้องสี่คนทุกวันเสาร์อาทิตย์พวกเราต้องมีเวรทำงานบ้าน   ความยากง่ายของงานก็ไล่ไปตามลำดับ   พี่สาวคนโตช่วยแม่ซักรีดผ้ากองโต  พี่คนที่สองกวาดถูทำความสะอาดบ้านชั้นล่างและบริเวณรอบบ้าน   พี่คนที่สามทำความสะอาดบ้านชั้นบน(ห้องนอน 3 ห้องกับระเบียง)   ตัวเองซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องมีหน้าที่ล้างจานชาม  เช็ดตู้เย็น  และเช็ดฝุ่นเก้าอี้รับแขก   ไม่มีใครรู้สึกสนุกกับเวรทำงานบ้านแต่พวกเราก็ต้องทำ    แถมต้องทำอย่างจริงจังเพราะแม่จะมาตรวจดู   ถ้ายังไม่เรียบร้อยห้ามดูทีวีและห้ามออกไปเล่นนอกบ้านทำบ่อยๆเข้าเราก็ชิน   และด้วยความที่อายุพวกเราไม่ห่างกันมากทุกปีจะมีการ rotate งานกัน (เพื่อป้องกันเสียงบ่นของพวกเราว่าตัวเองทำงานหนักอยู่คนเดียวและเพื่อความยุติธรรม)

                    พอโตขึ้นนึกย้อนกลับไปรู้สึกชอบการทำงานบ้านในวัยเด็กมาก   ความที่ต้องทำงานสารพัดหน้าที่เรามีโอกาสฝึกทักษะมากมาย    ตัวอย่างเช่นงานล้างจาน  ไม่ใช่ว่านึกจะล้างก็ล้างได้เลย  เราต้องคิดเรื่องลำดับก่อนหลัง  แรกสุดต้องล้างแก้วก่อนเพราะเป็นของละเอียดอ่อนเปราะบางและไม่มีคราบมัน  จากนั้นต้องเอาจานชามมาจัดหมวดหมู่  ใบเล็กใบใหญ่  จานกลมจานแบน  ชามน้ำแกง  ถ้วยน้ำจิ้ม  ทั้งช้อนทั้งส้อม   แถมด้วยตะเกียบถ้าวันไหนกินข้าวต้ม  ปิดท้ายด้วย หม้อต้มแกง ตะหลิว กระทะ  และครกหินที่มักมีคราบพริกแกงเปรอะเปื้อน(ทำให้ต้องคิดอีกว่าจะล้างยังไงไม่ให้แสบมือ)  ทั้งหมดนี้ถ้าแยกให้ดีแล้วงานล้างจานจะสะอาดและรวดเร็วขึ้นมาก   ล้างเสร็จตอนคว่ำก็ต้องคิดอีกจะเอาใบไหนวางก่อนแล้ว ควรซ้อนด้วยใบไหน  คว่ำไม่ดีจานจะไม่แห้งสนิทและมีหวังใบล่างๆแตกเอาง่ายๆ    นี่แค่งานล้างจานอย่างเดียวได้ฝึกตั้งแต่วิธีคิดวางแผนไปจนถึงขั้นลงมือทำแก้ปัญหาในรายละเอียดจนจบงานเรียบร้อย   ยังไม่นับการได้ความอดทนและความรับผิดชอบที่แถมมาพร้อมกัน

                 ที่จริงก็เข้าใจและเห็นใจแม่(และเด็ก)ในยุคนี้ที่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว   สังเกตดูไม่ค่อยเห็นบ้านไหนจัดเวรทำงานบ้านจริงจังเหมือนยุคก่อนที่เด็กต้องทำกันแทบทุกบ้าน   แล้วก็ใช่ว่าจะมีแต่งานล้างจาน(และงานบ้านอื่นๆ)เท่านั้นที่ฝึกทักษะเหล่านี้ให้เด็กได้   แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นว่าสำหรับเด็กแล้วจะมีอะไรที่ฝึกอย่างบูรณาการได้เท่านี้(ใครมีวิธีดีๆช่วยบอกบ้าง)  ที่แน่ๆการเรียน(ทั้งพิเศษและในโรงเรียน)  ทีวี  และคอมพิวเตอร์ให้ทักษะชีวิตทักษะการงานอย่างนี้กับเด็กไม่ได้   เคยตั้งข้อสังเกตถามคนเก่งๆในที่ทำงานว่าตอนเด็กๆเป็นยังไงกันบ้าง   ปรากฎว่ามีทั้งคนเรียนเก่งและไม่เก่ง    แต่ส่วนใหญ่ล้วนผ่านการทำงานบ้านอย่างโชกโชนมาแล้วแทบทุกคน

                  วิธีเลี้ยงลูกยุคเก่ายังมีอีกหลายเรื่องที่น่าคุยและน่านำมาแลกเปลี่ยนเล่าสู่กันฟัง   หลายบ้านก็คงมีหลายแบบ   รวบรวมได้มากๆเข้าบางทีอาจจะกลายเป็น"คู่มือเลี้ยงลูกฉบับสังคมไทย"ก็เป็นได้ 

            

หมายเลขบันทึก: 44218เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2006 23:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน 2012 00:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท