Koh Chang Route เชื่อมสมุย-เขมร-เวียดนาม

การพัฒนาเกาะช้าง เป็น World Class Destination เป็นการเส้นทางท่องเที่ยวอีกเส้นทางหนึ่ง ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหลายจุด พัทยาเกาะ-สมุย-พนมเปญ-เกาะกง และเวียดนาม

ธันยา หาญพล รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กล่าวว่า การพัฒนาหมู่เกาะช้าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก จะทำให้สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในทางทะเล ในอนาคต อพท.จะสนับสนุนการท่องเที่ยวเชื่อมโยง 3 ประเทศ คือ จากเกาะกูดของไทย ไปยังเกาะกงของกัมพูชา และเกาะฟูก๊ก ของเวียดนาม ได้ประสานกับกับกัมพูชา และเวียดนาม เพื่อร่วมมือด้านการท่องเที่ยว รอการตอบกลับมา

“เอกชนที่จะจัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางนี้ อพท. จะสนับสนุนไม่เพียงเกาะกง กับเกาะฟูก๊กแต่ยังมีหลายเกาะของเวียดนามเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้”

การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ไปพัทยาเลยไปเกาะช้าง ทางอากาศสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มาก่อสร้างสนามบินที่ตราด ขนนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯมาเกาะช้าง และจะเชื่อม ไปยังกรุงพนมเปญของกัมพูชาในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชน มองว่า ยังไม่ถึงเวลาในการเข้ามาลงทุนเดินเรือที่เกาะช้าง

ศรีศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีทราน ดิสคอฟเวอรี่ จำกัด ซึ่งมีบริการด้านการท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี บอกว่า หลังจากมีการเข้าไปพัฒนาพื้นที่เกาะช้างและมีสนามบินรองรับ นับเป็นจุดเชื่อมโยงขนส่งนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทางต่อโดยทางเรือเข้าสู่หมู่เกาะช้างได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

“ถามว่าบริษัทฯ มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนหรือไม่คงยังไม่ใช่ในช่วงนีเพราะมีธุรกิจอยู่ฝั่งอันดามันต้องพัฒนาให้ดีก่อนที่ทราบมีผู้ประกอบการเรือขนส่งนักท่องเที่ยวเกาะช้างอยู่แล้ว”

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีท่าเรือที่บางรัก บนเกาะสมุย อยู่ติดกับสนามบินบางกอกแอร์เวย์ส จึงเป็นการถ่ายเทนักท่องเที่ยวจากจังหวัดตราด ที่เดินทางโดยเครื่องบินเข้าสู่เกาะสมุยไปยังฝั่งทะเลอันดามันได้ในอีกทางหนึ่งได้

การบูมเส้นทางท่องเที่ยวหมู่เกาะช้าง มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวคนไทยและคนต่างประเทศทั่วโลกรู้จักและสนใจเดินทางมาท่องเที่ยว ชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานภาคกลาง เขต 5 (ตราด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้จัดทำแผนการตลาด(marketing) เชิงรุกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโรดโชว์ทั้งในประเทศไทย หรือต่างประเทศ เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจ.ตราด และเกาะช้างให้มากยิ่งขึ้น หลังจากนโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญเกาะช้าง จำนวนนักท่องเที่ยวก็เพิ่มจาก 600,000 คนเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพิ่มเป็น 830,000 คน แบ่งเป็นสัดส่วนคนไทย 450,000 คน และต่างชาติ 150,000 คน เพิ่มขึ้น 40% เลยทีเดียว

“เร็วๆ นี้ ทางททท.ตราด จะร่วมกับการท่องเที่ยวภาคตะวันออก และตัวเอกชน ผู้ประกอบการจะเดินทางไปโรดโชว์ในรัสเซีย ญี่ปุ่น จีน ยูเครน และเกาหลีใต้ หรือตลาดในประเทศ เรามีการโรดโชว์ทางภาคเหนือ อย่างเช่น เชียงใหม่ เชียงรายพิษณุโลก หรือภาคอีสาน ที่โคราช อุดร ขอนแก่น เพื่อแนะนำแหล่งท่องเที่ยวกับกลุ่มเป้าหมายและดึงมาเที่ยว”

ชูชาติ บอกว่า ฐานเดิมจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเกาะช้างประมาณ 80% เป็นคนไทย แต่ทิศทางใหม่ททท.เขต 5 (ตราด) ต้องการหาตลาดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เข้ามาเสริม จะเห็นได้จากแผนโรดโชว์ต่างประเทศที่เราวางแผนไว้ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป จากประเทศเยอรมนี อังกฤษ และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ตอนหลังเดินทางมาเที่ยวมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ จ.ตราด บินวันละ 3 ไฟล์ เข้ามาแชร์สัดส่วนลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น 30 เปอร์เซ็นต์จากเดิมที่นักท่องเที่ยวคนไทยและเอเชียมีประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

“การเดินทางทางรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง หรือเดินทางจากเวียดนาม ผ่านเกาะกง (กำลังสร้างถนน) ภายในอีก 2 ปี จะเป็น Gateway สู่อินโดจีน โดยมีตราดเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ผมเชื่อว่า เกาะช้างเดินมาถูกทางแล้ว โดยดูจากเงินที่ไหลเข้าเกาะช้างเมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นจำนวน 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5 ปีที่แล้ว ที่มีรายได้เข้าเกาะช้างประมาณ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น”

“ผมมองว่ากลุ่มเป้าหมายใหม่จากโซนยุโรป นิยมท้องทะเล แสงแดด และบรรยากาศส่วนตัว ทำให้จำนวนเพิ่มมากขึ้น”