กล้วย มีเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติอย่างไรนั้น ขอลอก เทวทัตตสูตร มาแสดงไว้เลยนะคะ
เทวทัตตสูตร
ว่าด้วยพระเทวทัต
[๖๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฎ เขตกรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้น เมื่อพระเทวทัตหลีกไปไม่นานนัก พระผู้มีพระภาครับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลายมาตรัสปรารภพระเทวทัตว่า ภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและชื่อเสียงเกิดขึ้นแก่พระเทวทัตเพื่อฆ่าตน เพื่อความเสื่อม
ลาภสักการะและชื่อเสียงเกิดขึ้นแก่พระเทวทัตเพื่อฆ่าตน เพื่อความเสื่อม เหมือนต้นกล้วยเผล็ดผลเพื่อฆ่าตน เพื่อความพินาศ
ลาภสักการะและชื่อเสียงเกิดขึ้นแก่พระเทวทัตเพื่อฆ่าตน เพื่อความเสื่อม เหมือนต้นไผ่ตกขุยเพื่อฆ่าตน เพื่อความพินาศ
ลาภสักการะและชื่อเสียงเกิดขึ้นแก่พระเทวทัตเพื่อฆ่าตน เพื่อความเสื่อม เหมือนไม้อ้อออกดอกเพื่อฆ่าตน เพื่อความพินาศ
ลาภสักการะและชื่อเสียงเกิดขึ้นแก่พระเทวทัตเพื่อฆ่าตน เพื่อความเสื่อม เหมือนแม่ม้าอัสดร๑ ตั้งครรภ์เพื่อฆ่าตน เพื่อความพินาศ
สักการะย่อมฆ่าบุรุษชั่ว
เหมือนผลกล้วยฆ่าต้นกล้วย
ขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ ดอกอ้อฆ่าต้นอ้อ
ลูกม้าอัสดรฆ่าแม่ม้าฉะนั้น"
..............................................
๑ แม่ม้าอัสดร หมายถึงแม่ลา ซึ่งเป็นสัตว์วงศ์เดียวกับม้า (รูปร่างคล้ายม้าแต่ตัวเล็กกว่า) ผสมพันธ์กับพ่อม้าตั้งครรภ์ขึ้น พอถึงเวลาคลอด ไม่สามารถคลอดได้ ยืนเอาเท้ากระทืบพื้นอยู่ จนต้องผ่าท้องเอาลูกออก เพราะถูกผ่าท้อง แม่ลาจึงตาย (ลูกที่เกิดจากแม่ลากับพ่อม้า) เรียกว่าม้าอัสดร (องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๖๘/๓๕๗)
(คัดจาก พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สุตตันต. ๑๓ )
เหมือนเทียนที่ฉายแสงแต่ก็ผลาญตัวเอง... อยู่ที่มุมมองครับผมว่า โลกของเรามองได้หลากมุม
ปล. อาจารย์สอนวาดภาพด้วยพู่กันด้วยไหมครับ