ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา...กับการดำเนินกิจกรรมตามจังหวะการเต้นของหัวใจ บวกกับสัมผัสของลมหายใจที่เข้าออก บอกให้เราได้รับรู้ว่า “ชีวิต” ยังต้องดิ้นรนตามกระแสการไหลเวียนวนของสายโลหิต สุขบ้างทุกข์บ้างเป็นธรรมดาของสรรพสิ่งบนโลกใบใหญ่ที่เบี้ยว ๆ บูด ๆ ตามแต่อารมณ์ของคนในสังคมโลก
วันนี้เป็นเช้าที่อากาศสดใส ไม่มีแม้แต่เงาของเมฆมาบดบังให้ชีวิตหม่นหมอง...กอรปกับสายตาที่เหลือบไปมอง...”พี่ชายคนดี” ที่กำลังยืนส่งยิ้มมาให้อย่างละมุนละไม ยิ่งทำให้เช้าวันนี้เป็นเช้าวันที่วิเศษสุดในชีวิตก็ว่าได้ เช้าวันนี้เป็นเช้าแห่งการเดินทางแต่ไม่ไกลมากมายนัก เพื่อพักผ่อนสมองหลังจากที่ล้ามาจากการทำงานและขอหลบผู้คนในสังคมไปพักผ่อนตามแต่ใจต้องการ...พี่ชาย ชอบชีวิตที่เรียบง่ายของชนบทบ้านเรา และแน่นอนที่สุดน้องสาวก็ต้องชอบด้วยเช่นกัน นี่คือ สิ่งที่ทำให้เราไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว เนื่องจากเราต่างคนต่างที่จะยอมให้แก่กัน ด้วยความเข้าใจและเต็มใจ ไม่แม้ที่จะฝืนใจทำ เพราะเราต่างยอมรับในความคิดของกันและกัน
รถคันเก่า...สีขาวหม่น...แล่นผ่านเส้นทางถนนของชนบท ลัดเลาะไปตามแนวทางของวิถีธรรมชาติ จุดหมายปลายทางที่ตนได้รับรู้เป็นบ้านพักตากอากาศในชนบท เนื่องจากเสียงที่เล็ดรอดจากการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างพี่ชายกับเจ้าของบ้านพัก ก่อนหน้านี้พี่ชายเคยเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อเจ้าของบ้านพักให้ฟังอยู่เนือง ๆ การมาพักผ่อนในครั้งนี้จึงทำให้เราตัดสินใจไม่ยากลำบากอะไรมากมายนัก...บวกกับคำเชิญชวนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกประทับใจของเจ้าของบ้านพักครั้งแรกเจอกัน
ปากทางเข้าที่พัก สายตาตนมองเห็นพี่เจ้าของบ้านพัก ยืนรอรับเราอยู่หน้าปากซอย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความปลื้มใจกับการมาเยือนของแขกที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา โดยเฉพาะฉันด้วยแล้วนี่คือครั้งแรกของการพบเจอ จึงเรียกเขาว่า “คนแปลกหน้า” พี่ชายชะลอรถเพื่อพูดคุยและทักทายกันตามมารยาทของสังคมไทย ที่พักอยู่ด้านในอีกประมาณไม่กี่อึดใจ ด้วยเพราะสายตามเหลือบไปเห็นหลังคาสูง ๆ กระเบื้องอิฐโบราณเป็นบ้านพักตากอากาศแบบฉบับของชนบทแท้ ๆ พี่ชายค่อย ๆ ขับเคลื่อนรถไปเรื่อย ๆ ผ่านคันนา และบ่อปลาที่ขุดไว้เพื่อเป็นอาหารของชาวบ้าน วิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบ และสุขยิ่งนัก
เมื่อรถจอดสนิท...พี่เจ้าของบ้านวิ่งมารับด้วยความปิติและยินดี พาเราไปดูที่พักตามวิถีชาวบ้าน บ้านพักอาจไม่ถูกใจฉันเมื่อยามแรกเห็น แต่เกิดความประทับใจเจ้าของบ้านเสียแล้วซิ!! ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่น และให้ความเป็นกันเอง ไว้ใจกันและกัน ความคิดหนึ่งแล่นขึ้นมา ทำไมเจ้าของบ้านพักผู้นี้ถึงไว้วางใจเราได้ถึงขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่นี่เป็นครั้งแรกของการพบกับฉัน และเป็นครั้งที่สองที่ได้เจอกับพี่ชาย ความไว้วางใจกันและกันเกิดขึ้นกับเจ้าของบ้านหลังนี้ได้อย่างไรกัน...ยังคงเป็นคำถามที่ยังค้างคาใจ
การต้อนรับจากเจ้าของบ้าน ซึ่งอยู่กันสองคน สามี – ภรรยา เป็นข้าราชการเกษียณ...จากการพบเจอและพูดคุยกับแขกผู้มาเยือนที่ต่างคนต่างแปลกหน้ากัน แต่ด้วยไมตรีจิตและมิตรภาพที่ต่างฝ่ายต่างหยิบยื่นให้แก่กัน ฉันถามตัวเองขณะที่พูดคุยสนทนากัน...ช่องว่างของความระแวง...ความไม่ไว้วางใจกันหายไปไหนหมด ? “เรา” รู้สึกแปลกใจ จนเกิดความประทับใจมิรู้ลืม...”ตนและพี่ชาย” จึงขอเก็บความทรงจำประทับใจนี้...บันทึกไว้ในความทรงจำของสมองทั้งสองซีกของเรา เพื่อบอกกล่าวเรื่องราวต่อไป
เรื่องราวแห่งความประทับใจ จาก “มิตรภาพ...ของคนแปลกหน้า” มิได้ยุติลงเพียงเท่านี้...
ขอบคุณ คุณ "พี่ชายขอบ" ค่ะ นับว่าเป็นบุญของตัวเองแท้ ๆ กับการพบพานมิตรภาพใหม่ที่เป็นมิตรแท้ค่ะ
ขอบคุณ คุณ "ขจิต" และ น้องนิว ค่ะ เชื่อค่ะว่าสังคมทุกวันน่ากลัว เราต้องคอยระแวดระวังทุกก้าวเดิน เพราะเราไม่ทราบว่าจะพบเจอกับสิ่งใดบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่พบเจอคือการเปิดใจเราให้กว้าง พร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ ให้โอกาสชีวิตในการพบเจอค้นหา แต่ต้องตั้งอยู่ในปัญญา ด้วยการพิจารณาวิเคราะห์เหตุปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องทุก ๆ แง่ ทุก ๆ ด้าน ซึ่งบางครั้งในส่วนนี้เราก็พลาดไป ทำให้โอกาสพบเจอกับคนไม่ดีก็มีมากมาย
ขอบคุณ Dr.Ka-Poom ที่เข้ามาเชิญชวน และได้ไปลงความเห็นในบันทึกเรียบร้อยแล้วค่ะ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันค่ะ
ขอบคุณ คุณ "ศุภลักษณ์" มิตรใหม่ที่อ่อนโยน ละมุนละไมยในความเป็นสตรีเพศ รับรู้ได้จากความรู้สึกแห่งสัมผัสที่น่าอัสจรรย์ ที่เรียกว่า "six sense"