วันหยุดยาวที่ผ่านมาได้กลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน ซึ่งอยู่ที่ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
เป็นจังหวะที่พ่อกำลังทำป้ายสุภาษิตคำเมือง เพื่อเอาไปติดตามต้นไม้ในบ้าน พอไปเห็นก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจดี จึงได้หยิบยกเอาบางสุภาษิตมาฝากในวันนี้ อาจจะอ่านยากไปซักหน่อยสำหรับคนที่ไม่ใช่คนเมือง แต่ว่าความหมายดีมาก
ความหมาย กล่าวถึงสัจธรรมของชีวิตที่ว่าเวลาที่คนเรายากลำบากไม่มีอะไรจะกิน ก็ไม่มีใครมาแบ่งปันอะไรให้ แม้นยากจนไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่ แม้แต่ญาติพี่น้องก็ยังดูแคลน
ความหมาย คนที่นอนตื่นสายย่อมเสียเปรียบคนที่นอนตื่นเช้า เพราะต้องเสียโอกาสดี ๆ หลายอย่างไป
ความหมาย คนเราถ้าอยากมีความรู้ก็ต้องหมั่นศึกษาเล่าเรียนเปรียบกับเสียมที่ไม่ค่อยคม ถ้าทำด้ามที่หนัก ๆ เสียมนั้นก็จะสามารถใช้งานได้ดี
ความหมาย ทุกปัญหามีไว้แก้ เวลาที่เกิดปัญหาให้เผชิญหน้ากับมันห้ามถอยหนี
ความหมาย อาหารต่าง ๆ ถ้าไม่กินก็จะเน่า เปรียบเสมือนกับข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่าง ๆ ถ้าไม่นำมาใช้ก็จะลืมไปในที่สุด
ความหมาย อยากรู้ในเรื่องใด ก็ให้ไปหาผู้รู้ในเรื่องนั้น ๆ เช่น อยากเรียนก็ไปหาอาจารย์ อยากทำบุญก็ให้ไปหาพระสงฆ์
ความหมาย ทำอะไรก็ตามให้ค่อย ๆ ทำไปที่ละนิด เป็นขั้นเป็นตอน อย่าทำอะไรโดยความโลภหรือข้ามขั้น
ความหมาย ธรรมดาของสรรพสิ่งในโลกนี้ที่ตัวตนเป็นเช่นใด ก็ต้องเป็นไปตามสภาพที่ตนเป็น เช่น ต้นไม้ไผ่ที่มีตาหรือปล้องเยอะ ๆ ก็จะถูกนำมาทำบันได คนที่ไม่มีเงิน ก็ต้องคอยรับจ้างให้ได้เงินมา
ความหมาย ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พูดไพเราะ ลูกหลานก็จะรัก แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบพูดในสิ่งที่ไม่ดี ก็ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
วันนี้เอามา ฝากแค่นี้ก่อน วันหลังถ้ามีโอกาสก็จะนำมาบกล่าวอกให้ทุกท่านได้ทราบกันอีกครั้ง
หวังว่า สุภาษิตเหล่านี้คงเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ
สวัสดีครับคุณสาวิตรี
ครับ คนตื่นเช้าย่อมได้เปรียบกว่าคนตื่นสายครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ คุณสาวิตรี
ขอบคุณสำหรับภาษาคำเมืองที่หาฟังได้ยากแล้วในสมัยนี้
ขอบคุณที่สืบสานความเป็นเอกลักษณ์พื้นเมืองบ้านเฮาค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ น้อง surat
ใช่แล้วค่ะน้อง
เมื่อก่อนพี่ไม่ค่อยชอบตื่นเช้าเท่าไร
แต่ตอนนี้คงต้องปรับปรุงตัวเองแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ parichat
นาน ๆ เปลี่ยนบรรยากาศมาศึกษาคำเมือง
เราจะได้ไม่ลืมนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ชอบครับ ;)...
เรียน อาจารย์ Ongkuleemarn
ดีใจที่อาจารย์ชอบนะคะ
หนูรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจดีก็เลยนำมาขึ้นบล็อก
ขอบคุณมากค่ะ
นี่แหละที่เค้าเรียกว่า การจัดการความรู้ ครับ ;)...